• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2567

    15 ตุลาคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งลดความน่าดึงดูดของทอง เพราะทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.41 เหรียญ หรือ 0.02% อยู่ที่ระดับ 2,649.21 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.70 เหรียญ หรือ 0.40% ปิดที่ 2,665.60 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 43.9 เซนต์ หรือ 1.38% ปิดที่ 31.316 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 9.70 เหรียญ หรือ 0.98% ปิดที่ 1,004.10 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.59 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 880.57 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 8.63 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 1.46 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.29 จุด หรือ 0.28% มาอยู่ที่ระดับ 103.2 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.065% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.112% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.05% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากในการประชุมที่เหลือของปีนี้ ซึ่งมุมมองดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ด้านยูโรอ่อนค่าก่อนธนาคารกลางยุโรปประชุมสัปดาห์นี้


  • "คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ได้รับในช่วงล่าสุดบ่งชี้ว่า เฟดไม่จำเป็นต้องเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไปอย่างเร่งรีบเหมือนกับที่เคยพิจารณาไว้ในการประชุมครั้งก่อน ซึ่งสวนทางกับความคาดการณ์ของนักลง"


  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงิน 1.95 หมื่นล้านหยวน (2.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านทางข้อตกลง reverse repos ประเภทอายุ 7 วันโดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% 


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเหนือระดับ 43,000 จุดได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก่อนการเปิดเผยผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ขณะที่การซื้อขายในวันจันทร์เป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันโคลัมบัส (Columbus Day)


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,065.22 จุด เพิ่มขึ้น 201.36 จุด หรือ +0.47%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,859.85 จุด เพิ่มขึ้น 44.82 จุด หรือ +0.77% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,502.69 จุด เพิ่มขึ้น 159.75 จุด หรือ +0.87%


  • นักเศรษฐศาสตร์ของ goldman sachs กล่าวว่ามีโอกาส 15% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอยใน 12 เดือนข้างหน้า ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 20%”


  • ในการแถลงข่าววันเสาร์ รัฐมนตรีคลังจีนประกาศแผนเพิ่มการกู้ยืมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยจะช่วยรัฐบาลท้องถิ่นจัดการหนี้ อุดหนุนผู้มีรายได้น้อย สนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มทุนให้ธนาคารรัฐ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยขนาดของมาตรการกระตุ้น ทำให้ยังต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากการประชุมสภานิติบัญญัติในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า


  • จีนประกาศว่า จะเพิ่มการก่อหนี้ขึ้นอย่างมากเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว แต่ไม่มีการเปิดเผยขนาดรวมของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับการประเมินความยั่งยืนของการฟื้นตัวของตลาด


  • นักลงทุนและนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า จีนจะประกาศมาตรการกระตุ้นด้านการคลังรอบใหม่ในวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านหยวน (2.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)  ขณะที่รัฐบาลพยายามพลิกฟื้นเศรษฐกิจจีน ซึ่งจีนใหญ่เป็นอันดับสองของโลกและกอบกู้ความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน


  • คริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า IMF ได้อนุมัติมาตรการที่จะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืมของบรรดาประเทศสมาชิกลงประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี


  • องค์การการค้าโลก (WTO) ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการค้าโลกในปี 2567 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.6% ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งคาดการณ์ด้วยว่า การค้าโลกมีแนวโน้มที่จะขยายตัว 3% ในปี 2568 หากสามารถควบคุมความขัดแย้งในตะวันออกกลางได้


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั้งในปีนี้และปีหน้า


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.29% ปิดที่ 73.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.0% ปิดที่ 77.46 ดอลลาร์/บาร์เรล  


  • โอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันขยายตัว 1.9 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2.0 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน โอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันขยายตัว 1.6 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน


ข่าวเกี่ยวกับการเมือง


 

  • อิสราเอลได้สั่งให้ชาวเลบานอนอพยพออกจากเมืองต่างๆ ทางภาคใต้ของประเทศ และได้โจมตีพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (UN) ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน                                                                                                     


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.28 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  33.34 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.00-33.65 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.15-33.45 บาทต่อดอลลาร์




ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com