• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 มกราคม 2566

    25 มกราคม 2567 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังมีรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -14.92 เหรียญ หรือ -0.74% อยู่ที่ระดับ 2,014.24 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 9.80 เหรียญ หรือ 0.48% ปิดที่ 2,016 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 42.70 เซนต์ หรือ 1.90% ปิดที่ 22.889 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.40 เหรียญ หรือ 1.04% ปิดที่ 914.90 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 858.93 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 20.18 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 20.18 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.15 จุด หรือ -0.14% มาอยู่ที่ระดับ 103.35 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.178% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.384% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.21% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะรอจนถึงไตรมาส 2 ก่อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย โดยเดือนมิ.ย.ถูกมองว่าเป็นไปได้มากกว่าเดือนพ.ค.


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุว่า จีนจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ในช่วงต้นเดือนก.พ.เพื่อนำเงินบางส่วนที่ถูกกันไว้ก่อนหน้านี้เข้าสู่ระบบเพื่อส่งเสริมการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ การปรับลด RRR ลง 0.5 จุดเปอร์เซ็นต์ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องระยะยาวให้กับตลาดได้ 1 ล้านล้านหยวน 


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ แต่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ยังคงปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเน็ตฟลิกซ์ และเอเอสเอ็มแอล (ASML) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,806.39 จุด ลดลง 99.06 จุด หรือ -0.26%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,868.55 จุด เพิ่มขึ้น 3.95 จุด หรือ +0.08% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,481.92 จุด เพิ่มขึ้น 55.97 จุด หรือ +0.36%


  • เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน จากระดับ 47.9 ในเดือนธ.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 51.4 ในเดือนธ.ค.ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัว


  • คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีน (CSRC) ได้สั่งให้ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์บางแห่งห้ามทำ Short Selling หรือขายชอร์ตในดัชนีตลาดหุ้นล่วงหน้า โดย CSRC มีเป้าหมายที่จะสร้างเสถียรภาพในตลาด หลังจากตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนัก


  • กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของจีนเปิดเผยว่า จีนได้สร้างงานใหม่ในเมือง 12.44 ล้านตำแหน่งในปีที่แล้ว ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 12 ล้านตำแหน่ง แต่ก็จำเป็นต้องพยายามมากขึ้นเพื่อหนุนการจ้างงานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปีนี้ และคาดว่าจีนจะประกาศเป้าหมายการสร้างงานสำหรับปีนี้ในการเปิดประชุมสภาประจำปีในเดือนมี.ค.


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์กล่าวว่า "ช่วงเริ่มต้นปีมีข่าวดีสำหรับยูโรโซน ขณะที่ภาคการผลิตมีการชะลอตัวลงในวงกว้างเหมือนกับในปีที่แล้ว ส่วนในภาคบริการ การหดตัวลงของการผลิตกำลังชะลอตัว ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางที่เคยเกิดขึ้นในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว


  • รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) กำลังเผชิญความเสี่ยงเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นและเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากการขนส่งสินค้าผ่านทะเลแดงหยุดชะงัก แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่รู้สึกถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจก็ตาม


  • แบล็คร็อค ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยในเดือนนี้ว่า ปี 2024 จะเป็น "จุดเข้า" สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ราคาถูกทั่วโลก


  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 9.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 ปี และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 9.2% โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกไปยังสหรัฐที่เพิ่มขึ้นกว่า 20% และการส่งออกไปยังจีนที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • เศรษฐกิจของไต้หวันกำลังเผชิญความไม่แน่นอน เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับจีนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลังพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน โดยนักวิเคราะห์มีมุมมองที่แตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจไต้หวัน


  • แกนนำกลุ่ม Taiwan Caucus ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อวานนี้ ( ซึ่งนับเป็นครั้งแรกหลังจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการแยกไต้หวันให้เป็นอิสระจากจีน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันติดต่อกันเป็นสมัยที่ 3

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 75.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 80.04 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาน้ำมัน WTI ดีดขึ้นเหนือระดับ 75 ดอลลาร์ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 9.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล


  • ขณะเดียวกันมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 12.3 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.3 ล้านบาร์เรล/วันในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น


  • ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ซึ่งคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน


  • สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน โดยรายงานระบุว่า กองกำลังของ 24 ชาติซึ่งนำโดยสหรัฐและอังกฤษได้เปิดปฏิบัติการโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนระลอกใหม่ หลังจากกลุ่มฮูตีได้ทำการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงและสร้างความเสียหายต่อการค้าโลก

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 35.77 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.67 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.90 บาทต่อดอลลาร์


  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แถลงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2566 และ 2567 ขยายตัว 1.8% และ 2.8% ตามลำดับ โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยปี 66 ขยายตัวชะลอลงจาก 2.6% ในปี 65


  • นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ยืนยันว่า เศรษฐกิจไทยขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤติ และรัฐบาลเตรียมที่จะจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม






ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com