• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

    30 พฤศจิกายน 2566 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 3.35 เหรียญ หรือ 0.16% อยู่ที่ระดับ 2,044.32 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.90 เหรียญ หรือ 0.33% ปิดที่ 2,067.10 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 14.10 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 25.443 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 8.80 เหรียญ หรือ 0.93% ปิดที่ 941.40 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.02 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 878.53 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 19.04 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 39.11 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.17 จุด หรือ 0.17% มาอยู่ที่ระดับ 102.82 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 4.255% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.648% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.39% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • นายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังปรับตัวลงในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 พร้อมกับกล่าวว่าเขารู้สึกกังวลหากเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเกินไป


  • นางมิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เธอยังคงคาดหวังว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง โดยเฟดมีแนวโน้มจำเป็นต้องขึ้นต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มเติม เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อกลับลงมาสู่เป้าหมาย 2% ในระยะเวลาที่เหมาะสม


  • นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในปัจจุบันนี้อยู่ในระดับที่เข้มงวดมากพอแล้ว และมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2%


  • โธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ว่า เขาไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% หรือไม่ และเฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น


  • สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)กล่าวในวันนี้ว่า ขณะนี้ยังคงเป็นเวลาที่เร็วเกินไปสำหรับการหารือเรื่องการยุติการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ


  • นักเศรษฐศาสตร์ดอยช์แบงก์คาดการณ์เฟดหั่นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่ตลาดคาดกันไว้ โดยคาดว่าจะหั่นลงถึง 1.75% ภายในปีหน้า เนื่องจากคาดว่าสหรัฐจะเจอเศรษฐกิจถดถอยในช่วงครึ่งปีแรก


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพุธ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากการส่งสัญญาณที่ไม่สอดคล้องกันของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ตลาดไม่มั่นใจเกี่ยวกับความยาวนานในการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,430.42 จุด เพิ่มขึ้น 13.44 จุด หรือ +0.04%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,550.58 จุด ลดลง 4.31 จุด หรือ -0.09%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,258.49 จุด ลดลง 23.27 จุด หรือ -0.16%


  • สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐ ได้ออกมาเรียกร้องให้บริษัทชีอิน (SHEIN) แบรนด์สินค้าแฟชั่นออนไลน์รายใหญ่ของจีน นำหลักฐานมาพิสูจน์ว่าบริษัทไม่ได้บังคับใช้แรงงานในการผลิตสินค้าประเภทเสื้อยืดและเสื้อกันหนาว ก่อนอนุมัติเข้าทำ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐ


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นในการประชุมวันนี้


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 77.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.74% ปิดที่ 83.10 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์จากบริษัท Kpler กล่าวว่า ราคาน้ำมันได้รับปัจจัยบวกจากข่าวสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัสสามารถบรรลุฉันทามติในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น ก่อนที่การประชุมโอเปกพลัสเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของปี 2567 จะมีขึ้นในวันนี้ 


  • นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า พายุที่พัดถล่มภูมิภาคทะเลดำได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซียและคาซัคสถานในปริมาณมากถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอาจทำให้อุปทานน้ำมันอยู่ในภาวะตึงตัว

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธของฮามาสเต็มใจขยายระยะเวลาหยุดยิงในฉนวนกาซาออกไปอีก 4 วัน เพื่อแลกตัวประกันชาวอิสราเอลกับนักโทษชาวปาเลสไตน์


  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียได้ส่งโดรนกว่า 21 ลำและขีปนาวุธร่อนกว่า 3 ลูก เข้าถล่มยูเครนในช่วงข้ามคืนที่ผ่าน แต่ยูเครนสามารถทำลายได้ทั้งหมด


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 34.82 บาทต่อดอลลาร์ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.70-34.95 บาทต่อดอลลาร์


  • กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% ต่อปี พร้อมหั่นประมาณการ GDP ปีนี้จาก 2.8% เหลือ 2.4% คาดเศรษฐกิจไทยปี 2567 ขยายตัว 3.2% และอาจโตได้ 3.8% หากรวมผลของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต


  • นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการงิน (กนง.) ในช่วงที่ผ่านมาว่า กนง.ได้ทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยรวมแล้ว 2% (ตั้งแต่มิ.ย.65- พ.ย.66) ยังถือว่าต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว และอีกหลายประเทศในแถบเอเชีย อีกทั้งการส่งผ่านอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ก็ไม่ได้สูงมาก และอยู่ใน mode ที่กลับสู่ปกติ ซึ่งเป็นเหตุผลให้ กนง. คงอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ และมองว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบัน มีความเหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะมีเสถียรภาพในระยะยาว


  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนตุลาคม 2566 ว่า เศรษฐกิจไทย ในเดือนต.ค.ได้รับปัจจัยหนุนจากส่งออกขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 และท่องเที่ยว ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อปรับลดลงต่อเนื่อง จับตาสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในด้านต่างๆ


  • โฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)




ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com