• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566

    20 พฤศจิกายน 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ โดยราคาปรับฐานลงและนักลงทุนขายทำกำไร หลังจากราคาพุ่งขึ้นอย่างมากในวันพฤหัสบดี

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -0.66 เหรียญ หรือ -0.03% อยู่ที่ระดับ 1,980.73 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,984.70 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ปรับตัวขึ้น 2.1% ในรอบสัปดาห์นี้
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.10 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 23.852 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 901.70 ดอลลาร์/ออนซ์

  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 12.98 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 883.43 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 23.94 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 34.21 ตัน

 


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

 

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.58 จุด หรือ -0.56% มาอยู่ที่ระดับ 103.81 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.43 % มาอยู่ที่ระดับ 4.465% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.898% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.43% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

 

  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอกย้ำการคาดการณ์ในตลาดที่ว่า เฟดได้มาถึงจุดสุดท้ายของวงจรการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกแล้ว โดยจุดสนใจในขณะนี้อยู่ที่ว่า การลดดอกเบี้ยครั้งแรกอาจจะเริ่มขึ้นเมื่อใด 

 

  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.20% ในวันจันทร์ที่ 20 ก.ย.นี้ หลังจาก PBOC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันที่มีต่อค่าเงินหยวน

 

  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จีนได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์บางแห่งในประเทศจำกัดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดประสานกับการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงินสดก้อนใหญ่เข้าระบบการเงินเพื่อคลายความวิตกในตลาด หลังเกิดวิกฤตสภาพคล่องอย่างไม่คาดคิดในเดือนต.ค.

 

  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะระบุว่า เงินเยนที่อ่อนค่าเป็นปัจจัยลบสำหรับเศรษฐกิจของประเทศหรือไม่ "เป็นเรื่องจริงที่เยนที่อ่อนค่ามีผลกระทบเชิงลบด้วยการเร่งอัตราเงินเฟ้อในประเทศให้เพิ่มขึ้นผ่านการเพิ่มขึ้นของต้นทุนสินค้านำเข้า แต่ในขณะเดียวกัน เยนที่อ่อนค่าก็มีผลกระทบเชิงบวกด้วย เช่นหนุนการส่งออก

  • ยอดส่งออกของสิงคโปร์ลดลงเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกันในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการค้านั้น ยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการรับมือกับอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง

 


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

 

  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้ง (soft landing) และมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,947.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด หรือ +0.01%
  • ดัชนี S&500 ปิดที่ 4,514.02 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด หรือ +0.13%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,125.48 จุด เพิ่มขึ้น 11.81 จุด หรือ +0.08%


  • นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหรือชัตดาวน์ หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว ส่งผลให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล

  • กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของนักลงทุนต่างประเทศลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน


  • สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ) รายงานว่า หนี้ทั่วโลกเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 307.4 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 และสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีในกลุ่มประเทศเกิดใหม่พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาล และคาดว่าหนี้ทั่วโลกจะแตะ 310 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ หรือพุ่งขึ้นกว่า 25% ใน 5 ปี และเตือนว่า การปรับเปลี่ยนไปใช้นโยบายประชานิยมทางการเมืองอาจจะทำให้หนี้พุ่งสูงขึ้นอีกในปีหน้า

  • วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า นายจิม ชานอส ผู้จัดการกองทุนชาวสหรัฐและนักชอร์ตหุ้นในตำนาน ประกาศปิดกองทุนเฮดจ์ที่เขาบริหารจัดการมานานเกือบ 40 ปี ซึ่งเป็นกองทุนที่ทำการขายชอร์ตหุ้นเพื่อทำกำไรจากราคาหุ้นของบริษัทต่าง ๆ 



ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 4% ในวันศุกร์ โดยราคาดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่เข้าทดสอบในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพื่อเก็งกำไรและชดเชยการทำชอร์ตเซลล์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียด้วย

  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 2.99 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 75.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 3.19 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 80.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ SEB เปิดเผยว่า ตอนนี้สถานการณ์ขึ้นอยู่กับ OPEC+ ที่จะต้องส่งสัญญาณชัดเจนในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าซาอุดีอาระเบียจะเรียกร้องให้คูเวต อิรัก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม และนั่นอาจเป็นการพูดคุยที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง

 

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐระบุว่า โลกคาดหวังให้สหรัฐและจีนจัดการด้านการแข่งขันให้ดีกว่านี้ พร้อมยกตัวอย่างในการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืนของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยปธน.ไบเดนแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากพบปะกับปธน.สี จิ้นผิงของจีน


  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้พบปะกับบรรดาผู้บริหารของบริษัทสหรัฐที่นครซานฟรานซิสโก โดยเขากล่าวว่า จีนพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนและเป็นมิตรกับสหรัฐ และมีโอกาสอย่างมากที่ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในระดับทวิภาคี ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่จีนต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจทั่วโลก และกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ

 


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

  • นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า  ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ 35.15 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  35.07 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.80-35.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.00-35.30 บาทต่อดอลลาร์


  • รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ได้มีการส่งให้กฤษฎีกาตีความแต่อย่างใด โดยตามไทม์ไลน์แล้วหลังจากกระทรวงการคลังร่างกฎหมายดังกล่าวเรียบร้อย ต้องส่งให้กฤษฎีกาตีความ หลังจากนั้นจึงส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปีนี้ หลังจากนั้นส่งให้รัฐสภาพิจารณา 3 วาระ แล้วส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อ





ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com