• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566

    14 พฤศจิกายน 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 8.1 เหรียญ หรือ 0.42% อยู่ที่ระดับ 1,946.09 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.50 เหรียญ หรือ 0.65% ปิดที่ 1,950.20 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.70 เซนต์ หรือ 0.35% ปิดที่ 22.358 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 18.00 เหรียญ หรือ 2.13% ปิดที่ 863.60 เหรียญ
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.50 เหรียญ หรือ 0.35% ปิดที่ 982.30 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 2.31 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 870.45 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 10.96 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 47.19 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.18 จุด หรือ -0.17% มาอยู่ที่ระดับ 105.64 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.642% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 5.041% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.4% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรอาจเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่อัตราดอกเบี้ยของอีซีบีที่ถูกคงไว้ที่ระดับปัจจุบันเป็นเวลาหลายไตรมาสเป็นอย่างต่ำ ก็อาจจะยังทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับลงมาที่ 2% ได้


  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (เจจีบี) พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ตามผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นในปลายสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในไม่ช้า โดยผลตอบแทนเจจีบีอายุ 10 ปีพุ่งสูงสุดที่ 0.895% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. และล่าสุดอยู่ที่ 0.880% ลดลง 0.003% จากวันก่อน


  • นายเออิจิ โดเกะ หัวหน้านักวิเคราะห์ตราสารหนี้จากบล.เอสบีไอกล่าวว่า "นักลงทุนขายเจจีบีออกมา เพราะผลตอบแทนที่ระดับปัจจุบันไม่ได้ปรับตัวรับความเป็นไปได้ที่จะมีการยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ บีโอเจอาจยกเลิกนโยบายอย่างเร็วที่สุดในการประชุมในเดือนหน้า"


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้ เพื่อประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเท่าใด


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,337.87 จุด เพิ่มขึ้น 54.77 จุด หรือ +0.16%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,411.55 จุด ลดลง 3.69 จุด หรือ -0.08% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,767.74 จุด ลดลง 30.36 จุด หรือ -0.22%


  • มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงในปี 2567 และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.375% จนถึงเดือนมิ.ย. 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหลังจากนั้น


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนต.ค.ในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.4% ในเดือนก.ย.


  • ฝ่ายสนับสนุนนโยบายของสำนักเลขาธิการความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในกลุ่มเอเปกมีแนวโน้มจะเติบโตชะลอตัวลงในปีหน้าและยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ ในขณะที่จีนกำลังดิ้นรนฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนที่ทำให้การค้าซบเซาลง ทั้งนี้ เอเปกเปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจ โดยระบุว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเอเปกจะเติบโตลดลงสู่ 2.8% ในปี 2567 จากการเติบโตระดับ 3.3% ในปี 2566


  • เงินเฟ้อภาคค้าส่งของญี่ปุ่นชะลอตัวหลุดระดับ 1% เป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 2 ปีครึ่ง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า แรงกดดันด้านต้นทุนที่ทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นแบบเป็นวงกว้างนั้นเริ่มลดน้อยลงแล้ว


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า ปัจจัยพื้นฐานของตลาดน้ำมันยังคงมีความแข็งแกร่ง พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 78.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 82.52 ดอลลาร์/บาร์เรล


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • สภาคองเกรสสหรัฐกำลังเร่งผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดดำเนินงาน หรือชัตดาวน์ ได้ทันกำหนดเส้นตายในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย.นี้


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนมีแนวโน้มที่จะเปิดอกหารือกันประเด็นไต้หวันเมื่อทั้งคู่พบปะกันนอกรอบการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ในเมืองซานฟรานซิสโกในวันพุธ (15 พ.ย.) ในขณะที่ทั้งคู่พยายามจะพลิกฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน


  • ผู้อำนวยการขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า โรงพยาบาลอัลชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา ไม่สามารถเปิดทำการได้อีกต่อไป และจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตก็เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อิสราเอลยังคงถล่มฉนวนกาซาอย่างรุนแรงเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส


  • นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ระบุว่า อิสราเอลได้เสนอเชื้อเพลิงให้กับโรงพยาบาลอัลชิฟาในฉนวนกาซา ซึ่งหยุดทำการหลังจากเชื้อเพลิงหมด แต่กลุ่มติดอาวุธฮามาสปฏิเสธข้อเสนอนี้


  • หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตัน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารยูเครนเป็นผู้ประสานงานในการโจมตีท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม (Nord Stream) โดยนอร์ด สตรีม ซึ่งเป็นท่อก๊าซที่รัสเซียใช้ในการส่งก๊าซขายให้กับยุโรป ถูกวางระเบิดใกล้เกาะบอร์นโฮล์มของเดนมาร์กเมื่อเดือนก.ย. 2565 สร้างความเสียหายไป 3 ท่อจากทั้งหมด 4 ท่อ โดยสหรัฐและนาโตประณามเหตุการณ์ครั้งนั้นว่าเป็นการก่อวินาศกรรม ขณะที่รัสเซียระบุว่าเป็นการก่อการร้ายระหว่างประเทศ


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ  35.99 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.01 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.10 บาทต่อดอลลาร์


  • โฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า บริษัท Fitch Ratings (Fitch) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ณ ระดับมีเสถียรภาพ โดยคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก 2.8% ในปี 2566 เป็น 3.8% ในปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างมั่นคง และภาคการส่งออกที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง


  • ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีการประกาศเงื่อนไขและรายละเอียดของ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ทางสมาคมฯ เห็นว่าเป็นนโยบายที่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้โตได้ในระยะสั้น ทั้งยังช่วยในการอัดฉีดเม็ดเงินให้เข้าถึงทุกพื้นที่ เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินอย่างมีศักยภาพ ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการทุกระดับ อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ขอเสนอแนะให้ขยับเวลาประกาศใช้ในเดือนเมษายนแทนพฤษภาคม จะเป็นการสร้าง impact ให้โครงการนี้มากยิ่งขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนา


  • กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลมีความชัดเจนเรื่อง เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มองว่าเดินมาถูกทางแล้ว โดยเห็นด้วยที่จะมีการออก พ.ร.บ.กู้เงิน วงเงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นแหล่งทุนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าเรื่องดังกล่าวอาจจะใช้ระยะเวลาอีกสักระยะหนึ่ง และมีโอกาสวงเงินกู้ก็อาจถูกลดทอนลงได้


 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com