• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566

    8 พฤศจิกายน 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยฉุดตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -9.25 เหรียญ หรือ -0.47% อยู่ที่ระดับ 1,968.18 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15.10 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 1,973.50 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 64.50 เซนต์ หรือ 2.78% ปิดที่ 22.589 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 19.60 ดอลลาร์ หรือ 2.14% ปิดที่ 898.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 867.57 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 8.08 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 50.07 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.26 จุด หรือ 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 105.53 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.08 % มาอยู่ที่ระดับ 4.566% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.924% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.36% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า เฟดอาจจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้นจึงจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับเป้าหมายได้ โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่าภารกิจการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อของเฟดนั้น ยังไม่เสร็จสิ้น


  • สมาชิกสภาบริหาร ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีต้องเฝ้าระวังเงินเฟ้อต่อไป และต้องเตรียมตัวพร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งถ้าจำเป็น พร้อมเตือนว่า อัตราดอกเบี้ยจะไม่ถูกปรับลดลงในเร็วๆนี้ เขากล่าวว่า " เราควรจะระมัดระวังอย่างมาก เราควรจะเตรียมพร้อมอีกครั้งที่จะขึ้นดอกเบี้ยถ้าจำเป็น และเราต้องเฝ้าระวังต่อไป"


  • ตลาดการเงินกำลังเพิ่มคาดการณ์ว่าอีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่า อีซีบีจะเป็นธนาคารกลางชั้นนำแห่งแรกที่ผ่อนคลายนโยบายเพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญกับภาวะถดถอย ซึ่งสวนทางกับเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ


  • รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า เขา "ไม่ได้รู้สึกวิตกมากเกินไป" กับภาวะเศรษฐกิจของจีน ซึ่งกำลังฟื้นตัวได้ยากท่ามกลางอุปสงค์ผู้บริโภคที่ชะลอตัว และวิกฤติหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ จีนกำลังประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และวิกฤติหนี้มหาศาลในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดหลายราย ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้แก่นักลงทุน และทำให้เกิดวิตกเกี่ยวกับการลุกลาม


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,152.60 จุด เพิ่มขึ้น 56.74 จุด หรือ +0.17%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,378.38 จุด เพิ่มขึ้น 12.40 จุด หรือ +0.28% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,639.86 จุด เพิ่มขึ้น 121.08 จุด หรือ +0.90%


  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีของจีนเป็น 5.4% จาก 5% โดยระบุถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งหลังโควิด-19 แต่ไอเอ็มเอฟก็ยังคงคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวในปีหน้า โดยจีดีพีจีนอาจขยายตัวลดลงสู่ระดับ 4.6% ในปีหน้า เนื่องจากภาวะชะลอตัวต่อเนื่องในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน และอุปสงค์ต่างประเทศที่ซบเซา 


  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นในเดือนก.ย. ร่วงลง 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% ในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน รวมทั้งรายงานการส่งออกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันด้วย


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.45 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 77.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.57 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 81.61 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 13.52% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มคำสั่งซื้อโดยใช้โควตานำเข้าใหม่ และอุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดโกลเดนวีค (Golden Week) ทั้งนี้ จีนนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนต.ค.ทั้งสิ้น 48.97 ล้านตัน หรือ 11.53 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระดับ 11.13 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย.


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • บรรดาผู้นำหน่วยงานของสหประชาชาติ (UN) และองค์กรด้านมนุษยธรรมออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวานนี้เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมทันทีในฉนวนกาซา


  • นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เน้นย้ำถึงสิทธิของปาเลสไตน์ในการปกป้องตนเอง และกล่าวว่ามาเลเซียจะยังคงความสัมพันธ์กับกลุ่มฮามาสต่อไป แม้ว่าจะถูกกดดันจากสหรัฐก็ตาม


  • นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ระบุว่า อิสราเอลจะรับผิดชอบด้านความมั่นคงโดยรวมในฉนวนกาซาเป็นระยะเวลาไม่มีกำหนด ภายหลังจบสงครามกับกลุ่มฮามาส โดยกล่าวเสริมว่าอิสราเอลอาจพิจารณาพักการสู้รบในกาซาในช่วงสั้น ๆ เพื่อให้หน่วยงานด้านมนุษยธรรมส่งของช่วยเหลือเข้าไปและให้ตัวประกันออกมาจากพื้นที่ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี นายกฯ เนทันยาฮูปฏิเสธกระแสกดดันจากนานาชาติที่เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิง


  • นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐเตรียมเป็นเจ้าภาพต้อนรับนายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีนและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเป็นระยะเวลา 2 วัน เพื่อหารือประเด็นทางการทูต ณ เมืองซานฟรานซิสโกระหว่างวันที่ 9-10 พ.ย.นี้


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การคว่ำบาตรของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อโครงการก๊าซธรรมชาติอาร์กติก แอลเอ็นจี 2” (Arctic LNG 2) ในรัสเซีย ซึ่งชาวญี่ปุ่นถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 10%


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดเช้านี้ ที่ระดับ  35.51 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.58 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.35-35.65 บาทต่อดอลลาร์


  • ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก มั่นใจยอดส่งออกในปี 2566 จะหดตัวไม่มาก หลังแนวโน้มการส่งออกกลับมาเป็นบวก 2 เดือนต่อเนื่อง และมีคำสั่งซื้อ เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.) โดยทิศทางการส่งออกปีนี้ คงไม่ติดลบไปมาก น่าจะอยู่แค่ -1% ไม่เกิน 1.5%




ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com