• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 กันยายน 2566

    22 กันยายน 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -10.53 เหรียญ หรือ -0.55% อยู่ที่ระดับ 1,920.09 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 27.50 เหรียญ หรือ 1.40% ปิดที่ 1,939.60 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 14.90 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 23.687 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 17.70 เหรียญ หรือ 1.88% ปิดที่ 924.60 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.58 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 878.83 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 11.27 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 38.81 ตัน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.05 จุด หรือ -0.05% มาอยู่ที่ระดับ 105.38 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 4.496% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 5.148% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.65% 

  

  • ผู้กำหนดนโยบายการเงินส่วนใหญ่กล่าวว่า อาจจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มสู่ระดับ 5.6% ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจที่สดใสขึ้นเกิดขึ้นพร้อมกับการคาดการณ์ว่า การลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าจะเกิดขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้เมื่อ 3 เดือนก่อน และพวกเขายังคาดว่า อัตราดอกเบี้ยจะปิดปีหน้าที่ 5.1% ซึ่งสูงกว่าที่เคยคาดไว้ในเดือนมิ.ย.อยู่ 0.5%

  • นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า พวกเขาคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 4 ปีหน้า ซึ่งช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในไตรมาส 2

  • ความคิดเห็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โกลด์แมน และมอร์แกน สแตนเลย์ไม่คาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ แต่บาร์เคลย์ส, แต่ในขณะที่ แบงก์ ออฟ อเมริกา และซิติกรุ๊ปคาดว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนพ.ย

  • นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในปีหน้า ขณะที่ตลาดเริ่มคาดการณ์การสิ้นสุดของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ

  • โกลด์แมน แซคส์คาดว่า บีโออีจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25% ในการประชุม และยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยปลายทางสู่ระดับ 5.25% จาก 5.5% ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยความกังวลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,070.42 จุด ลดลง 370.46 จุด ลดลง -1.08%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,330.00 จุด ลดลง 72.20 จุด หรือ -1.64% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,223.98 จุด ลดลง 245.14 จุด หรือ -1.82%


  • ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 201,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย

  • สำนักข่าวซีซีทีวีรายงาน การประชุมคณะรัฐมนตรีประเทศจีน จีนจะเร่งการออกนโยบายมากขึ้นเพื่อทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่เศรษฐกิจส่งสัญญาณมีเสถียรภาพ

  • สำนักข่าว The Business Times รายงานว่า สถาบันเฟรเซอร์  สิงคโปร์ แซงหน้าฮ่องกงขึ้นเป็นเศรษฐกิจเสรีที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก โดยเปิดเผยดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจของโลกพบว่า ฮ่องกง ที่ในช่วงครึ่งศตวรรษเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเสรีที่สุดในโลก แต่ปัจจุบันตกมาอยู่ที่อันดับ 2 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มในปี 1970 และคาดว่าจะลดลงไปอีกในปีต่อ ๆ ไป

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมัน WTI ปิดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากข่าวรัสเซียประกาศระงับส่งออกน้ำมันทั่วโลกเป็นปัจจัยหนุนตลาดในระหว่างวัน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือประมาณ 0.1% ปิดที่ 89.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.30 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์คาดอุปสงค์น้ำมันของจีนปี 2566 เพิ่มขึ้น 8% โดยคาดว่าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว คาดว่าจะสูงถึง 70.79 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.9% จากปีที่แล้ว ในขณะที่การนำเข้าก๊าซทางท่อคาดว่าจะสูงถึง 6.95 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับปี 2564 อยู่ 10.7%

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • โปแลนด์ หนึ่งในพันธมิตรที่แน่นแฟ้นที่สุดของยูเครน ประกาศว่า จะไม่จัดหาอาวุธให้กับยูเครนอีกต่อไป เนื่องจากข้อพิพาททางการทูตเกี่ยวกับการค้าธัญพืชทวีความรุนแรงขึ้น และจากกรณีถ้อยแถลง  เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่กล่าวต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) ว่า บางประเทศแสร้งทำเป็นสามัคคีกับยูเครน ซึ่งโปแลนด์ประณามว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวไม่ยุติธรรมต่อโปแลนด์ ที่ให้การสนับสนุนยูเครนมาตั้งแต่วันแรกของสงคราม

  • บลูมเบิร์กรายงาน นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนและคณะตัวแทนจากยูเครน ได้เข้าพบปะกับบรรดาผู้นำในวงการการเงินของสหรัฐ เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้กองทุนภาคเอกชนเพื่อช่วยฟื้นฟูประเทศยูเครน โดยเจพีมอร์แกนเป็นที่ปรึกษาของนายเซเลนสกีในการดึงดูดเงินทุนภาคเอกชนสำหรับโครงการต่างๆ

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเช้านี้ เปิดตลาด 36.14 บาทต่อดอลลาร์  ใกล้เคียงกับราคาปิดเมื่อวานที่ 36.15 บาทต่อดอลลาร์  โดยมองกรอบวันนี้ในช่วง 36.00- 36.30 บาทต่อดอลลาร์

  • นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กที่กรุงนิวยอร์กว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างความรุดหน้าเพื่อให้ตามทันประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคกล่าวว่า เป้าหมายในระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเขาคือการเร่งผลักดันเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวโดยเฉลี่ย 5% ต่อปี โดยจะเน้นกระตุ้นการผลิตและดึงดูดการลงทุนจากบริษัทสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเทสลา โดยเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่นายเศรษฐาคาดหวังนั้น อยู่สูงกว่าระดับ 1.8% ในไตรมาส 2/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี
  • นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ได้รับทราบสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนใประเทศไทยแล้ว แต่เรื่องนี้อยู่ในความดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รัฐบาลไม่ได้ไปก้าวก่าย ทั้งนี้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ผลตอบแทนระยะสั้น ซึ่งทำให้เงินทุนไหลออก เพื่อเก็งกำไร ในแง่ประเทศอื่นที่มีส่วนต่างของดอกเบี้ยสูงกว่า
  • บอนด์ยีลด์ไทย 10 ปีขึ้นแรง แตะ 3.2% สูงสุดในรอบปีสมาคมตราสารหนี้ชี้บอนด์ยีลด์ขึ้น มาจากความกังวลนักลงทุน หลังคาดบอนด์ล้นตลาด ส่งผลเทขายบอนด์สะพัดกรุงไทยหวั่นต้นทุน ภาครัฐพุ่ง หากกู้เงินผ่านการออกบอนด์ ชี้เงินบาทอ่อนค่าแรง สวน ทางเพื่อนบ้าน


 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com