• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 กันยายน 2566

    20 กันยายน 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธนี้ ตามเวลาสหรัฐ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -2.33 เหรียญ หรือ -0.12% อยู่ที่ระดับ 1,931.36 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,953.70 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.20 เซนต์ หรือ 0.18% ปิดที่ 23.456 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 10.10 ดอลลาร์ หรือ 1.08% ปิดที่ 948.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 878.83 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ11.27 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 38.81 ตัน


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.02 จุด หรือ -0.02% มาอยู่ที่ระดับ 105.08 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.35% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 5.09% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.74% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างประเทศเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. โดยเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน แม้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยมีความไม่แน่นอน ซึ่งถูกปกคลุมด้วยข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาไร้ทิศทาง


  • เจ้าหน้าที่เฟดยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะสามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐเพียงแค่ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่ดีที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้นี้กำลังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ 3 ประการ ซึ่งได้แก่การผละงานประท้วงของคนงานบริษัทรถยนต์, ความเป็นไปได้ที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐอาจจะปิดทำการชั่วคราว หรือ "ชัตดาวน์" และปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐที่อาจจะดิ่งลง


  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะเริ่มต้นหารือกันเรื่องวิธีการจัดการกับสภาพคล่องส่วนเกินขนาดหลายล้านล้านยูโรในภาคธนาคารพาณิชย์ เพราะสภาพคล่องส่วนเกินนี้สกัดกั้นผลกระทบจากมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของอีซีบี เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ไม่ต้องแข่งขันกันในการดึงดูดเงินฝาก ทั้งนี้มีแนวโน้มว่าอีซีบีอาจจะเริ่มหารือกันถึงเรื่องนี้ในการประชุมครั้งถัดไปที่จะจัดขึ้นที่กรุงเอเธนส์ในวันที่ 26 ต.ค. และการหารือกันถึงเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่า อีซีบีได้ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ในการแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ

                                                                                                      

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ ตามเวลาสหรัฐ

       

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,517.73 จุด ลดลง 106.57 จุด หรือ -0.31%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,443.95 จุด ลดลง 9.58 จุด หรือ -0.22% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,678.19 จุด ลดลง 32.05 จุด หรือ -0.23%


  • เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะสามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐเพียงแค่ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย


  • เจเน็ท เยลเลน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า เธอมองไม่เห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะตกต่ำ แต่ก็เตือนว่าความล้มเหลวของสภาคองเกรสในการผ่านร่างกฎหมายที่จะทำให้รัฐบาลบริหารงานต่อไปได้นั้นเสี่ยงที่จะทำให้แรงหนุนส่งในเศรษฐกิจชะลอตัวลง


  • ธนาคาร Goldman Sachs คาดว่าการประชุม FOMC จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในปีนี้ได้ โดยหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร กล่าวว่าด้วยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ร้อนแรง ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว และราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดในวงกว้างจะคาดการณ์ ว่าอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย จะเป็นอย่างไรในช่วงที่เหลือของปีนี้


  • ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสมาคมหอการค้าอเมริกัน (AmCham) ในเซี่ยงไฮ้ระบุว่า ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้จำนวนบริษัทสหรัฐที่ดำเนินธุรกิจในจีนและมีมุมมองในเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในระยะ 5 ปีนั้น ลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่า PBOC จะเพิ่มความพยายามในการสร้างเสถียรภาพด้านการค้าและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจสำหรับบริษัทต่างชาติ ซึ่งนับเป็นการให้คำมั่นสัญญาครั้งล่าสุดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนต่างชาติ


  • องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดจะช่วยสกัดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกในปีนี้ แต่เศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ขึ้นในปีหน้า โดยโออีซีดีคาดว่า จีดีพีโลกจะขยายตัว 3.0% ในปีนี้ เทียบกับ 2.7% ที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. และคาดว่าจะขยายตัว 2.7% ในปีหน้า ลดลงจาก 2.9% ที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.3% ในปีที่แล้ว


  • มุมมองเชิงลบของนักลงทุนต่อจีนกำลังส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลง เมื่อผู้จัดการกองทุนหยุดหรือชะลอการลดการลงทุนในจีน แม้พวกเขามองว่าการปรับเปลี่ยนไปสู่มุมมองเชิงบวกที่ยั่งยืนในตลาดหรือในความเชื่อมั่นยังห่างไกลก็ตาม โดยหลังจากเดือนส.ค.ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นจีนมากเป็นประวัติการณ์ 9.0 หมื่นล้านหยวน แต่คำสั่งขายสุทธิก็ชะลอตัวลงเหลือเพียงกว่า 2.0 หมื่นล้านหยวนนับตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงขณะนี้ และข้อมูลเศรษฐกิจก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน


  • นางมาร์ลีน อัมสตัด ประธานหน่วยงานกำกับดูแลภาคธนาคารของสวิตเซอร์แลนด์ (FINMA) เปิดเผยว่า FINMA กำลังเพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญในการกำกับดูแลยูบีเอส (UBS) ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส (Credit Suisse)


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ภายหลังจากซาอุดิอาระเบียและรัสเซียขยายเวลาการปรับลดอุปทานน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 91.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 94.34 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • เชฟรอน ซึ่งถือเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นเข้าใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากอุปทานน้ำมันกำลังตึงตัวมากยิ่งขึ้น และตัวเลขสต็อกน้ำมันในคลังก็กำลังปรับลดลง 


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


  • ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ร่วมกับรัฐบาลโมร็อกโก ประกาศเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ว่า พวกเขาเห็นพ้องต้องกันที่จะเดินหน้าจัดการประชุมประจำปีของธนาคารโลกและ IMF ประจำปี 2566 ต่อไป โดยการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 9-15 ต.ค.ที่เมืองมาร์ราเกชทางตะวันตกของโมร็อกโก


  • นายเควิน แมคคาร์ธีย์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 8 เดือนแห่งการดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ เนื่องจากต้องพยายามรวบรวมเสียงสนับสนุนจากบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสให้ได้มากเพียงพอที่จะช่วยผลักดันให้ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวผ่านการพิจารณา เพื่อให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาชัตดาวน์ภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์โดยมีเวลาจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ ในการหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐหรือชัตดาวน์ครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปี ด้วยการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวดังกล่าว และส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป


  • กองกำลังของแต่ละประเทศในอาเซียนเริ่มต้นการซ้อมรบทางการทหารร่วมครั้งแรกที่ทะเลนาทูนาใต้ (South Natuna Sea) ของอินโดนีเซีย ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ ของบรรดาชาติมหาอำนาจ และการประท้วงต่อต้านจีนจากการดำเนินกิจกรรมในทะเลจีนใต้


  • จีนนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นลดลงถึง 2 ใน 3 ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจีนสั่งระงับการนำเข้าอาหารทะเลทั้งหมดจากญี่ปุ่น หลังจากญี่ปุ่นตัดสินใจปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิลงสู่ทะเล


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 36.08 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเมื่อวานที่ 35.99 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบวันนี้เคลื่อนไหวในช่วง 36.00 -36.20 บาทต่อดอลลาร์


  • กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-17 ก.ย. 66 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วมากกว่า 19 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของชาวไทยและต่างชาติแล้วกว่า 1.3 ล้านล้านบาท

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com