ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสัญญาทองคำ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 13.2 เหรียญ หรือ 0.69% อยู่ที่ระดับ 1,923.92 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.40 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,946.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 0.2% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 39.20 เซนต์ หรือ 1.70% ปิดที่ 23.386 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 18.40 ดอลลาร์ หรือ 2.02% ปิดที่ 929.50 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,252.70 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 0.57 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 880.27 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 9.83 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 37.37 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.09 จุด หรือ -0.09% มาอยู่ที่ระดับ 105.3 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 4.341% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.05 % มาอยู่ที่ระดับ 5.067% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.73%
- นายเจมส์ บูลลาร์ด อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เฟดอาจจะต้องทบทวนปรับขึ้นคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเท่าใด เมื่อดูจากเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งผิดคาด และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงสูงอยู่
- ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส และสมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า นโยบายงบประมาณที่ผ่อนคลายมากเกินไปเสี่ยงที่จะกระตุ้นเงินเฟ้อในช่วงเวลาที่อีซีบีกำลังต่อสู้เพื่อทำให้เงินเฟ้อลดลง
- ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบจำนวน 5.91 แสนล้านหยวนในวันนี้ ผ่านทางโครงการ MLF และกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 2.5% โดยอัตราดอกเบี้ย MLF เป็นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายเมื่อมีการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางจีน โดยมีระยะเวลาการกู้ยืม 6 เดือน-1 ปี เพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้นให้กับธนาคารพาณิชย์
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ เนื่องจากหุ้นกลุ่มชิปร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอของผู้บริโภค ขณะที่การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ส่งผลกดดันหุ้นอะเมซอน และหุ้นของบริษัทเติบโตรายใหญ่อื่น ๆ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,618.24 จุด ลดลง 288.87 จุด หรือ -0.83%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,450.32 จุด ลดลง 54.78 จุด หรือ -1.22%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,708.34 จุด ลดลง 217.72 จุด หรือ -1.56%
- ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.12% ขณะที่ดัชนี S&P500 ลดลง 0.16% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.39%
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินเดียระบุว่า ปัจจุบันมีประมาณ 22 ประเทศที่กำลังเจรจาและสำรวจเรื่องการทำการค้าระดับทวิภาคีกับอินเดียด้วยการใช้สกุลเงินรูปี หลังหลายประเทศเผชิญปัญหาขาดแคลนเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงเริ่มพิจารณาลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และหันไปใช้สกุลเงินท้องถิ่นเพื่อทำการค้าและทำธุรกรรมระหว่างกันแทน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.ของจีนลดลง 0.3% หลังจากที่ลดลง 0.2% ในเดือนก.ค. ถือเป็นการร่วงลงแรงที่สุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งตอกย้ำถึงความรุนแรงของวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน แม้มีการออกมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนก็ตาม c]tเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.ของจีนลดลง 0.1% หลังจากที่ลดลง 0.1% ในเดือนก.ค.
- เจ.พี.มอร์แกน และเอเอ็นแซดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค.ส่งสัญญาณการมีเสถียรภาพบ้าง ทั้งสองบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีขึ้น 0.2% สู่ระดับ 5% และ 5.1% ตามลำดับ ขณะที่เจ.พี.มอร์แกนระบุว่า ยอดค้าปลีกที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมในภาคบริการเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจมากที่สุด
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมนกล่าวว่า มาตรการของรัฐบาลจีนเพื่อสนับสนุนธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์นั้นจะทำให้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤติการเงินเหมือนกับวิกฤติในปี 2008 ที่เกิดขึ้นจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจของสหรัฐได้
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ และทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในปีนี้ รวมถึงปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันท่ามกลางความวิตกอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่ตึงตัว
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 90.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2565 และพุ่งขึ้น 3.7% ในรอบสัปดาห์นี้
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 93.93 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 3.6% ในรอบสัปดาห์นี้
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- รัฐบาลจีนประกาศคว่ำบาตร 2 บริษัทค้าอาวุธจากสหรัฐ ได้แก่ บริษัทล็อกฮีด มาร์ติน และบริษัทนอร์ธรอป กรัมแมน เนื่องจากจัดหาอาวุธให้ไต้หวัน
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.69 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.40-36.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.80 บาทต่อดอลลาร์
- ธนาคารโลกเปิดเผยรายงาน “การประเมินการเงินด้านโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมืองของไทย” โดยระบุว่า นอกเหนือจากกรุงเทพฯแล้ว เมืองอื่น ๆ ของไทยก็มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและลดความเหลื่อมล้ำ แต่ต้องหาวิธีเข้าถึงเงินทุนภาคเอกชนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมือง
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์นี้ เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี แม้มีแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่ม โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเดือนส.ค.อยู่ที่ 3.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อฟื้นฐานอยู่ที่ 4.3% ซึ่งเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.6% เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ แต่อัตราเงินเฟ้อที่ระดับดังกล่าว ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ขึ้นไปสูงถึง 9.1% เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว สะท้อนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วงที่ผ่านมาเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ผลดีระดับหนึ่ง
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง