ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 2.4 เหรียญ หรือ 0.13% อยู่ที่ระดับ 1,910.72 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,932.80 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.70 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 22.994 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 5.90 เหรียญ หรือ 0.65% ปิดที่ 911.10 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.3 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 879.7 ตันภาพรวมเดือนกันยายน ขายสุทธิ 10.4 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 37.94 ตัน
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.65 จุด หรือ 0.62% มาอยู่ที่ระดับ 105.38 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.292% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 5.016% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.72%
- เจพีมอร์แกน แอสเซต แมเนจเมนต์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวัฏจักรเศรษฐกิจรอบนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในทิศทางขาลง
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ และให้น้ำหนักเพียง 3.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%
- ผู้อำนวยการฝ่าย FX ของ Silver Gold Bull กล่าวว่า นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังบอกเป็นนัยว่านี่อาจเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้าย และถ้าคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่นี่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง สิ่งนี้จะได้ผล
- ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบ ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดของธนาคารกลางที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนปรับลด RRR ในอัตรา 0.25% สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. ยกเว้นสถาบันการเงินที่มีการกันสำรองอยู่ที่ระดับ 5% อยู่แล้ว
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า การที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 0.25% โดยมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (15 ก.ย.) และเป็นการปรับลด RRR ครั้งที่ 2 ในปีนี้นั้น จะช่วยเพิ่มความสามารถในการปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ และเอื้ออำนวยต่อการกระตุ้นด้านการคลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกพันธบัตรของรัฐบาลท้องถิ่น
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่หุ้นอาร์ม โฮลดิงส์ (Arm Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบชิปในเครือของซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป พุ่งขึ้นในการซื้อขายวันแรกในตลาด Nasdaq
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,907.11 จุด เพิ่มขึ้น 331.58 จุด หรือ +0.96%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,505.10 จุด เพิ่มขึ้น 37.66 จุด หรือ +0.84%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,926.05 จุด เพิ่มขึ้น 112.47 จุด หรือ +0.81%
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า หนี้ทั่วโลกเมื่อเทียบกับผลผลิตทางเศรษฐกิจลดลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2022 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แต่การลดลงดังกล่าวอาจจะสิ้นสุดลง เมื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังโควิดชะลอตัวลง
- นักกลยุทธ์โลกของเจ.พี.มอร์แกนกล่าวว่าแม้ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นในช่วงต้นเดือนก.ย. แต่เราก็ยังคงคาดว่า ผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันต่อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะมีจำกัด เรายังคงเชื่อว่า ถ้าหากไม่มีผลกระทบเพิ่มเติมเกิดขึ้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเมื่อเทียบรายปีจะต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดภายในไตรมาส 4 ปีหน้า
- นายโจนาธาน ฟอร์ตัน นักเศรษฐศาสตร์ของไอไอเอฟกล่าวว่า แรงขายตลาดเกิดใหม่สะท้อนถึง "ความเชื่อมั่นที่ย่ำแย่เกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจของจีนท่ามกลางความไม่แน่ใจเกี่ยวกับมาตรการเพื่อสกัดกั้นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว"
- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของภาคอสังหาริมทรัพย์จีนลงสู่ “เชิงลบ” จากเดิม “มีเสถียรภาพ” โดยระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อยอดขายในภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่ารัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนภาคส่วนดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
- ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นลดลง 1.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน แย่กว่าที่คาดว่าอาจลดลง 0.9% และสวนทางกับตัวเลขในเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.7% ซึ่งการหดตัวดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของญี่ปุ่นลังเลที่จะลงทุนเพิ่ม ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและตลาดจีนที่อ่อนแอลง
- รมว.เศรษฐกิจของญี่ปุ่นกล่าวว่า สัญญาณบวกกำลังปรากฏให้เห็นในช่องว่างผลผลิต และพื้นที่อื่นๆที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากภาวะเงินฝืด แต่สัญญาณเหล่านี้ต้องมีความชัดเจนมากก่อนที่จะประกาศสามารถจัดการกับภาวะเงินฝืดได้สำเร็จแล้ว
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ทำสถิติทะยานขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 ขานรับแนวโน้มอุปทานน้ำมันตึงตัวในตลาดโลก
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 90.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2565
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.82 ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 93.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2565
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ
- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน “จะไม่ลังเล” ในการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียและเกาหลีเหนือ หากทั้งสองประเทศทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธรอบใหม่
- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้ตอบรับคำเชิญเยือนเกาหลีเหนือของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ขณะที่ปธน.ปูตินและนายคิมได้กล่าวชื่นชม “ความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างสองประเทศ” ระหว่างการประชุมในรัสเซีย
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.79 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง”
- ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจดิจิทัลและออนไลน์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัดมหาชน เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติยังชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นไทยออกไป เพราะไม่แน่ใจในนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะปัจจุบันข้อมูลยังไม่ชัดเจนมากนัก
- หอการค้าไทย ยังกล่าวถึงมาตรการของรัฐบาลในการปรับลดราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าว่า จะช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน และลดต้นทุนการขนส่งให้กับภาคธุรกิจ ทำให้เงินเฟ้อไม่สูง และไม่เป็นการเพิ่มแรงกดดันในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จากกรอบเป้าหมายเงินเฟ้ออยู่ที่ 1-3% อัตราดอกเบี้ยจึงไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นไปแรง
ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews
Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง