• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 9 มกราคม 2566

    9 มกราคม 2566 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย

  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 33.46 เหรียญ หรือ 1.83% อยู่ที่ระดับ 1,865.91 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 29.1 ดอลลาร์ หรือ 1.58% ปิดที่ 1,869.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 2.4% ในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ธ.ค.
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 55.8 เซนต์ หรือ 2.38% ปิดที่ 23.982 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 34.7 ดอลลาร์ หรือ 3.24% ปิดที่ 1,104.3 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 916.77 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 0.87 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ขายสุทธิ 0.87 ตัน


  • หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนตลาดของบริษัทบลู ไลน์ ฟิวเจอร์สกล่าวว่า ราคาทองได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และกล่าวเสริมว่า เฟดจะยังคงส่งสัญญาณแบบสายเหยี่ยวต่อไปเป็นเวลานาน ในขณะที่ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -1.14 จุด หรือ -1.09% มาอยู่ที่ระดับ 103.91 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.16 % มาอยู่ที่ระดับ 3.56% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.21 % มาอยู่ที่ระดับ 4.258% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.7% อยู่ในภาวะ inverted yield curve


  • ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส และสมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คาดว่า อัตราดอกเบี้ยของอีซีบีน่าจะแตะระดับสูงสุดภายในฤดูร้อนปีนี้ และอีซีบีจะเตรียมตัวรับการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปลายทางต่อไปตราบเท่าที่จำเป็น


  • นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อแท้จริงอาจจะเคลื่อนตัวตามตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อสู่ระดับที่ต่ำลง เนื่องจากเศรษฐกิจแท้จริงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมแสดงความเห็นว่า เฟดจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจถดถอย 


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในวันศุกร์ ขานรับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร รวมทั้งดัชนีภาคบริการของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,630.61 จุด เพิ่มขึ้น 700.53 จุด หรือ +2.13%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,895.08 จุด เพิ่มขึ้น 86.98 จุด หรือ +2.28%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,569.29 จุด เพิ่มขึ้น 264.05 จุด หรือ +2.56%


  • ธนาคารกลางจีน และผู้ควบคุมกฎระเบียบภาคธนาคารและประกัน จัดตั้งกลไกการปรับเปลี่ยนทางพลวัตเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนองสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกเพื่อพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม โดยอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำของสินเชื่อจำนองสามารถถูกปรับลดลงหรือยกเลิกได้สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกในเมืองที่มีราคาขายบ้านใหม่ตกต่ำลง ส่งผลให้ค่าเงินหยวนแข็งค่า


  • นักวิเคราะห์จากไชน่า อินเดกซ์ อะคาเดมี กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับมาตรการภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนสะท้อนให้เห็นว่าจีนมีความยืดหยุ่นมากกว่านโยบายที่เคยประกาศใช้ในเดือนก.ย. ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการซื้อบ้าน และจะช่วยกระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัยให้ฟื้นตัวขึ้น


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวลงแต่มีเสถียรภาพ โดยเขาได้ระบุถึงข้อมูล อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง, เศรษฐกิจขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม เขาได้กล่าวเสริมว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้งบลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชนมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับภาคการผลิตและเทคโนโลยี ซึ่งคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งขึ้น


  • ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐหดตัวลง 21.0% สู่ระดับ 6.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. 2022 ซึ่งเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 14 ปี ในขณะที่ยอดนำเข้าชะลอตัวลงตามอุปสงค์ภายในประเทศสหรัฐ โดยเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวในช่วงที่ผ่านมา


  • ยอดนำเข้าในสหรัฐลดลง 6.4% สู่ 3.134 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. โดยยอดนำเข้าสินค้าดิ่งลง 7.5% สู่ 2.549 แสนล้านดอลลาร์ และยอดนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2020

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน



  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ แต่ปิดลบในสัปดาห์แรกของการซื้อขายในปีนี้ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและความต้องการใช้น้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 73.77 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 8.1% ในรอบสัปดาห์นี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 78.57 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลง 8.5% ในรอบสัปดาห์นี้


  • นักวิเคราะห์จาห CMC Market ระบุว่า มุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเปิดเมืองของจีน โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน เป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อราคาน้ำมัน ซึ่งช่วยหนุนภาพรวมอุปสงค์น้ำมันในปีนี้

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • สหรัฐเตรียมจะส่งอาวุธไปให้ยูเครนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบประมาณให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคง คาดมูลค่าประมาณ 2.8 พันล้านดอลลาร์


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้สงครามในยูเครนกำลังอยู่ในช่วงสำคัญ สหรัฐต้องทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยยูเครนในการรับมือกับความแข็งกร้าวของรัสเซีย


  • เยอรมนีเตรียมส่งรถหุ้มเกราะมาเดอร์ให้กับยูเครน ตามที่นายไบเดนกับนาย โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี บรรลุข้อตกลงร่วมกัน ในวันที่ 5 ม.ค.

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด



  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนจากแมคควอรี (Macquarie) ชี้ว่า จีนมีแนวโน้มที่จะสามารถอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ โดยขึ้นอยู่กับการที่ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วเพียงใด


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.62 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.04 บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.50-34.20 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.50-33.80 บาทต่อดอลลาร์


  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในปี 2566 อยู่ระหว่าง 2.0 – 3.0% ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทย

 

 

ที่มาจาก : Reuters, Infoquest, BangkokBizNews

Tags : ข่าวทอง, ข่าวทอง , ทอง , ราคาทอง


 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com