MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -12.92 เหรียญ หรือ -0.74% มาอยู่ที่ระดับ 1,723.92 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 13.4 เหรียญ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,736.3 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 38.3 เซนต์ หรือ 2.05% ปิดที่ 18.287 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.35 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 976.26 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 29.61 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 0.6 ตัน

• SPI Management ระบุว่า ในระยะสั้น ทองคำยังคงถูกขัยเคลื่อนโดยแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ ตลาดยังอยู่ในช่วงที่รอดูทิศทางของข้อมูลเศรษฐกิจ และถ้าหากข้อมูลดังกล่าวมีทิศทางที่แย่ เราคิดว่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำให้กลับมาอยู่ในสถานะที่ดีอีกครั้ง

• นักวิเคราะห์จาก FXTM ระบุว่า ในขณะที่ตลาดได้รับรู้ความเสี่ยงขาลงจากการที่มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แล้ว แต่ทองคำก็มีโอกาสปรับตัวลงต่อได้ ถ้าหากความน่าจะเป็นของการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สูงขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.06 จุด หรือ 0.05% มาอยู่ที่ระดับ 108.75 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.002% มาอยู่ที่ระดับ 3.106% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.45% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.344%

• เงินเยนทรุดตัวลงใกล้แตะระดับทางจิตวิทยาที่ 140 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ ซึ่งส่งผลให้มีกระแสคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยน

• นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดควรจะใช้ความระมัดระวังในการตั้งข้อสันนิษฐานว่า อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานสหรัฐควรจะปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ

• บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนแตะจุดสูงสุดของวัฏจักรที่ 3.75-4.00%

• หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของยูบีเอส โกลบัล เวลธ์ แมเนจเมนท์ คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.00% ในช่วงต่อไปในปีนี้ แต่เขาไม่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง พร้อมคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มต้นชะลอตัวลง

• หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าว อีซีบีควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย "จังหวะความเร็วที่สม่ำเสมอ" จนกว่าจะสิ้นสุดวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยสาเหตุส่วนหนึ่งที่อีซีบีควรทำเช่นนี้เป็นเพราะว่า การทำแบบนี้จะเปิดโอกาสให้อีซีบีสามารถปรับเปลี่ยนแนวโน้มนโยบายการเงินได้ ถ้าหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป 

• ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ประกาศเตือนว่า ตลาดทั่วโลกเสี่ยงเผชิญภาวะผันผวนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

• นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอินเดียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปจนถึงเดือนธ.ค.ปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยของอินเดียปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 6% ภายในสิ้นปีนี้

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันอังคาร หลังสหรัฐเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานสูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งในเหตุผลของการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,790.87 จุด ร่วงลง 308.12 จุด หรือ -0.96%,
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,986.16 จุด ลดลง 44.45 จุด หรือ -1.10% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,883.14 จุด ลดลง 134.53 จุด หรือ -1.12

• นักวิเคราะห์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า อัตราการว่างงานอาจทรงตัวที่ 3.5% ในเดือนส.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนก็รอดูรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐชุดใหม่ที่เฟดจะเปิดเผยออกมาในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 20-21 ก.ย.

• นางอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตของสหรัฐกล่าวว่า เธอรู้สึกกังวลมากว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ผู้คนตกงาน

• กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า จีนจะใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์ รวมทั้งสร้างเสถียรภาพด้านเงินเฟ้อและการจ้างงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ

• ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน พบว่า มุมมองเชิงบวกที่บริษัทสหรัฐมีต่อจีนนั้น ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมาตรการโควิดเป็นศูนย์ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ส่งผลให้บริษัทจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจในประเทศจีน ต้องชะลอหรือยกเลิกการลงทุนในจีน

• หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนมีแนวโน้มจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ตาม นายเลนไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเผชิญภาวะถดถอยทางเทคนิคเล็กน้อยเป็นการชั่วคราว

• รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัวลงไม่ถึง 3% ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เช่นกัน

• รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศในวันนี้ว่า รัฐบาลจะลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ขณะเดียวกันรัฐบาลจะพยายามลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่บังคับใช้ในช่วงโควิด-19 ระบาด และช่วยธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ในการลดแรงกดดันเงินเฟ้อ

• สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สิงคโปร์กำลังปรับปรุงกฎเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับการออกวีซ่า เพื่อดึงดูดแรงงานต่างชาติ และลดการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับค่าแรงและเงินเฟ้อ

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% วันอังคาร (30 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า อิรักพร้อมที่จะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบไปยังยุโรป

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 5.37 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 91.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ดิ่งลง 5.78 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 99.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.

• นักวิเคราะห์จาก Haitong Futures ระบุว่า การยอมรับความเสี่ยงของตลาดปรับลดลงหลังจากตลาดมีความคาดหวังว่าเฟดจะปรับจึ้นดอกเบี้ยต่อไป และราคาก๊าซธรรมชาติที่ย่อตัวลงในยุโรปก็เพิ่มความไม่แน่นอนของภาพรวมวิกฤติพลังงานเช่นกัน

• ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวน จากตลาดยังคงกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก จากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และจีน ซึ่งเป็นสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันลดลง

• จากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรัก นักวิเคราะห์จาก Haitong Futuresได้ให้ความเห็นว่า อิรักมีความสำคัญต่อตลาดน้ำมันไม่น้อยไปกว่าอิหร่าน(ที่กำลังเจรจานิวเคลียร์)  ซึ่งอิรักเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหลักเ่วยกำลังการผลิตกว่า 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน 

• โครงการขุดเจาะแหล่งก๊าซธรรมชาติทางตอนเหนือของอิรัก เผชิญเหตุโจมตีด้วยจรวดมิสไซล์ไปกลุ่มผู้รับเหมาสัญชาติสหรัฐที่ทำงานในบริเวณดังกล่าว โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่คาดหวังว่าจะช่วยทดแทนส่วนของก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียที่หายไปได้บ้าง แต่โครงการถูกเป็นระยะหลังจากถูกโจมตีโดยมิสไซล์ในทุกครั้งที่เปิดดำเนินการ

• เอ็นจี (Engie) บริษัทสาธารณูปโภคของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ก๊าซพรอม บริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียแจ้งว่า จะลดการจัดส่งก๊าซตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. เป็นต้นไป เนื่องจากมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับสัญญาบางข้อ ซึ่งส่งสัญญาณว่า ยุโรปจะเผชิญปัญหาอุปทานพลังงานตึงตัวมากยิ่งขึ้น’

• นายฟาติห์ บิโรล ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยในวันจันทร์ (29 ส.ค.) ว่า ผลผลิตน้ำมันของรัสเซียสูงกว่าการคาดการณ์หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่รัสเซียจะพบว่าเป็นการยากมากขึ้นที่จะรักษาระดับการผลิตไว้ในขณะที่การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกเริ่มส่งผลกระทบ

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ

• ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน (US-China Business Council) พบว่า มุมมองเชิงบวกที่บริษัทสหรัฐมีต่อจีนนั้น ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมาตรการโควิดเป็นศูนย์ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ส่งผลให้บริษัทจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจในประเทศจีน ต้องชะลอหรือยกเลิกการลงทุนในจีน

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด

• สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,240 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,650,919 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 21-27 ส.ค.2565 จำนวน 173,234 ราย สะสม 7,701,375 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 28 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,605 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,303 ราย

• รัฐบาลสหรัฐจะยุติการแจกชุดตรวจโควิด-19 ฟรีให้กับประชาชนที่ต้องการตรวจเชื้อเองที่บ้าน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 ก.ย.นี้ เนื่องจากชุดตรวจมีจำนวนจำกัด อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนงบประมาณจากสภาคองเกรส

• รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า จะจัดสรรงบประมาณราว 11 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนการบรรจุหีบห่อวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงจินนีออส (Jynneos) จากบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิกของประเทศเดนมาร์ก ซึ่งผลิตโดยโรงงานของบริษัทแห่งหนึ่งในสหรัฐ

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ 36.46 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.30-36.55 บาทต่อดอลลาร์

• มาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนด้วยการลดค่าไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 4 เดือนนั้น ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีวันนี้ แต่หากขยับไปพิจารณาในเดือนก.ย.ยังสามารถช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้ทัน

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest