• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2565

    30 สิงหาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยในวันจันทร์ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -0.56 เหรียญ หรือ -0.03% มาอยู่ที่ระดับ 1,737.0 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,749.70 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 15.5 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 18.67 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 3.77 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 980.61 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 25.26 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 4.95 ตัน


  • นักวิเคราะห์จาก City Index ระบุว่า แนวโน้มทองคำกำลังมีทิศทางขาลง อย่างไรก็ตาม ณ จุดๆหนึ่ง จะมีเม็ดเงินไหลเข้าทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่า ขณะนี้นักลงทุนกำลังให้ความสนใจในการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยก็ตาม


  • นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จาก City Index คาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจจะปรับตัวลงไปสู่ดับ 1,700 เหรียญและอาจมีช่องว่างให้ปรับตัวลงต่อไปได้ถึงระดับ 1,680 เหรียญ แต่จะมีผู้ที่เข้าซื้อทองคำบางส่วนที่ระดับราคา 1,680 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับ ทำให้ราคาทองคำอาจปรับขึ้นกลับสู่ระดับ 1,750 เหรียญได้


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.14 จุด หรือ -0.13% มาอยู่ที่ระดับ 108.7 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.017% มาอยู่ที่ระดับ 3.108% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.429% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.321%


  • รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ชี้ "ธนาคารกลางต่างๆต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อทำให้เงินเฟ้อกลับมาสู่เป้าหมาย และทำให้ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อมั่นคง" สะท้อนถึงความพยายามเร่งด่วนที่ธนาคารกลางทั่วโลก และสถาบันทางเศรษฐกิจกำลังดำเนินการอยู่เพื่อทำความเข้าใจการกระจายตัวของเงินเฟ้อในขณะนี้ 


  • นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวให้การสนับสนุนนายพาวเวลล์ว่า "ดิฉันคิดว่าเขาส่งสารที่แข็งแกร่งและถูกต้อง ดิฉันคิดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสู่ระดับสูงกว่า 4% และอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวในปีหน้า"


  • นายราฟาเอลบอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ให้การสนับสนุนเช่นกันว่าเมื่อใดก็ตามที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งขึ้นไปอีก 1.00-1.25% จากระดับ 2.25-2.50% ในปัจจุบัน เราก็ควรจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวเป็นเวลานาน"


  • นายแพทริค ฮาร์เคอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวสนับสนุนเช่นกันว่าเฟดต้องการจะหลีกเลี่ยงจากการสร้างความเสียหายต่อตลาดแรงงาน และเฟดพยายามจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวสหรัฐ ในขณะที่ชาวสหรัฐอาจจะเผชิญกับอัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงในเวลาเดียวกันโดยนายฮาร์เคอร์กล่าวเสริมว่า "ถ้าหากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้นในอนาคต เศรษฐกิจก็จะถดถอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"


  • นางเอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครตแสดงความรู้สึกวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีความเสี่ยงที่จะทำให้ประชาชนต้องตกงาน


  • นักวิเคราะห์จากธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลียกล่าวว่า "นายพาวเวลล์ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า เฟดจะยังไม่หันมาส่งสัญญาณแบบสายพิราบ ถึงแม้นักลงทุนบางรายเคยคาดการณ์ไว้แบบนั้น" และคาดการณ์ว่า ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอาจจะพุ่งขึ้นเข้าใกล้ 110 ในขณะที่นักลงทุนยังคงปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสำคัญจะคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าวต่อไป

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยดาวโจนส์ปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันศุกร์ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้อาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,098.99 จุด ลดลง 184.41 จุด หรือ -0.57%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,030.61 จุด ลดลง 27.05 จุด หรือ -0.67% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,017.67 จุด ลดลง 124.04 จุด หรือ -1.02%


  • นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อรายได้และการบริโภคในภาคครัวเรือน ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษจะเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงไตรมาส 4/2565 และจากนั้นคาดว่าจะหดตัวลงราว 0.6% ในปี 2566


  • รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) แสดงความมั่นใจว่าจีนสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ราว 3% ในปีนี้


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลง 1.1% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ แตะที่ระดับ 4.89 ล้านล้านหยวน โดยตัวเลขดังกล่าวได้จากการสำรวจบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมที่มีรายได้ต่อปีอย่างน้อย 20 ล้านหยวน หรือประมาณ 2.92 ล้านดอลลาร์


  • บรรดานักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองเชิงลบมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน โดยพร้อมใจกันลดคาดการณ์การเติบโตสำหรับปี 2565 และมองว่าความเสี่ยงที่ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจจะยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากภาวะปั่นป่วนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุดลง


  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และเช็คการ์ดในต่างประเทศของชาวเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2565 หลังจากจำนวนชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปต่างประเทศมีมากขึ้น

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% วันจันทร์ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 3.95 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 4.10 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 105.09 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • รองประธานฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์จาก Religore Broking ระบุว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับขึ้นจากความคากหวังว่าโอเปคพลัสจะปรับลดกำลังการผลิต เพื่อสร้างสมดุลของตลาดน้ำมัน จากกรณีการฟื้นคืนการเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่าน ในขณะเดียวกัน ยอดการส่งออกน้ำมันของสหรัฐที่แข็งแกร่งและปริมาณน้ำมันคลคลังที่ปรับลดมากกว่าการคาดการณ์ ช่วยลดความกังวลด้านอุปสงค์ ท่ามกลางความกลัวเศรษฐกจถดถอย


  • นักวิเคราะห์จาก CMC Market ระบุว่า แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม แต่ปัญหาอุปทานที่จำกัดของในตลาดน้ำมัน ยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น นอกจากนี้ ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้น อาจส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนจากการใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติ เป็นการใช้พลังงานจากน้ำมันทดแทน ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาน้ำมันเช่นกัน


  • โกลด์แมน แซคส์แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่ความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลกในระยะใกล้ โดยระบุว่า สินค้าโภคภัณฑ์จำพวกวัตถุดิบส่งสัญญาณฟื้นตัวท่ามกลางวิกฤตพลังงานขั้นรุนแรงและภาวะอุปทานตึงตัว


  • คณะผู้แทนของสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เตรียมเดินทางเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ในยูเครนในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการ IAEA เปิดเผยว่า เราต้องรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครนและยุโรป


  • ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ป หรือ ซิโนเปก คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตน้ำมันกลั่นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 มีแนวโน้มทรงตัว เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากปริมาณการแปรรูปรายปีสำหรับปี 2565 ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2564 หลังการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 ของจีนกระทบอุปสงค์เชื้อเพลิงในประเทศ


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนให้คำมั่นว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของวิสาหกิจและสถาบันต่าง ๆ ของจีน หลังสหรัฐเพิ่มรายชื่อ 7 องค์กรของจีนในบัญชีควบคุมการส่งออก


  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ว่า เกาหลีเหนือยังไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ ว่าจะทำการทดสอบนิวเคลียร์ในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ก็พร้อมทำการทดสอบนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 7


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด



  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 994 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,648,679 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 27 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,577 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,275 ราย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ 36.33 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.41 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.25-36.45 บาทต่อดอลลาร์


  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.00-36.60 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 36.00 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 35.78-36.33 บาท/ดอลลาร์


  • รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกรกฎาคม 2565 ว่า เศรษฐกิจภูมิภาคได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ และภาคตะวันออกที่ขยายตัวได้ดีทั้งในด้านการบริโภคและการลงทุน

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest

 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com