• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2565

    25 สิงหาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ  ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันศุกร์นี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 4.46 เหรียญ หรือ 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1,755.26 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,761.5 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.9 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 18.907 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 984.38 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 21.49 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 8.72 ตัน


  • นักกลยุทธ์ด้านสกุลเงินของ DailyFX กล่าวว่า เราจะเห็นว่าตลาดซึมซับประเด็นข่าวเพื่อที่รอการปรับฐานหลังจากที่ขาดทุนต่อเนื่องติดต่อกัน 6 วัน ก่อนการประชุมประจำปีของเฟดที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ โดยตลาดคาดว่าเฟดจะออกมาแถลงการณ์ถึงนโยบายการเงินที่ขัดเจนมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง


  • หัวหน้านักกลยุทธ์โลหะจาก MKS PAMP ระบุว่า แม้ภาพรวมเขิงโครงสร้างตอนนี้ ตลาดทองคำยังอยู่ในทิศทางทรงตัวหรือปรับตัวลง ในขณะที่กลยุทธ์ระยะสั้น จากปัจจัย (1) สถานะขายทองคำ (2) ปัจจัยบวกตามฤดูกาลของทองคำ (3) ราคาทองคำที่ต่ำ (4) และหากประธานเฟด พาวเวลล์ ส่งสัญญาณเข้มงวดนโยบายการเงินน้อยกว่าที่ตลาดคาด จะส่งผลให้ราคาทองคำพลิกตัวกลับเป็นขาขึ้นได้ในช่วงท้ายสัปดาห์นี้หรือช่วงสัปดาห์หน้าหลังการประชุมแจ็คสัน โฮล 


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.23 จุด หรือ -0.21% มาอยู่ที่ระดับ 108.37 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.009% มาอยู่ที่ระดับ 3.1% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.382% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.282%


  • นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิสได้ออกมาแสดงความวิตกว่า เฟดและตลาดการเงินต่าง ๆ กำลังประเมินแรงกดดันด้านเงินเฟ้อต่ำเกินไป และมองว่าการจัดการกับภาวะเงินเฟ้อต้องอาศัยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงมากกว่านี้ 


  • ทั้งนี้นายแคชแครี ต้องการให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดในบรรดาผู้กำหนดนโยบายทั้ง 19 คนของเฟด โดยเขาหวังให้เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยจาก 2.25%-2.5% ในขณะนี้ สูงขึ้นอีก 2% ภายในสิ้นปีหน้า และเขาต้องการเห็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด ก่อนที่เฟดจะผ่อนคลายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


  • กรรมการธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีต้องใช้ความระมัดระวังกับการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก เนื่องจากภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้นอาจลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งจะลดความจำเป็นสำหรับการดำเนินการของอีซีบี 


  • ตลาดกำลังปรับตัวรับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะขึ้นดอกเบี้ย 0.62% ในเดือน ก.ย. และการขึ้นดอกเบี้ยรวม 1.31% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งแสดงว่า คาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายที่เหลือแต่ละครั้งในปีนี้ คาดว่าจุดสูงสุดของวัฏจักรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะอยู่สูงกว่าระดับปัจจุบันอยู่ราว 2.05%


  • นักวิเคราะห์จาก JP Morgan คาดการณ์ว่า ในเดือนกันยายนนี้ เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยขนาดใหญ่ครั้งสุดท้าย และนอกจากนี้ ยังมองว่าค่าเงินดอลลาร์อาจจะไม่แข็งค่าปรับขึ้นไปมากกว่านี้มากนัก โดยระบุว่า ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์ อิงตามการส่งสัญญาณของเฟดที่สร้างความประหลาดใจ(Surprise)แก่ตลาดในทิศทางใช้นโยบายการเงินเข้มงวด ทั้งนี้ เขาคาดว่า เฟดจะเริ่มพิจารณามากขึ้นถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่เริมอ่อนตัวลง ในขณะที่เริ่มเห็นสัญญาณของเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด โดย ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ต่ำกว่าระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งจากประวัติศาสตร์แล้ว ราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์อย่างมากกับความคาดหวังอัตราเงินเฟ้อ (Breakeven Inflation)


  • หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Pepperstone คาดการณ์ว่า การประชุม Jackson Holes จะไม่ได้ให้เหตุผลกับพวกเราในการขายดอลลาร์ออก และเราคิดว่า พาวเวลล์จะยืนกรานนโยบาย และให้เหตุผลให้พวกเรายังคงซื้อดอลลาร์ต่อ และการปรับตัวลงชั่วคราวของดอลลาร์จะเป็นโอกาสซื้อ


  • นักวิเคราะห์จาก ING คาดการณ์ว่า ค่าเงินดอลลาร์สามารถแข็งค่าแตะระดับ 110 จุดได้ หากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ยังคงยืนยันให้สัมภาณ์ในแนวทางใช้นโยบายการเงินเข้มงวดตามเดิมที่เขาพูดก่อนหน้า

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ รวมทั้งการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในวันศุกร์นี้ด้วย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,969.23 จุด เพิ่มขึ้น 59.64 จุด หรือ + 0.18%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,140.77 จุด เพิ่มขึ้น 12.04 จุด หรือ +0.29% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,431.53 จุด เพิ่มขึ้น 50.23 จุด หรือ +0.41%


  • ทำเนียบขาวได้ทบทวนปรับลดคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณประจำปี 2022 ลงสู่ระดับ 1.032 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 3.83 แสนล้านดอลลาร์จากการคาดการณ์งบประมาณในเดือนมี.ค. ซึ่งสะท้อนถึงการชดเชยรายได้ที่แข็งแกร่งเกินคาดจากงบรายจ่ายใหม่ และการคาดการณ์ใหม่ทางเทคนิคในด้านสาธารณสุข และค่าใช้จ่ายอื่นๆ


  • ทำเนียบขาวทบทวนปรับลดคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์จีดีพีแท้จริงในปี 2022 ถูกปรับลดลงอย่างมากสู่ระดับ 1.4% จาก 3.8% ที่คาดไว้ในเดือนมี.ค. และปรับลดอัตราว่างงานโดยเฉลี่ยของปี 2022 ลงเล็กน้อยสู่ระดับ 3.7% จาก 3.9% ที่คาดไว้ในเดือนมี.ค. ในขณะที่ทบทวนตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปี 2022 ขึ้นสู่ระดับ 6.6% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในภาคเอกชน จาก 2.9% ที่คาดไว้ในเดือนมี.ค.


  • นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า "ดัชนี PMI ภาคบริการของเอสแอนด์พีที่ร่วงลงเพียงตัวเลขเดียวไม่ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะใกล้ ในขณะที่ตัวเลขกิจกรรมในไตรมาส 3 โดยส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา" และเธอกล่าวเสริมว่า "เรามองว่าดัชนีภาคบริการของ ISM ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงรูปแบบกิจกรรมที่แท้จริงได้อย่างน่าเชื่อถือมากกว่า"


  • ประธานาธิบดียุน ซอกยอลแห่งเกาหลีใต้ระบุว่า มีความผันผวนเพิ่มมากขึ้นในตลาดเงินและปริวรรตเงินตรา ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการคุมเข้มด้านการเงินในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่


  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยในวันนี้ว่า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเกาหลีใต้ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นในเดือนส.ค. โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเกาหลีใต้ (BSI) เดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 81 จากระดับ 80 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันพุธ หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 94.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 101.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.


  • หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Fujitomi Securities ระบุว่า การพึ่งขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่มากเกินจริง จากการที่นักลงทุนรับรู้อยู่แล้วว่า แม้การทำสัญญานิวเคลียร์กับอิหร่านเป็นผลสำเร็จต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่อุปทานน้ำมันของอิหร่านจะเข้าสู่ตลาดโลก ซึ่งหมายความว่า กลุ่มโอเปคพลัสจะไม่ปรับลดกำลังการผลิตโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันอาจปรับตัวลงได้จำกัด เนื่องจากมีความต้องการใช้น้ำมันเตาสำหรับฤดูหนาวนี้


  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า รัสเซียเริ่มต้นควบคุมอุปทานพลังงานกับลูกค้าในเอเชีย โดยซาคาลิน เอเนอร์จี แอลแอลซี ผู้ดำเนินการด้านพลังงานแห่งใหม่ของรัสเซียได้ยกเลิกการจัดส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG) จากโรงงานในตะวันออกไกลให้กับลูกค้าในเอเชียเหนืออย่างน้อย 1 ราย เพราะปัญหาเรื่องการชำระเงิน พร้อมทั้งชะลอการเซ็นสัญญาฉบับแก้ไขออกไป


  • นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะเริ่มเดินหน้าใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้ง พร้อมมุ่งเป้าไปยังการพัฒนาปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นใหม่ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่เหตุการณ์ภัยพิบัติที่จังหวัดฟูกุชิมะ


  • สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า ภายในไม่กี่วันนี้ IAEA จะเดินทางเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) ของยูเครนซึ่งถูกรัสเซียยึดครอง หากการเจรจาเรื่องขอเข้าถึงประสบความสำเร็จ

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


 

  • เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงครั้งใหม่ให้แก่ยูเครนมูลค่าราว 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะนับเป็นจำนวนเงินก้อนใหญ่ที่สุดที่มอบให้กับยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว

        

ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด



  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,002 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,641,263 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 14-20 ส.ค.2565 จำนวน 204,250 ราย สะสม 7,528,141 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 29 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,440 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,138 ราย


  • ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงสะสมที่ 15,433 รายแล้ว เมื่อนับถึงวันจันทร์ (22 ส.ค.) โดยรัฐนิวยอร์กตรวจพบผู้ป่วยมากที่สุดที่ 2,910 ราย ตามด้วยรัฐแคลิฟอร์เนีย 2,663 ราย และรัฐฟลอริดา 1,588 ราย


  • ประชาชนชาวสหรัฐที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป สามารถเริ่มเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้หลังวันแรงงานของสหรัฐซึ่งตรงกับวันที่ 5 ก.ย.นี้


  • คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มอีก 308 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) 205 ราย ในวันจันทร์ที่ผ่านมา


  • ระบบกำกับดูแลวัคซีนของจีนได้ผ่านการประเมินโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยยอมรับความสามารถในการกำกับดูแลของจีนในด้านความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพของวัคซีน


  • นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในวันนี้ โดยระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 3 เข็มแล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องทำการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง

 

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท



  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ 36.07 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.13 บาทต่อดอลลาร์มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ35.85-36.15บาทต่อดอลลาร์


  • ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/65 ที่ขยายตัวได้ 2.5% ต่ำกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ ดังนั้น จึงคาดว่าเศรษฐกิจเศรษฐกิจไทยทั้งปี 65 อาจจะขยายตัวได้ราว 3% และปี 66 จะขยายตัวเพิ่มมาที่ 4% ซึ่ง ธปท.จะมีการคาดการณ์ตัวเลขใหม่อีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้จากเดิมประมาณการไว้ที่ขยายตัว 3.3%


  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 65 มีโอกาสขยายตัวได้ 3-3.5% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 8-10 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ก่อนช่วงโควิด-19 และการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งได้หารือกับสภาผู้ส่งออก โดยขอให้เร่งการส่งออกปีนี้ให้ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากเป้าหมาย 7% ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวแล้ว 12% ถือเป็นการขยายตัวที่ดีจากปีที่ผ่านมาที่ขยายตัวได้ 20%

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, kitco

 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com