• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2565

    22 สิงหาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงในวันศุกร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ และลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐกดดันราคาทอง


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -3.97 เหรียญ หรือ -0.23% มาอยู่ที่ระดับ 1,755.9 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.3 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,762.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. และปรับตัวลง 2.9% ในรอบสัปดาห์นี้
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 39.5 เซนต์ หรือ 2.03% ปิดที่ 19.069 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 3.18 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 989.01 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 16.86 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 13.35 ตัน


  • หัวหน้าฝ่ายวิจัยของธนาคารจูเลียส แบเออร์ กล่าวว่า ถ้าหากเฟดจะดำเนินมาตรการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อต่อไป โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ก็มีความเป็นไปได้ที่ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจะปรับลดลงต่อไป และปัจจัยนี้จะส่งผลให้ราคาทองปรับลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะกลางถึงระยะยาว


  • นักยุทธศาสตร์การลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ของบล.ทีดี กล่าวว่า นักลงทุนได้ปรับตัวรับการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะส่งสัญญาณในการประชุมประจำปีที่แจ็คสัน โฮลในวันที่ 25-27 ส.ค.ว่า เฟดไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่่ว่า วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้จะสิ้นสุดลง "เพราะขณะนี้ยังคงเป็นเวลาที่เร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะต่อภาวะเงินเฟ้อ"


  • ในส่วนของตลาดทองจริง ยอดส่งออกทองจากสวิตเซอร์แลนด์สู่จีนพุ่งขึ้นจาก 32.5 ตันในเดือนมิ.ย. สู่ 80.1 ตันในเดือนก.ค. ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 4.4 พันล้านฟรังก์สวิส (4.6 พันล้านดอลลาร์) โดยยอดส่งออกดังกล่าวถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2016

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.15 จุด หรือ 0.14% มาอยู่ที่ระดับ 108.25 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.015% มาอยู่ที่ระดับ 2.991% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.27% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.279%


  • นักวิเคราะห์ของธนาคาร OCBC ระบุว่า "เนื่องจากแนวโน้มนโยบายการเงินของจีนกับสหรัฐมีความแตกต่างจากกันมากยิ่งขึ้น" ดังนั้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจึงอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนของจีนมากยิ่งขึ้น และปัจจัยดังกล่าวส่งผลลบต่อหยวน โดยหยวนเผชิญกับแรงเทขายมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ PBOC ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำคัญ 2 อัตราในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ ท่ามกลางความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะถดถอย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,706.74 จุด ลดลง 292.30 จุด หรือ -0.86%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,228.48 จุด ลดลง 55.26 จุด หรือ -1.29%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,705.22 จุด ลดลง 260.13 จุด หรือ -2.01%


  • รัฐบาลญี่ปุ่นรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของญี่ปุ่น ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเท่ากับตัวเลขคาดการณ์ในตลาด หลังจากปรับขึ้น 2.2% ในเดือนมิ.ย. โดยอัตรา 2.4% นี้ถือเป็นอัตราการปรับขึ้นที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2014 หรือรวดเร็วที่สุดในรอบ 7 ปีครึ่ง


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดของบล.เอสเอ็มบีซี นิกโกกล่าวว่า "ราคาอาหารและการอ่อนค่าของเยนคือปัจจัยหลักที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทะยานสูงขึ้น" และเขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของผู้บริโภคจะพุ่งขึ้นแตะ 3% ในปีนี้ โดยเขากล่าวเสริมว่า "เนื่องจากค่าแรงในญี่ปุ่นเติบโตช้ากว่าอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นการปรับขึ้นราคาจะส่งผลลบต่อค่าแรงที่แท้จริง และจะส่งผลลบต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือนในอนาคต" นอกจากนี้ เขายังคาดการณ์อีกด้วยว่า บีโอเจจะคงนโยบายการเงินไว้ตามเดิมตลอดทั้งปีงบประมาณ 2023 และ 2024


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ หลังการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอยังคงถ่วงราคาน้ำมันลงในรอบสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ แนวโน้มการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านซึ่งอาจทำให้มีปริมาณน้ำมันมากขึ้นในตลาดโลกนั้นทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไม่มากนัก


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 90.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 96.72 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ก๊าซพรอม บริษัทก๊าซยักษ์ใหญ่ของรัสเซียประกาศในวันศุกร์ว่า จะระงับการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปผ่านทางท่อนอร์ด สตรีม 1 ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.-2 ก.ย. เพื่อทำการซ่อมบำรุง โดยได้รับการซ่อมบำรุงรักษาตามปกติโดยผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทซีเมนส์ของเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องอัดก๊าซ เมื่อการบำรุงรักษาเสร็จสิ้น และไม่มีความผิดปกติทางเทคนิคใด ๆ การส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ด สตรีม 1 จะกลับสู่ระดับปัจจุบันที่ 33 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน


  • นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัท OANDA กล่าวว่า "ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยกระตุ้นการคาดการณ์ในทางบวกต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันดิบ" และเขาตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่ปล่อยให้การย่อตัวลงของราคาน้ำมันในช่วงก่อนหน้านี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน 


  • เอกสารจากกระทรวงเศรษฐกิจรัสเซียระบุว่า รัสเซียเริ่มต้นปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ผู้ซื้อในเอเชียปรับเพิ่มปริมาณการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลรัสเซียปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันของรัสเซียจนถึงสิ้นปี 2025

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ



  • เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของยุโรปเปิดเผยว่า รัสเซียมีแนวโน้มจะใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย (Zaporizhzhia) เป็นโล่กำบังให้ทหารและยุทโธปกรณ์ของตน ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายความปลอดภัยในการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า


  • ยูเครนส่งออกเรือสินค้าเพิ่มอีก 3 ลำ บรรทุกข้าวโพด ข้าวสาลี และน้ำมันดอกทานตะวัน ขณะเดียวกันมีเรือเดินทางสู่ท่าเรือของยูเครน 5 ลำ


  • ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียยืนยันว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียในเดือนพ.ย.นี้


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,531 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,635,711 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 7-13 ส.ค.2565 จำนวน 218,042 ราย สะสม 7,323,891 ราย โดย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 28 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 10,357 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 32,055 ราย


  • ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยรายงานพบไวรัสฝีดาษลิงบนพื้นผิวสิ่งของในครอบครัวหนึ่งในรัฐยูทาห์ซึ่งมีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง 2 คน แม้หลังจากที่มีการทำความสะอาดสิ่งของเหล่านั้นแล้วก็ตาม


  • มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ทางตอนใต้ของจีน เผยว่า ไห่หนานเตรียมห้องสำหรับการกักตัว 26,103 ห้อง และเตียงชั่วคราว 21,003 เตียง โดยไห่หนานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 11,755 ราย ระหว่างวันที่ 1-16 ส.ค. โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่ยืนยันผล 5,298 ราย และผู้ป่วยที่เป็นพาหะไม่แสดงอาการ 6,457 ราย


  • ศบค.ไฟเขียวให้ร้านยาจ่ายยาผู้ป่วยโควิด-19 เริ่ม 1 ก.ย.นี้ เผยคลังส่วนกลาง เหลือยากว่า 10 ล้านเม็ด ประกอบด้วย ยาฟาวิพิราเวียร์ คงเหลือ 5 ล้านเม็ด ยาโมลนูพิราเวียร์ 6.76 ล้านเม็ด ยาเรมเดสซิเวียร์ 3.8 หมื่นโดส ซึ่งมีความเพียงพอ โดยการใช้ยาในภาพรวม พบว่าแนวโน้มลดลง นั่นหมายถึงคามเข้าใจของประชาชนดีขึ้นว่าการติดเชื้อไวรัส สามารถหายได้เอง เป็นการเก็บยาไว้ใช้ในผู้ที่จำเป็นจริง ๆ


  • นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เผย ศบค. พิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมลดระดับคุมโควิด 1 ตุลาคม 65 เป็นต้นไป ท้ังนี้ กำหนดแนวปฏิบัติ ในเดือนกันยายนคงสถานการณ์ฉุกเฉิน ปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และเดือนตุลาคมประกาศโรคระบาดเฉพาะพื้นที่ (เมื่อมีเหตุจำเป็น) แต่ยังไม่มีการกำหนดเรื่องพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉินและการขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ชัดเจน

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ ที่ระดับ  35.80 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.74 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.30-36.00 บาทต่อดอลลาร์ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-35.90 บาทต่อดอลลาร์


  • รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ระบุ กรณีคณะรัฐมนตรีหารือวาระลับ และมีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กรอบวงเงิน 1.5 แสนล้าน เป็นที่เรียบร้อย โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างนำเสนอสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, Prachachat , Bankokbiznews

 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com