• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 9 สิงหาคม 2565

    9 สิงหาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพุธนี้


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.17 เหรียญ หรือ 0.01% มาอยู่ที่ระดับ 1,774.65 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14 เหรียญ หรือ 0.78% ปิดที่ 1,805.2 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 77.2 เซนต์ หรือ 3.89% ปิดที่ 20.614 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 13.7 เหรียญ หรือ 1.48% ปิดที่ 938.40 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 999.16 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 6.71 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 23.5 ตัน


  • SPI Asset Management กล่าวว่า ทองคำเริ่มต้นอย่างสงบ ท่ามกลางตลาดซึมซับเกี่ยวกับรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯที่พุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเฟด


  • นักวิเคราะห์ของ Kinesis Money กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของทองคำ  คือ แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นของเฟด โดยเฟดอาจปรับใช้นโยบายการเงินที่คุมเข้มมากขึ้น หลังจากข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯออกมาอย่างแข็งแกร่ง


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.01 จุด หรือ 0.% มาอยู่ที่ระดับ 106.38 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.004% มาอยู่ที่ระดับ 2.757% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.218% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.461%


  • มิเชล โบว์แมน หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยว่า เฟดควรพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งต่อๆไป เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ในระดับที่เฟดตั้งเป้าไว้ที่ 2%


  • จากการคาดการณ์มากขึ้นเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า หนุนการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกครั้งในเดือนหน้าด้วยเช่นกัน และตลาดเงินปรับตัวรับโอกาสราว 90% ที่อีซีบีจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากโอกาสราว 50% ในสัปดาห์ที่แล้ว


  • นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนเอเชียจากเอชเอสบีซีกล่าวว่า "แม้มีความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงจากภาวะถดถอย และอุปสงค์ต่างประเทศของจีนที่ร่วงลง แต่การค้าในปีนี้ก็แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เรายังคงมองว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนจะลดลงในที่สุด ถ้าเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์ในประเทศเพิ่มขึ้น" และเขาตั้งข้อสังเกตว่า รายได้จากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากของผู้ส่งออก และสถานะภายใต้การทำประกันความเสี่ยงน่าจะทำให้หยวนได้รับผลกระทบน้อยลงจากการเคลื่อนไหวของดอลลาร์ในระยะใกล้

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่พุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ถึง 2 เท่า จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,832.54 จุด เพิ่มขึ้น 29.07 จุด หรือ +0.09%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,140.06 จุด ลดลง 5.13 จุด หรือ -0.12% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,644.46 จุด ลดลง 13.10 จุด หรือ -0.10%


  • วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการปรับลดเงินเฟ้อ มูลค่า 4.3 แสนล้านดอลลาร์ นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขณะที่พรรคเดโมแครตคาดหวังว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้พรรคยังคงควบคุมรัฐสภาได้ในการเลือกตั้งกลางเทอมปีนี้


  • นักลงทุนต่างชาติแห่ซื้อพันธบัตรระยะยาวของญี่ปุ่นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ลดน้อยลงว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 90.76 เหรียญ
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 96.65 เหรียญ


  • สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยว่า จีนนำเข้าถ่านหินในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นราว 24% จากเดือน มิ.ย. จนใกล้แตะระดับสูงสุดในปีนี้ เนื่องจากโรงงานผลิตไฟฟ้าซื้อถ่านหินเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการในฤดูร้อน อันเป็นช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าในระดับสูงสุด


  • นักวิเคราะห์จาก PVM ชี้ว่า เป็นที่แน่ชัดว่า การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกขับเคลื่อนจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยเป็นหลัก ซึ่งส่งผลต่อราคาน้ำมันมากกว่าประเด็นความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน และถึงขนาดบางคนชี้ว่า ค่าความเสี่ยงส่วนเพิ่มเกี่ยวกับสงคราม (war premium) ได้หมดไปแล้ว


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


 

  • กองทัพจีนประกาศซ้อมรบครั้งใหม่ในน่านน้ำและน่านฟ้ารอบเกาะไต้หวัน หลังจากสิ้นสุดการซ้อมรบครั้งใหญ่เพียงแค่ 1 วัน เพื่อตอบโต้กรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา


  • กระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของไต้หวันเปิดเผยว่า การจราจรทางอากาศรอบไต้หวันค่อย ๆ กลับสู่ภาวะปกติหลังจากเปิดน่านฟ้ารอบไต้หวันอีกครั้ง แม้จีนจะประกาศซ้อมรบครั้งใหม่ในบริเวณดังกล่าวก็ตาม


  • การเดินเรือผ่านช่องแคบไต้หวันเริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า กองทัพจีนยุติภารกิจซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันแล้วหรือไม่ โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เรือกว่า 30 ลำได้แล่นผ่านเขตซ้อมรบ 4 จุดจากทั้งหมด 6 จุด นับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา


  • ไต้หวันให้คำมั่นว่าจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากจีน หลังจีนทำการซ้อมรบทางทะเลและอากาศในพื้นที่รอบไต้หวันติดต่อกันหลายวัน โดยจีนตั้งเป้าซ้อมรบต่อเนื่องแม้กลุ่มผู้นำโลกเรียกร้องให้ยุติการกระทำดังกล่าว


  • ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการสู้รบบริเวณโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาโปริเซียในยูเครน หลังกองกำลังรัสเซียได้โจมตีเมืองแนวหน้าหลายสิบแห่ง


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,955 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,609,406 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. - 6 ส.ค.2565 จำนวน 235,753 ราย สะสม 7,105,849 ราย โดย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 33 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 9,965 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 31,663 ราย


  • อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยว่า ขณะนี้เป็นโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 เป็นส่วนใหญ่ โดยพบมากกว่า 90% ในเขต กทม. และ 80% ในส่วนภูมิภาค โดยจากการตรวจแบบละเอียด พบสัดส่วน BA.5 ต่อ BA.4 ประมาณ 4 ต่อ 1 อย่างไรก็ดี ข้อมูลเท่าที่มี ยังไม่สามารถสรุปว่า BA.5 มีความรุนแรงมากกว่า BA.1 หรือ BA.2 มากน้อยเพียงใด


  • หน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่นเปิดเผยว่า ทิเบตรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 รายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของภูมิภาคนี้ตั้งแต่มีการระบาดเกิดขึ้นในเดือนม.ค. 2563 


  • มณฑลไหหลำของจีนได้สั่งล็อกดาวน์เมืองหลายแห่ง รวมถึงเมืองไหโข่ว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑล เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวนับหมื่นคนติดอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ


  • รัฐบาลฮ่องกงประกาศลดเวลาการกักตัวในโรงแรมของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จากเดิม 7 วัน เหลือเพียง 3 วัน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 ส.ค.นี้


  • สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทาง ด้วยการลดระยะเวลาการระงับเที่ยวบินที่พบผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 ลงเหลือ 1 สัปดาห์หากพบว่ามีผู้โดยสารติดเชื้อจำนวน 5 คน หรือประมาณ 4% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด และลดระยะเวลาการระงับเที่ยวบินลงเหลือ 2 สัปดาห์หากพบผู้โดยสารติดเชื้อประมาณ 8% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.56 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.77 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.65 บาทต่อดอลลาร์


  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือน ก.ค.65 ว่า จากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลายประเทศเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูง ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัว โดยประกาศเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วง 7 เดือนแรกปี 65 เพื่อชะลอเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาจึงเริ่มเห็นสัญญาณเงินทุนเคลื่อนย้ายออกจากน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ไปยังสินทรัพย์เสี่ยงที่ราคาปรับลดลงมามากจากสิ้นปี 64 ขณะที่ 7 เดือนแรกปี 65 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่แข็งค่า ทำให้ค่าเงินในภูมิภาค ASEAN อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลบวกต่อภาคการส่งออกและท่องเที่ยวไทย

 

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com