• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2565

    3 สิงหาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -17.68 เหรียญ หรือ -1.% มาอยู่ที่ระดับ 1,756.9 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2 เหรียญ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,789.7 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 22.3 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 20.139 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.4 เหรียญ หรือ 0.38% ปิดที่ 905 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.9 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,002.97 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ขายสุทธิ 2.9 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 27.31 ตัน


  • นักวิเคราะห์จาก TD Securities ชี้ว่า นักลงทุนมีแนวโน้มปิดสถานะชอร์ททองคำ จากการที่ประธานเฟดระบุว่า การพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ครั้งถัดไปขึ้นกับข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอลง ในขณะเดียวกัน แนวโน้มการปิดรับความเสี่ยงจากประเด็นความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน สนับสนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย


  • นักวิเคราะห์จาก UBS กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยแท้จริงของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงช่วยสนับสนุนราคาทองคำในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญของทองคำในขณะนี้


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.07 จุด หรือ 0.07% มาอยู่ที่ระดับ 106.41 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.033% มาอยู่ที่ระดับ 2.719% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.043% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.324%


  • ประธานเฟด สาขาซายฟรานซิสโก แมรี ดาลี ระบุว่า กำลังเตรียมพิจารณาข้อมูลที่จะรายงานในช่วงต่อไป เพื่อพิจารณาว่าจะสามารถชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้หรือไม่ หรือต้องคงอัตราความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ยตามที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน


  • ธนาคารกลางออสเตรเลีย ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.50% สู่ระดับ 1.85% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี และเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 4 ครั้งติดต่อกัน พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในวันข้างหน้า


  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ให้คำมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพการขยายตัวของการปล่อยเงินกู้โดยรวม และสนับสนุนการจัดหาเงินทุนสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว


  • หยวนอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดทางการทูตก่อนการเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกดดันค่าเงินหยวน


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันและสร้างความไม่พอใจให้กับจีน


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,396.17 จุด ร่วงลง 402.23 จุด หรือ -1.23%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,091.19 จุด ลดลง 27.44 จุด หรือ -0.67% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,348.76 จุด ลดลง 20.22 จุด หรือ -0.16%


  • เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของธนาคารเครดิตสวิสลงสู่เชิงลบจากเดิมมีเสถียรภาพหลังจากเครดิตสวิสประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนใหม่เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของธนาคาร หลังจากต้องเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวและการขาดทุนจำนวนมาก


  • ผู้นำระดับสูงของจีนได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลว่า เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5.5% ในปีนี้ เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น ไม่ใช่เป้าหมายที่จำเป็นจะต้องไปให้ถึง หรือ Hard Target


  • ราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นเร็วที่สุดในรอบเกือบ 24 ปีในเดือนก.ค. โดยได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานและอาหารที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ


  • ผลสำรวจ ANZ และรอย มอร์แกนบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 2.1% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นการปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันแล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงทำให้แรงกดดันที่มีต่องบประมาณภาคครัวเรือนลดลง


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันนี้ รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้เช่นกัน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 94.42 เหรียญ
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 100.54 เหรียญ


  • ตลาดติดตามการประชุมโอเปคพลัสในวันพุธนี้ โดยจับตาดูว่า จะมีการตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับหารผลิตเดือนกันยายนหรือไม่ เพื่อเติมเต็มส่วนที่ยุโรปเตรียมแบนน้ำมันรัสเซียที่จะขนส่งทางเรือ ในเดือนธันวาคมนี้


  • นักวิเคราะห์จาก RBC Capital Market คากว่า กลุ่มโอเปคจะตกลงเพิ่มกำลังการผลิตไปตลอดจนถึงสิ้นปีนี้ และจะส่งน้ำมันไปยังยุโรปมากขึ้น


  • กระทรวงพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบฉุกเฉินของสหรัฐลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2528


  • นักวิเคราะห์จาก Haitong Futures ระบุว่า แนวโน้มขาขึ้นของราคาน้ำมันเริ่มจางหายไป และหากเมื่อสถานการณืความไม่สอดคล้องระหว่างอุปทานและอุปสงค์คลี่คลายลง ราคาน้ำมันจะเป็นตัวนำราคาสินค้าโภคภัณฑ์ให้ปรับตัวลง


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


 

  • นางเพโลซีเดินทางถึงไต้หวันเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีนเป็นอย่างมาก โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐว่า การที่นางเพโลซีเยือนไต้หวันเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรากฐานความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน อีกทั้งยังทำลายเสถียรภาพและสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน 


  • ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐจะส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่ให้แก่ยูเครนวงเงิน 550 ล้านดอลลาร์


  • นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวหาว่า รัสเซียใช้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน เพื่อเป็นโล่กำบังการโจมตีจากกองทัพยูเครน และตำหนิว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ขาดความรับผิดชอบอย่างมาก


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,432 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,596,559 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 24-30 ก.ค.2565 จำนวน 201,554 ราย สะสม 6,870,096 ราย โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 32 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 9,765 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 31,463 ราย


  • รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากโรคฝีดาษลิงแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่ 3 ของสหรัฐที่ประกาศภาวะฉุกเฉินภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.22 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.12 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.15-36.35 บาทต่อดอลลาร์


  • นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รายงานสถานการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 66 โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 4.2% จากปี 65 คาดว่าจะเติบโต 3.3% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคภาคเอกชน และกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยมากขึ้นภายหลังจากการเปิดประเทศ โดยประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในปี 66 จะเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน ขณะที่ปีนี้อยู่ที่ราว 6 ล้านคน


  • ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก มองว่าการส่งออกไทยมีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่ง สรท.จะมีการปรับประมาณการส่งออกในปี 65 ใหม่อีกครั้งจากปัจจุบันคาดกว่าจะขยายตัวราว 6-8% และมั่นใจว่าการส่งออกจะยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้


  • ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย (KTB) ประเมินว่า ในปี 65-66 ทิศทางการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังขยายตัวได้ แต่ในอัตราที่ชะลอลง ส่วนหนึ่งเพราะฐานสูงจากช่วงครึ่งแรกของปี 65 ที่มีอัตราเติบโตสูงขึ้นมาก และปัจจัยท้าทายที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด อาทิ ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้น


ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com