• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2565

    2 สิงหาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันจันทร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดดอลลาร์ และแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.58 เหรียญ หรือ 0.03% มาอยู่ที่ระดับ 1,771.82 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.9 เหรียญ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,787.7 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 16.5 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 20.362 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.8 ดอลลาร์ หรือ 1.33% ปิดที่ 901.6 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,005.87 ตันภาพรวมเดือนสิงหาคม ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 30.21 ตัน


  • SPI Management ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์ย่อตัวอ่อนค่าลง ช่วยหนุนราคาทองคำปรับสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงความคาดหวังที่เศรษญกิจจะถดถอยลง และเฟดจะใช้นโยบายการเงินเข้มงวดน้อยลง


  • นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวรอบสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.24 จุด หรือ -0.23% มาอยู่ที่ระดับ 105.17 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.043% มาอยู่ที่ระดับ 2.534% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.833% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.299%


  • นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตากล่าวว่า เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่อัตราและระดับสุดท้ายจะถูกกำหนดโดยข้อมูลในช่วง 2 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ เขาระบุว่า สหรัฐไม่ได้อยู่ในภาวะถดถอย แต่คำถามจริงๆก็คือ สภาวะการณ์ในปัจจุบันกำลังสร้างความยากลำบาก จึงจำเป็นต้องมีการจัดการกับเงินเฟ้อ และยังมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่านี้เพื่อทำให้อุปสงค์และอุปทานสมดุล การขึ้นดอกเบี้ยอาจจะกระทบการจ้างงาน แต่จนถึงขณะนี้ ก็ดูเหมือนว่าจะมีแรงหนุนส่งให้มีการจ้างงานต่อเนื่อง


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,798.40 จุด ลดลง 46.73 จุด หรือ -0.14%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,118.63 จุด ลดลง 11.66 จุด หรือ -0.28% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,368.98 จุด ลดลง 21.71 จุด หรือ -0.18%


  • ผลสำรวจพบว่า ภาคการผลิตในยูโรโซนหดตัวลงในเดือนก.ค. ขณะที่โรงงานต่างๆจำเป็นต้องสต็อกสินค้าที่ขายไม่ออกเนื่องจากอุปสงค์ซบเซา ซึ่งเพิ่มความกังวลที่ว่า ยูโรโซนอาจจะเผชิญกับภาวะถดถอยโดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นปลายของเอสแอนด์พี โกลบอล ลดลงสู่ระดับ 49.8 ในเดือนก.ค. จาก 52.1 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 49.6 แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ต่ำกว่าระดับ 50 ที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัวนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2020


  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภาคธุรกิจจากเอสแอนด์พี โกลบอลกล่าวว่า "ภาคการผลิตในยูโรโซนกำลังเข้าสู่ภาวะตกต่ำรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงภาวะถดถอยของภูมิภาค ขณะที่ยอดสั่งซื้อใหม่ก็ร่วงลงในอัตราที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิฤติหนี้ในปี 2012 โดยอาจจะเลวร้ายลงอีก"นอกจากนี้ยังระบุว่า การผลิตกำลังลดลงในทุกประเทศที่ทำการสำรวจยกเว้นเนเธอร์แลนด์ และอัตราการลดลงน่ากังวลเป็นพิเศษในเยอรมนี, ฝรั่งเศส และอิตาลี


  • ผลสำรวจภาคเอกชนพบว่า กิจกรรมภาคการผลิตของจีนขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนก.ค. ขณะที่แรงหนุนส่งการขยายตัวลดลงในด้านการผลิต, ยอดสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน โดนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตโดยไคซิน/มาร์กิต ลดลงสู่ระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. จาก 51.7 ในเดือนก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 51.5 ในขณะที่ดัชนีการจ้างงานในภาคการผลิตลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 27 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงภาวะอ่อนแอต่อเนื่องในตลาดแรงงาน


  • ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงเตือนว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนกำลังเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้จำนองมูลค่าสูงถึง 3.50 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่ความเชื่อมั่นที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนถดถอยลงอย่างหนัก แม้ทางการจีนพยายามที่จะควบคุมวิกฤตการณ์ดังกล่าวไม่ให้รุนแรงมากขึ้นก็ตาม


  • ยอดขายบ้านของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จำนวน 100 แห่งของจีนร่วงลงต่อเนื่องในเดือนก.ค. บ่งชี้ว่าเหตุการณ์ที่ผู้ซื้อบ้านรวมตัวประท้วงด้วยการไม่จ่ายค่าจำนองบ้านนั้น ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากหลายประเทศซึ่งรวมถึงจีนและสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกว่าการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันพุธนี้


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 4.73 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 93.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3.94 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 100.03 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ความผิดหวังรายงานตัวเลขผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาน้ำมัน โดยตัวเลขดังกล่าวสร้างความประหลาดใจในเชิงลบ และบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจากโควิดไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก่อนหน้า


  • ผลสำรวจนักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์ ปรับคาดการณ์แนวโน้มค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันปี 2022 สู่ระดับ 105.75 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 106.82 เหรียญต่อบาร์เรล เป็นการเปลี่ยนทิศทางเป็นลดลง ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศ


 

  • สื่อไต้หวันรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ อาจเดินทางถึงไต้หวันในคืนวันนี้ (2 ส.ค.) และเข้าพบกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวัน อย่างไรก็ตาม ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ในขณะที่กระแสข่าวเยือนไต้หวันของนางเพโลซีได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีน ซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือเกาะไต้หวัน พร้อมขู่ตอบโต้ด้วยมาตรการทางทหาร

 

  • สหรัฐพิจารณาคว่ำบาตรนักธุรกิจและกลุ่มเครือข่ายบริษัทในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ต้องสงสัยว่าช่วยเหลืออิหร่านในการส่งออกน้ำมัน โดยการพิจารณาคว่ำบาตรเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มแรงกดดันทางการทูตต่ออิหร่าน ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐเร่งผลักดันข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

 

  • กระทรวงกลาโหมตุรกีเปิดเผยว่า เรือบรรทุกธัญพืชจากยูเครนมีกำหนดออกเดินทางเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ในวันที่ 1 ส.ค. นับตั้งแต่ถูกรัสเซียบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงการรับประกันความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมเสริมว่ายูเครนจะส่งออกธัญพืชผ่านทางเรือเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ การส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียและยูเครนนั้นคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของโลก


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,843 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,594,127 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 24-30 ก.ค.2565 จำนวน 201,554 ราย สะสม 6,870,096 ราย โดย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 27 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 9,733 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 31,431 ราย


  • มาเก๊าเตรียมกลับมาเปิดให้บริการสาธารณะและสถานบันเทิง รวมถึงร้านทำผม, ศูนย์ฟิตเนส และผับบาร์ ในวันนี้ (2 ส.ค.) เป็นต้นไป พร้อมทั้งอนุญาตให้ลูกค้านั่งทานอาหารที่ร้านได้ หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ต่อเนื่องมา 9 วัน


  • สำนักข่าวซินหัวรายงาน อิสราเอลได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ36.12 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.08 บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00-36.20 บาทต่อดอลลาร์


  • นายอาคม  เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุ กรณีที่รัฐบาลอนุมัติวงเงินโครงการคนละครึ่งเฟส  5 ที่ 800  บาทต่อรายนั้น  มีความเหมะสมที่รัฐบาลจะช่วยเหลือแล้ว  เนื่องจาก ขณะนี้ อยู่ที่ในช่วงของการปรับตัวกำลังซื้อก็กำลังกลับมา ดังนั้น เมื่อกำลังซื้อเริ่มกลับมา  ความช่วยเหลือจากรัฐบาลก็จะต้องลดลง


  • กระทรวงอุตสาหกรรม ขยายกรอบวงเงินสินเชื่อกองทุนประชารัฐ ปีงบประมาณ 2565 เพิ่ม 3,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจ BCG และอีก 10 กลุ่มธุรกิจศักยภาพ เร่งเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง


ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, Bangkokbiznews, Prachachat

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com