• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2565

    21 กรกฎาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในวันพุธ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -15.76 เหรียญ หรือ -0.92% มาอยู่ที่ระดับ 1,694.13 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 10.5 เหรียญ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,700.2 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. 2564
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.5 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 18.668 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 12.4 เหรียญ หรือ 1.44% ปิดที่ 846.5 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 3.19 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,005.87 ตันภาพรวมเดือนกรกฎาคม ขายสุทธิ 44.44 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 30.21 ตัน


  • SPI Asset Management กล่าวว่า ทองคำในขณะนี้อยู่ในสภาวะที่แตกต่างออกไป แม้สกุลเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง แต่ทองคำก็ไม่ได้มีการปรับขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางต่างๆ กดดันให้ราคาทองคำออกมาย่ำแย่อย่างชัดเจน


  • นักวิเคราะห์จาก Fxstreet กล่าวว่า ราคาทองคำพยายามดีดตัวขึ้นและแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบจากปัจจัยที่ขัดแย้งกันของราคาทองคำ ได้แก่ ดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยสนับสนุนราคาทองคำที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่บรรดาธนาคารกลางส่วนใหญ่มีท่าทีใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินมากขึ้นซึ่งเป็นอุปสรรคต่อราคาทองคำ


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.01 จุด หรือ 0.01% มาอยู่ที่ระดับ 106.93 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.013% มาอยู่ที่ระดับ 3.023% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 3.236% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.213%


  • ธนาคารกลางอินเดียวางแผนที่จะนำเงินดอลลาร์จากคลังสำรองของธนาคารออกมาขายเป็นมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 6 ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้รูปีอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่รูปีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา


  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มประชุมนโยบายการเงินวันแรกในวันนี้ โดยคาดว่าคณะกรรมการ BOJ จะประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และคาดว่า BOJ จะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (Ultralow Policy Rate) หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะยิ่งทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอีก


  • นายจิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียจะทำการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อ, เครื่องมือทางการเงิน และโครงสร้างในวงกว้างของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ท่ามกลางกระแสวิจารณ์เรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ RBA


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นเกือบ 1.6% โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,874.84 จุด เพิ่มขึ้น 47.79 จุด หรือ + 0.15%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,959.90 จุด เพิ่มขึ้น 23.21 จุด เพิ่มขึ้น +0.59% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,897.65 จุด เพิ่มขึ้น 184.50 จุด หรือ +1.58%


  • เงินเฟ้ออังกฤษแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในเดือนมิ.ย. ทำให้วิกฤตค่าครองชีพทวีความรุนแรงและเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเชิงรุกในเดือนส.ค. โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 9.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 9.1% ในเดือนพ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้น 9.3% ของราคาเชื้อเพลิงรถยนต์ในเดือนดังกล่าว


  • อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น (IDC) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดระดับโลกเปิดเผยว่า ภาวะขาดแคลนชิปทั่วโลกยังไม่สิ้นสุดลงในขณะนี้ และสงครามในยูเครนยังคงส่งผลกระทบต่อซัพพลายชิ้นส่วนสำคัญต่าง ๆ ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตชิป


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแรงลงในสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าการที่ธนาคารกลางหลายแห่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 102.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 106.92 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเปิดเผยว่า ศักยภาพในการส่งของท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ซึ่งเป็นท่อส่งขนาดใหญ่ที่สุดที่ลำเลียงก๊าซจากรัสเซียให้กับยุโรปนั้น อาจจะลดลงอีก เนื่องจากกระบวนการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ของท่อส่งก๊าซแห่งนี้ดำเนินไปอย่างล่าช้า


  • ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปอาจจำเป็นต้องควบคุมการใช้ก๊าซธรรมชาติอย่างเร่งด่วนภายใต้แผนรับมืออุปทานที่ลดน้อยลงจากรัสเซีย โดยคณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมเสนอวิธีการ เพื่อให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ใช้เตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาวิกฤตอุปทานก๊าซที่ตกเป็นประเด็นโต้แย้งมากที่สุดคือการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซ


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ


  • ปริมาณเหล็กราคาถูกจากรัสเซียที่ไหลทะลักเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียในขณะนี้ กำลังสร้างความวิตกกังวลให้กับบรรดาผู้ผลิตเหล็กในเอเชีย เนื่องจากสร้างแรงกดดันต่อราคา จนทำให้หนึ่งในผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเอเชียออกมาเตือนว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจนำไปสู่การใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อตอบโต้ทางการค้า


  • รัฐบาลจีนออกโรงเตือนสหรัฐว่า จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด หากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวัน หลังจากที่ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า นางเพโลซีจะเดินทางเยือนไต้หวันในเดือนส.ค.นี้


  • ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ขณะนี้รัสเซียวางแผนที่จะผนวกดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครองได้ในสงครามครั้งนี้เข้ากับดินแดนของรัสเซียแบบเบ็ดเสร็จ โดยทำเนียบขาวเตือนว่า ความพยายามดังกล่าวของรัสเซียอาจจะเผชิญกับการคว่ำบาตรรอบใหม่ทั้งจากสหรัฐและบรรดาชาติพันธมิตร


  • สหภาพยุโรป (EU) เตรียมขึ้นบัญชีดำธนาคารสเบอร์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และซีอีโอของ UMMC บริษัทเหมืองแร่สังกะสีและทองแดงรายใหญ่ของรัสเซีย เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย


ข่าวเกี่ยวกับโรคระบาด


  • สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,607 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 4,568,461 ราย ยอดผู้ติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK) ระหว่างวันที่ 10-16 ก.ค.2565 จำนวน 143,827 ราย สะสม 6,463,927 ราย โดย วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 23 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 9,375 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 31,073 ราย


  • คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,012 รายในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.ปีนี้ที่จีนพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงกว่า 1,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งจีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 776 ราย ทั้งนี้ จีนไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ ซึ่งทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 5,226 ราย


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.72 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.67 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.85 บาทต่อดอลลาร์


  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้เห็นเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิดชัดเจนขึ้น และคาดว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังต้องเจอกับปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมถึงความท้าทายจากการปรับนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้ตลาดการเงินและตลาดทุนของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวมถึงไทยต้องผันผวนสูง แต่ระบบการเงิน และสถาบันการเงินของไทยยังมีศักยภาพที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และทำงานได้ตามปกติ


  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.65 อยู่ที่ระดับ 86.3 เพิ่มขึ้นจากระดับ 84.3 ในเดือนพ.ค.65 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยมีปัจจัยบวกจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติม, การปรับลดระดับการเตือนภัยโควิดจากระดับ 3 เหลือระดับ 2 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ


ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com