• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 18 พฤษภาคม 2565

    18 พฤษภาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สกัดแรงซื้อในตลาด


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -11.27 เหรียญ หรือ -0.62% มาอยู่ที่ระดับ 1,814.99 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.9 เหรียญ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,818.9 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 19.9 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 21.75 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.07 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,049.21 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 45.34 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 73.55 ตัน


  • ผู้จัดการของ SPI Asset Management กล่าวว่า การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับเพิ่มสูงขึ้น จำกัดความต้องการซื้อทองคำ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักลงทุนทำการเคลียร์พอร์ตในตลาดทองคำเป็นจำนวนมาก และเริ่มสถานะถือครองทองคำระยะยาวในลักษณะทิศทางขาลง ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาอย่างแข็งแกร่ง


  • นักวิเคราะห์ทางเทคนิคของรอยเตอร์ กล่าวว่า ราคาทองคำตลาดโลกมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นสู่บริเวณ 1,840-1,849 เหรียญ แต่ยังคงอยู่ในทิศทางขาลงจากที่เคยทำสูงสุดไว้ที่ระดับ 1,998.10 เหรียญ ในช่วงกลางเดือนเม.ย.


  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนใกล้เริ่มเข้าสู่เปิดประเทศอีกครั้ง และมีแนวโน้มกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เป็นผลบวกต่อสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะพาลาเดียมที่ถูกนำมาใช้ในส่วนของอุตสาหกรรม ได้แก่ ภาคยานยนต์


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -1.24 จุด หรือ -1.19% มาอยู่ที่ระดับ 103.32 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.055% มาอยู่ที่ระดับ 2.995% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.69% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.305%


  • Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย. 


  • ประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า เขาพร้อมสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยไปจนกว่าเงินเฟ้อเริ่มปรับลดลงสู่ระดับที่เป็นมิตรต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ตอนนี้เรายังมีตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง แม้ว่าอัตราการว่างงานอาจจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ตาม ดังนั้นยังมีแนวทางที่หลากหลายที่เฟดสามารถใช้เพื่อนำพาเศรษฐกิจสู่ภาวะเศรษฐกิจค่อยๆปรับตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือ Soft landing


  • ตลาดเริ่มซึมซับข่าวธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นกว่า 1.1% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ เป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นผลมาจาก หนึ่งในคณะกรรมการ นายคลาส น็อต ปรับเพิ่มมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยสำหรับปีนี้ โดยให้การสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนกรกฎาคมนี้ และอาจปรับขึ้นอีกหากข้อมูลเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มสูงมากขึ้นอีกในอนาคต


  • ประธานเฟดสาชาเซนต์หลุยส์ นายเจมส์ บุลลาร์ด ชี้ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐที่จะถึงนี้ ถือเป็นกรณีฐาน(base case)สำหรับตอนนี้ พร้อมระบุว่า เฟดยังคงใช้แผนที่ยังสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้อยู่ ในขณะที่เขายังคงกังวลว่า จีนจะยังดูไม่มีท่าทีที่จะฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดและการล็อคดาวน์ได้


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก Bank of America มีมุมมองสนับสนุนว่าดัชนีดอลลาร์สามารถปรับขึ้นไปต่อและทำจุดสูงสุดใหม่ได้ จากสามเหตุผล ดังนี้ (1) นโยบายการเงินของธนาคารที่แตกต่างกัน โดยทีี่ธนาคารสหรัฐใช้นโยบายการเงินเข้มงวดก่อน ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางญี่ปุ่น จะเริ่มใช้นโยบายการเงินเข้มงวดล่าช้ากว่า ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ (2) ราคาพลังงานที่ทรงตัวในระดับสูง ส่งผลต่อความต้องการเงินดอลลาร์ โดยเฉพาะสำหรับผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่อย่างยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งอาจยืดเยื้อไปถึงไตรมาสที่ 4 ของปี รวมถึงกรณีวิกฤติยูเครนที่กดดันค่าเงินยูโรอ่อนค่าเช่นกัน (3) ปัจจัยจากจีน ทั้งนโยบายปลอดโควิ


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง และบริษัทจดทะเบียนรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว


  • ดัชนีเฉลี่ยเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,654.59 จุด เพิ่มขึ้น 431.17 จุด หรือ +1.34%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,088.85 จุด เพิ่มขึ้น 80.84 จุด หรือ +2.02% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,984.52 จุด เพิ่มขึ้น 321.73 จุด หรือ +2.76%


  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 8.2% โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันและอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น


  • ประธานหอการค้าอเมริกันในจีน เตือนว่า การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดของจีนนั้น จะขัดขวางการลงทุนจากต่างชาติตลอดช่วงหลายปีข้างหน้า เนื่องจากการจำกัดการเดินทางได้ปิดกั้นการเดินหน้าโครงการธุรกิจต่าง ๆ


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนแก่รัฐบาลเวเนซุเอลา ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าอาจจะส่งผลให้มีน้ำมันเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 112.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.31 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 111.93 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนให้แก่รัฐบาลเวเนซุเอลา โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้รัฐบาลของนายนิโคลาส มาดูโร กลับสู่การเจรจาร่วมกับบรรดาผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่สหรัฐให้การหนุนหลัง หนึ่งในแนวทางผ่อนปรนของสหรัฐนั้น คือการให้อำนาจแก่บริษัทเชฟรอน คอร์ป ในการเจรจาโดยตรงกับบริษัทพีดีวีเอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา


  • สหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า บริษัทต่าง ๆ สามารถเดินหน้าซื้อก๊าซของรัสเซียต่อไปได้โดยไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตร โดยเป็นการแสดงท่าทีที่อ่อนลงในการต่อต้านการใช้พลังงานของรัสเซียอันเป็นผลมาจากการรุกรานยูเครน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปได้ส่งแนวนโยบายฉบับปรับปรุงให้กับประเทศสมาชิก โดยแนะนำให้บริษัทต่าง ๆ แสดงความชัดเจนว่ามีความประสงค์ที่จะชำระค่าก๊าซด้วยสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์


  • รัสเซียกลายเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันรายใหญ่อันดับสี่ของอินเดียในเดือนเมษายน โดยจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากราคาที่ต่ำได้กระตุ้นความต้องการน้ำมันจากอินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอันดับ 3 ของโลก


  • นักวิเคราะห์ของ OANDA กล่าวว่า ราคาน้ำมันยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากน้ำมันเบนซินและราคาน้ำมันกลั่นที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯ ท่ามกลางตลาดยังคงกังวลว่าสหภาพยุโรปจะห้ามการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียอยู่


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ


  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครนว่า ทหารยูเครนกว่า 260 นายถอนกำลังออกจากโรงถลุงเหล็กอาซอฟสตาล (Azovstal) ในเขตสู้รบเมืองมาริอูโพลแล้ว


  • นักลงทุนจับตาสหภาพยุโรป (EU) เตรียมบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดย EU จะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่ 30-31 พ.ค. เพื่อพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว


  • คณะกรรมการสหภาพยุโรปย้ำเตือนว่า การเปิดบัญชีธนาคารสกุลเงินรูเบิลกับธนาคารรัสเซีย ถือเป็นการละเมิดข้อบังคับเกี่ยวข้องกับการคว่ำบตรรัสเซีย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสหภาพยุโรปได้เปิดเผยแนวทางที่บริษัทเอกชนดำเนินการซื้อพลังงานจากรัสเซียได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย


  • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียจะทำการตอบโต้ หากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ทำการขยายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในดินแดนของฟินแลนด์หรือสวีเดน


  • โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐยินดีกับแถลงการณ์ล่าสุดจากฟินแลนด์และสวีเดนสำหรับความมุ่งมั่นในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต (NATO) และสหรัฐจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เมื่อสองประเทศสมัครเข้าร่วมนาโตอย่างเป็นทางการ


  • รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป ล้มเหลวในการพยายามกดดันให้ ฮังการีเข้าร่วมการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งการคว่ำบาตรนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากทุกประเทศในสหภาพยุโรป


ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19


  • สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,633 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,165,175 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 4,388,610 ราย เสียชีวิต 45 ราย เสียชีวิตสะสม 29,595 ราย 


  • หน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของสหรัฐมีแนวโน้มที่จะอนุมัติวัคซีนป้องกันโควิดของไฟเซอร์เข็มที่ 3 ในเด็กอายุ 5-11 ปีในวันอังคารนี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากที่บริษัทได้ยื่นขออนุมัติต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ไปเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา


  • เซี่ยงไฮ้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในชุมชนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ซึ่งถือเป็นการบรรลุเป้าหมายสำคัญที่ทางการเซี่ยงไฮ้กำหนดไว้เพื่อเป็นเกณฑ์สำหรับการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มานานกว่า 6 สัปดาห์แล้ว


  • รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศว่า ญี่ปุ่นจะเริ่มทำการทดสอบการท่องเที่ยวด้วยการเปิดรับกรุ๊ปทัวร์ในจำนวนจำกัดในเดือนพ.ค.นี้ ภายใต้แคมเปญ “Test Tourism” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจเปิดประเทศอย่างเต็มที่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง


  • กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนย่อย BA.4 และ BA.5 ในชุมชนเป็นครั้งแรก โดยแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.4 จำนวน 2 ราย และ BA.5 อีก 1 ราย 


  • เกาหลีเหนือระดมกำลังทหารเพื่อแจกจ่ายยาป้องกันโรคโควิด-19 แก่ประชาชน และระดมบุคลากรทางการแพทย์กว่า 10,000 คน เพื่อติดตามหาผู้ที่อาจติดเชื้อ ขณะที่ทางรัฐบาลเร่งสกัดการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  34.48 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.52 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดอยู่ที่ระดับ 34.40-34.80 บาทต่อดอลลาร์


  • ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 1 ปี 2565 ว่า ภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/65 ขยายตัวที่ 6.9% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 6.5%


  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.85 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.76 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 34.40-34.78 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปีครั้งใหม่ เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ยกเว้นเงินเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี


  • เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 65 เหลือโต 2.5 – 3.5% โดยมีค่ากลางที่ 3% จากครั้งก่อนคาด 3.5-4.5% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งราคาพลังงานในช่วงที่ผ่านมาที่ส่งผลถึงไปอัตราเงินเฟ้อให้เพิ่มสูงขึ้นด้วย


ที่มาจาก : ReutersFXstreet, Infoquest, Bloomberg, CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com