• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2565

    12 พฤษภาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยจากเงินเฟ้อ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในเดือนเม.ย.


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 20.51 เหรียญ หรือ 1.12% มาอยู่ที่ระดับ 1,854.01 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 12.7 เหรียญ หรือ 0.69% ปิดที่ 1,853.7 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 15.1 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 21.575 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.03 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,066.62 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 27.93 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 90.96 ตัน


  • นักกลยุทธ์จาก TD Securities รายงานว่า รายงานอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ(US CPI)ประจำเดือนเมษายนปรับตัวสูงขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สูงกว่าที่ตลาดคาดและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับสูงขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สูงกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน ในขณะที่เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้น 8.3% และ 6.2% ตามลำดับ สูงกว่าที่คาดการณ์ เป็นการบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อฝังรากลึกในเศรษฐกิจมากกว่าที่เฟดประเมินไว้


  • นักกลยุทธ์จาก TD Securities รายงานว่า เงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ถูกขับเคลื่อนจาก ค่าเช่าและภาคบริการ ซึ่งหมายความว่า แรงกดดันเงินเฟ้อฝังรากลึกในเศรษฐกิจ และสร้างแรงกดดันปรับค่าแรงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่า นักลงทุนทองคำจะคาดหวังว่าเฟดจะส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้น และจากการที่ตลาดยังคงถือสถานะซื้อทองคำอยู่มาก อาจทำให้มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงทะลุต่ำกว่าระดับ 1,830 เหรียญได้อย่างง่ายดาย


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.36 จุด หรือ 0.35% มาอยู่ที่ระดับ 104.01 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.109% มาอยู่ที่ระดับ 2.925% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.629% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.296%


  • รายงานอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือนเมษายน 8.3% ชะลอตัวจากเดือนมีนาคมที่เงินเฟ้อ 8.5% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 41 ปี และยังคงสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับเงินเฟ้อ 8.1%


  • ดัชนี CPI เดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.3% เทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% แต่ต่ำกว่าระดับ 1.2% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.6% เทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.4% และสูงกว่าระดับ 0.3% ในเดือนมี.ค.


  • หลังจากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ เครื่องมือ CME FedWatch Tool บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ 87% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 14-15 มิถุนายน 2022 สวนทางกับสถิติในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ตลาดโน้มเอียงเชื่อว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ด้วยความเป็นไปได้ 85%


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics ระบุว่า ภาพรวมข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือนเมษายนของสหรัฐ หนุนให้เฟดยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในสองครั้งการประชุมถัดไป และอาจนำไปสู่การเก็งกำไรว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้ง หรืออาจจะเกิดการเก็งกำไรดังกล่าว ในช่วงกึ่งกลางระหว่างรอบประชุม


  • ประธานธนาคารกลางยุโรป(ECB) นางคริสติน ลาร์การ์ด ชี้ว่า ธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในช่วงต้นของไตรมาสที่สามของปี และตามด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย สอดคล้องกับความคาดหวังของตลาดที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปี เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อของยุโรปที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นผลมากจากราคาพลังงานที่พุ่งสูง กระทบต่อราคาสินค้าทั่วไป โดย อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนของยุโรปพุ่งแตะระดับ 7.5%


  • หลุยส์ เดอ กินดอส รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า อัตราเงินเฟ้อของยุโรปมีแนวโน้มที่จะคงอยู่ระหว่าง 4% - 5% ภายในสิ้นปีนี้


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันพุธ  ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 3% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,834.11 จุด ร่วงลง 326.63 จุด หรือ -1.02%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,935.18 จุด ลดลง 65.87 จุด หรือ -1.65% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,364.24 จุด ร่วงลง 373.44 จุด หรือ -3.18%


  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าผู้บริโภคในสหรัฐ


  • สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NIESR) เปิดเผยว่า อังกฤษจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 และมาตรฐานการครองชีพจะได้รับผลกระทบที่รุนแรง อันเนื่องมาจากเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น


  • ดัชนีราคาผู้บริโภคจีน ซึ่งบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ปรับตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถูกขับเคลื่อนจากราคาพลังงานและราคาผักผลไม้ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดไว้ที่ระดับ 1.8%


  • สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 865,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 28.08 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 เนื่องจากเศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในทิศทางฟื้นตัว แม้เศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนก็ตาม


  • เอลซัลวาดอร์ซึ่งให้การรับรองบิตคอยน์เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว อาจเผชิญความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากราคาบิตคอยน์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามในยูเครน, ภาวะเงินเฟ้อสูง และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


  • สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS)เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของเกาหลีใต้ในช่วงวันที่ 1-10 พ.ค. แตะที่ 3.72 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 2.21 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีก่อนทั้งนี้ เกาหลีใต้มียอดขาดดุลการค้าในปีนี้ยกเว้นในเดือนก.พ. เนื่องจากการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


  • นางเคธี วูด ซีอีโอของบริษัท Ark Investment Management กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย และตลาดหุ้นที่ผันผวนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนเชื่อว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแผนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นการดำเนินการที่แข็งกร้าวเกินไป


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 6% ยืนเหนือระดับ 105 ดอลลาร์ในวันพุธ หลังมีรายงานว่า การขนส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปโดยผ่านทางยูเครนนั้น มีปริมาณลดลง เนื่องจากยูเครนปิดเส้นทางหลักในการลำเลียงขนส่ง โดยนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ตลาดน้ำมันโลกเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 5.95 ดอลลาร์ หรือ 6% ปิดที่ 105.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.05 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 107.51 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปปรับตัวพุ่งสูงขึ้น หลังยูเครนได้ปิดเส้นทางหลักในการลำเลียงขนส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป โดยอ้างว่าเป็นเพราะกองกำลังทหารของรัสเซียเข้าแทรกแซง ซึ่งส่งผลให้การส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปมีปริมาณลดลงราว 1 ใน ทั้งนี้ ยูเครนยังคงเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรป โดยเส้นทางที่ยูเครนสั่งปิดครั้งนี้ ปกติใช้ขนส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปในปริมาณ 8% ซึ่งส่วนใหญ่ส่งไปยังออสเตรีย, อิตาลี, สโลวาเกีย, และชาติอื่น ๆ ในยุโรปตะวันออก


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ


  • คณะรัฐมนตรียูเครนมีมติอนุมัติการถ่ายโอนทรัพย์สินของรัสเซียให้เป็นกรรมสิทธิ์ภายใต้การจัดการของรัฐวิสาหกิจยูเครนในนามกองทุนรวมการลงทุนแห่งชาติแล้ว ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้จะถูกใช้เป็นทุนในการเสริมกำลังกองทัพยูเครนและฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานใหม่อีกครั้ง


ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19


  • สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,019 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,129,802 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 4,345,587 ราย เสียชีวิต 59 ราย เสียชีวิตสะสม 29,255 ราย 


  • ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เรียกร้องให้จีนทบทวนการใช้กลยุทธ์โควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid Policy) อีกครั้ง โดยระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่สมเหตุสมผลอีกต่อไป ขณะที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และเศรษฐกิจของจีนกำลังได้รับความเสียหาย ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง


  • สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังเตรียมที่จะเพิ่มจำนวนการเปิดรับผู้เดินทางจากต่างประเทศเป็น 20,000 คนต่อวันในเดือนมิ.ย.นี้ คาดกันว่าการผ่อนคลายข้อจำกัดดังกล่าวจะมีขึ้น หลังจากการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการกักตัวที่สนามบินและภาวะการติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ หลังจากผ่านพ้นช่วงวันหยุดในสัปดาห์โกลเด้นวีค (Golden Week) ที่สิ้นสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ รัฐบาลยังกำลังพิจารณาที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยทดลองรับกรุ๊ปทัวร์ขนาดเล็กภายในเดือนนี้ โดยวางแผนที่จะเพิ่มการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเป็นระยะ ๆ


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ  34.68 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลง จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.61 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ34.60-34.80 บาทต่อดอลลาร์


  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร.คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 จะขยายตัวได้ในกรอบ 2.5-4% ตามเดิม หากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอยู่ในระดับที่เหมาะสม และคงประมาณการการส่งออกจะยังขยายตัวในกรอบ 3-5% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปขยายตัวในกรอบ 3.5-5.5%


ที่มาจาก : ReutersFXstreet, Infoquest, CNBC, Trading Economics

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com