• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 5 พฤษภาคม 2565

    5 พฤษภาคม 2565 | Gold News

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยในวันพุธ แต่ดีดกลับขึ้นมาอยู่บริเวณ 1,895 เหรียญในเช้าวันนี้ หลังผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ และประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 25.85 เหรียญ หรือ 1.38% มาอยู่ที่ระดับ 1,894.09 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง -1.8 เหรียญ หรือ -0.1% ปิดที่ 1,868.8 เหรียญ 
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง -26.3 เซนต์ หรือ -1.16% ปิดที่ 22.402 เหรียญ 
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,089.04 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 5.51 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 113.38 ตัน


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก Citibank คาดการณ์ทองคำทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1,910 เหรียญในสิ้นปีนี้ พร้อมชี้ว่า ราคาทองคำอ่อนตัวลงหลังจากทำจุดสูงสุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังสามารถยืนอยู่ในระดับที่ดีได้ในปี 2022 จากปัจจัยในตลาดที่ เงินเฟ้อพุ่งสูง สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศยังมีอยู่ และความเสี่ยงเศรษฐกิจเข้าสู่สภาวะถดถอย อย่างไรก็ตาม Citibank คาดการณ์ราคาทองคำลงไปต่ำที่ระดับ 1,725 เหรียญในปี 2023


  • นักวิเคราะห์หลายราย ชี้ว่า ราคาทองคำที่ผันผวนและค่าพรีเมียมที่สูง ส่งผลให้ผู้บริโภคทองคำจริง (physical gold) ยังคงลังเลที่จะซื้อทองคำ


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% ตามที่ตลาดคาดและจะทยอยลดขนาดงบดุล 47,500 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 95,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้


  • ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้เงินเฟ้อปรับลดลงให้ได้ แต่ชี้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% นั้นยังไม่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ


  • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ของเฟดนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ค.2000 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี และยังเปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล (QT) เริ่มเดือน มิ.ย. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. Fed จะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 47,500 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะปล่อยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS 17,500 ล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่ซื้อเพิ่มเติม หลังจากนั้นอีก 3 เดือน Fedจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 95,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยจะปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 60,000 ล้านดอลลาร์ และตราสารหนี้ MBS วงเงิน 35,000 ล้านดอลลาร์ครบอายุในแต่ละเดือนโดยไม่ซื้อเพิ่มเติม


  • นักกลยุทธ์จาก Allspring Global Investments ชี้ว่า จุดเปลี่ยนสำคัญ(ของเฟด) คือตอนที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่า ยังไม่พิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -1.18 จุด หรือ -1.14% มาอยู่ที่ระดับ 102.56 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.047% มาอยู่ที่ระดับ 2.946% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.654% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.292%


  • ธนาคารกลางอินเดียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.40% สร้างความประหลาดใจให้ตลาด  ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโบบายขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.40% โดยผู้ว่าธนาคารกลางให้เหุตผลว่า แรงกดดันเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อกดดันภาวะเศรษฐกิจ


  • ธนาคารกลางออสเตรเลีย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 0.35% นับเป็นการขึ้นดอกครั้งแรกนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2010 การปรับขึ้นดอกเบี้ยสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ และเนื่องมาจากเงินเฟ้อพุ่งสูง


  • ตลาดคาดการณ์ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 900 จุดในวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,061.06 จุด พุ่งขึ้น 932.27 จุด หรือ +2.81%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,300.17 จุด เพิ่มขึ้น 124.69 จุด หรือ +2.99% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,964.86 จุด พุ่งขึ้น 401.10 จุด หรือ +3.19%


  • ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดการณ์ GDP ปี 2565 ของจีนจะขยายตัวเพียง 4.3% ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.8% โดยระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนหดตัวลงอย่างมากในเดือนเม.ย. และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอีก เนื่องจากจีนยังคงเดินหน้าปิดโรงงานและควบคุมการเดินทาง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานย่ำแย่ลงไปอีก


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% ในวันพุธ ขานรับรายงานที่ว่า ประธานสหภาพยุโรป (EU) เสนอให้บรรดาประเทศสมาชิกระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ตลาดน้ำมันเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 5.40 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 107.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 5.17 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 110.14 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ผู้อำนวยการ Tradition Energy ชี้ว่า ปัจจุบันยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันจากประเทศจีนว่าจะยังคงฟื้นตัวแข็งแรงในปี 2022 หรือไม่ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันจากจีนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่กระทบอุปสงค์น้ำมันของโลก


  • โอเปคพลัสประเมิน มีอุปทานน้ำมันส่วนเกินกว่า 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2022 นี้ สูงกว่าที่ประเมินก่อนหน้ามีอุปทานน้ำมันส่วนเกิน 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นการปรับลดประมาณการจากคาดการณ์อุกสงค์น้ำมันที่อ่อนแอลง


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ


  • นาง อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปจะหยุดนำเข้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงจากรัสเซีย ซึ่งเป็นมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 6 ต่อรัสเซีย ฐานทำสงครามกับยูเครน


  • นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมประกาศงบประมาณสำหรับป้องกันประเทศแก่ยูเครนรอบใหม่ในวงเงิน 300 ล้านปอนด์ (ราว 375 ล้านดอลลาร์) ซึ่งครอบคลุมงบสำหรับจัดสรรอุปกรณ์รับมือการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (electronic warfare) ระบบเรดาร์ตรวจจับขีปนาวุธ อุปกรณ์ตัดสัญญาณจีพีเอส รวมถึงกล้องอินฟาเรด


  • รัฐบาลเกาหลีใต้และญี่ปุ่นยืนยันว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัว (Ballistic Missile) ไปทางน่านน้ำฝั่งตะวันออกของประเทศในช่วงเช้าเมื่อวาน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่านายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยังคงเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากประชาคมโลก ทั้งนี้ นายคิม จอง อึน ออกแถลงการณ์ที่ผ่านมาว่า เกาหลีเหนือมีความตั้งใจที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป และจะใช้อาวุธนิวเคลียร์หากประเทศถูกคุกคามโดยกองกำลังของศัตรู


  • เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ หวังที่จะจัดการประชุมกับผู้นำภาคธุรกิจของเกาหลีใต้ ในระหว่างการเดินทางเยือนกรุงโซลในช่วงปลายเดือนนี้ โดยมุ่งหารือประเด็นเกาหลีเหนือ ความสัมพันธ์ทวิภาคี และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ


  • นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเปิดเผยว่า เยอรมนีจะไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่มุ่งตอบโต้การบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย จนกว่ารัสเซียจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน พร้อมเสริมว่า ยูเครนจะต้องเป็นคนกำหนดเงื่อนไขด้านสันติภาพ


ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19


  • Worldometer รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 514,257,552 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,264,028 ราย สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (83,170,407) รองลงมาคืออินเดีย (43,085,166) บราซิล (30,460,997)


  • ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 9,790 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 4,300,614 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 54 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 7,216 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 28,914 ราย


  • ไต้หวันประกาศลดเวลาการกักตัวของนักเดินทางขาเข้าในทุกช่องทาง โดยลดจากเดิม 10 วัน เหลือ 7 วัน เพื่ออยู่ร่วมกับไวรัสโควิด-19 ให้ได้ และคืนชีวิตปกติให้กับประชาชนแม้ยอดผู้ติดเชื้อยังคงพุ่งสูง


  • กรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน สั่งปิดสถานีบริการรถไฟใต้ดินกว่า 40 สถานี และปิดเส้นทางเดินรถประจำทาง 158 เส้นทาง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กรุงปักกิ่งต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์เช่นเดียวกับเมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 34.04 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.53 บาทต่อดอลลาร์ (จากระดับปิด ณ วันที่ 3 พ.ค.) มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.95-34.15 บาทต่อดอลลาร์


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนเม.ย. 65 ปรับลดลงจากเดือนมี.ค. มาอยู่ที่ 48.2 จากเกือบทุกองค์ประกอบที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม เกือบทุกองค์ประกอบยังอยู่เหนือระดับ 50 ยกเว้นความเชื่อมั่นด้านต้นทุนที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะในภาคการผลิตและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากราคาวัตถุดิบและพลังงานที่ผันผวนสูงจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ผลักดันให้ราคาสินค้าส่วนหนึ่งปรับเพิ่มขึ้น

 

 

ที่มาจาก : ReutersFXstreet, Infoquest, RYT9, CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com