ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันพฤหัสบดี โดยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันราคาสัญญาทองคำ นอกจากนี้ ราคาสัญญาทองคำยังถูกเทขายออกมาหลังจากที่มีแรงซื้อทางเทคนิคมากเกินไป (ทั้งนี้ ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์กปิดทำการในวันศุกร์ที่ 15 เม.ย. เนื่องในวัน Good Friday)
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 9.8 เหรียญ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,974.9 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 33 เหรียญ หรือ 1.27% ปิดที่ 25.7 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.93 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,099.49 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ซื้อสุทธิ 8.05 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 123.83 ตัน
- นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า การส่งสัญญาณนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางยุโรป ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทองคำ
- นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า จากการที่รัสเซียเตรียมการบุกครั้งสำคัญในทางฝั่งตะวันออกของยูเครน ส่งผลให้มีความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.2 จุด หรือ 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 100.52 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.148% มาอยู่ที่ระดับ 2.847% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ระดับ 2.496% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.351%
- ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ เจมส์ บุลลาร์ด ให้สัมภาษณ์ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยให้กลับเข้าสู่เท่าระดับภาวะปกติ ไม่เพียงพอที่จะลดเงินเฟ้อในระดับสูงได้ โดยระบุว่าเฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าระดับภาวะปกติที่ประมาณ 2.4% พร้อมกล่าวย้ำว่าตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงเกินไป ส่งผลให้เฟดพร้อมขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในหลายรอบการประชุม
- ธนาคารกลางญี่ปุ่นเผชิญอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่ปี 1992 โดยธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจปรับประมาณการเงินเฟ้อขึ้นเป็น 1.5-1.9% เพิ่มเติมจากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 1.1%
- ธนาคารกลางจีนใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายในระดับปานกลาง โดยปรับลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ลง 0.25% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่จะปรับลด 0.50% และไม่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าจีนจะเผชิญกับสถานการณ์โควิดก็ตาม
- ธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ยืนยันยุติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จากความกังวลเงินเฟ้อระดับสูงที่อาจฝังรากลึกในระบบเศรษฐกิจ และสถานการณ์สงครามยูเครนที่ไม่แน่นอน ในขณะที่ประธาน ECB นางคริสติน ลาร์การ์ดยังคงส่งสัญญาณไม่เพิ่มความเข้มงวดนโยบายการเงินมากกว่าการยุติการซื้อพันธบัตร เป็นการส่งสัญญาณนโยบายการเงินผ่อนคลาย
ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันพฤหัสบดี โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง และนักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น รวมถึงการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาไร้ทิศทาง
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,451.23 จุด ลดลง 113.36 จุด หรือ -0.33%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,392.59 จุด ลดลง 54.00 จุด หรือ -1.21%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,351.08 จุด ลดลง 292.51 จุด หรือ -2.14%
- สถาบันจัดอันดับ S&P ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศเกิดใหม่เหลือระดับ 4% สำหรับปี 2022 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 4.8% และคาดการณ์ 4.3% สำหรับปี 2023 โดยชี้ว่า ความไม่แน่นอนในการเติบโตของเศรษฐกิจจีนสร้างความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศเกิดใหม่
- สถาบันจัดอันดับ S&P ระบุว่า กลุ่มเศรษฐกิจยุโรป ตะวันออกกลาง และกลุ่มประเทศทวีปแอฟริกา (EMEA) เผชิญแรงกดดันด้านเศรษฐกิจมากที่สุด โดยเฉพาะแรงกดดันจากปัจจัยเงินเฟ้อ เนื่องจาก (1) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูง (2) ต้นค่าขนส่งอยู่ในระดับสูง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 18,000 ราย สู่ระดับ 185,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 171,000 ราย
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ขานรับรายงานที่ว่า สหภาพยุโรป (EU) กำลังร่างมาตรการเพื่อคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แม้ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย เนื่องจากประเทศสมาชิก EU บางรายต้องพึ่งพาน้ำมันอย่างมากจากรัสเซีย
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 106.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.92 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 111.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สำนักข่าวนิวยอร์คไทม์ รายงาน สหภาพยุโรปกำลังเตรียมคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย ในขณะที่ยังให้เวลาแก่เยอรมันและหลายชาติในยุโรปเตรียมผู้ขายน้ำมันรายรายอื่น
ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ
- กองทัพรัสเซียเปิดเผยในวันเสาร์ว่า สามารถควบคุมเขตเมืองของเมืองมาริอูโพลทางภาคตะวันออกของยูเครนเอาไว้ได้หมดแล้ว โดยสามารถกำจัดกองกำลังทหารยูเครนและทหารรับจ้างต่างชาติออกไปจากพื้นที่แล้ว
- ยูเครนและรัสเซียได้ตกลงกำหนดเส้นทางระเบียงมนุษยธรรม (humanitarian corridors) จำนวน 9 เส้นทางเพื่ออพยพพลเรือนด้วยรถยนต์ส่วนตัว รวมถึงจากเมืองมารีอูโพลที่ถูกปิดล้อม เส้นทางอพยพ 5 ใน 9 แห่งนั้นออกมาจากแคว้นลูฮันก์ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า กำลังเผชิญกับการระดมยิงอย่างหนัก
- กองทัพจีนได้ทำการซ้อมรบบริเวณใกล้กับไต้หวัน หลังก่อนหน้านี้มีรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีแผนการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นและไต้หวัน แต่ต้องยกเลิกแผนการดังกล่าวหลังจากนางเพโลซีติดเชื้อโควิด-19
- รัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ร่วมสังเกตการณ์การทดสอบยิงอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธี (Tactical Guided Weapon) รุ่นใหม่ ในขณะที่สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันจันทร์นี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่สหรัฐและเกาหลีใต้จะซ้อมรบครั้งใหญ่ร่วมกัน
ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19
- สถานการณ์โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 16,994 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 1,823,518 ราย และมีผู้เสียชีวิต 124 ราย
- องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 กำลังแพร่ระบาดระดับต่ำในหลายประเทศในแอฟริกาใต้และยุโรป โดยไวรัสสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ดูเหมือนไม่ได้แพร่เชื้อได้เร็วกว่า หรือทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตมากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม แต่ภาวะดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติการใช้งานกรณีฉุกเฉินสำหรับการทดสอบวินิจฉัยโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งตรวจจับสารประกอบทางเคมีที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสจากตัวอย่างลมหายใจเป็นครั้งแรกในประเทศ
- จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองซีอานชั่วคราว หลังโอมิครอนระบาดอีกครั้ง โดยจะทำการล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนเป็นการชั่วคราวเพื่อลดการเคลื่อนไหวของประชาชน 13 ล้านคน หลังมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายสิบรายในเดือนนี้
ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท
- นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.62 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 33.64 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันที่ 12 เม.ย.) มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.30-33.80 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ33.55-33.75 บาทต่อ ดอลลาร์
- อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ระบุว่า ความเสี่ยงของการที่ประเทศจะถูกลดอันดับเครดิตหรือความน่าเชื่อถือนั้น มีความเป็นไปได้ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า หากหนี้สาธารณะทะลุระดับ 70% ของจีดีพี และระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวมไม่สามารถหารายได้มากพอที่ทำให้การชำระหนี้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รวมทั้งไม่สามารถเพิ่มรายได้การจัดเก็บภาษี
ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest, CNBC, Bloomberg