MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 6.9 เหรียญ หรือ 0.36% มาอยู่ที่ระดับ 1,931.43 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 10.3 เหรียญ หรือ 0.54% ปิดที่ 1,934 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 6.4 เหรียญ หรือ 0.26% ปิดที่ 24.59 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.75 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,089.98 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ขายสุทธิ 1.46 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 114.32 ตัน

• นักกลยุทธ์จาก TD Securities ออกรายงานว่า นอกจากปัจจัยความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ในสัปดาห์นี้ ตลาดทองคำจะให้ความสำคัญกับการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC Minutes) และตลาดกำลังมองหาสัญญาณเกี่ยวกับการลดขนาดงบดุล ซึ่งทางเราคาดว่าจะเริ่มลดขนาดงบดุลในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งหากมองในมุมนี้ ทั้งความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและเม็ดเงินจำนวนมากที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำ จะถูกชดเชยจากปัจจัยความเข้มงวดนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งทยอยกดดันราคาทองคำ

• นักวิเคราะห์จาก FXStreet  กล่าวว่า ราคาทองคำเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยการชะลอตัว โดยภาพรวมกราฟรายวันทองคำยังคงเป็นลักษณะทิศทางขาลง ท่ามกลางการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนมีมุมมองเชิงบวก โดยปัจจัยหลักขับเคลื่อนราคาทองคำในช่วงนี้ได้แก่ (1) แนวโน้มเกี่ยวกับตลาดพันธบัตรรัฐบาลที่เกิดภาวะ Inverted yield curve และ (2) การเจรจาพูดคุยสันติระหว่างรัสเซีย-ยูเครนตามกำหนดการณ์ ในขณะที่ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในสัปดาห์นี้   

• นักวิเคราะห์อาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ความขัดแย้งในสงครามยูเครนช่วยจำกัดการร่วงลงของราคาทองคำ โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ราคาทองคำเกิดการแกว่งตัวในขณะนี้ ได้แก่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับเพิ่มขึ้นสูง และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  

• นักวิเคราะห์จาก Heraeus Precious Metals ระบุว่า แม้ว่าความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะลดลงถ้าหากการเจรจาสันติระหว่างรัสเซีย-ยูเครนประสบผลสำเร็จ แต่ภาพเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูง จะเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง

• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคของ Reuters กล่าวว่า หากราคาทองคำหลุดระดับแนวรับ 1,924 เหรียญ ลงมาได้ ราคาทองคำอาจจะร่วงลงถึงระดับ 1,898 เหรียญ

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.36 จุด หรือ 0.37% มาอยู่ที่ระดับ 98.99 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.013% มาอยู่ที่ระดับ 2.393% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.412% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ -0.019% อยู่ในภาวะ inverted yield curve

• นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร MUFG ชี้ว่า วัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่เกิดขึ้น แม้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียงครั้งแรกครั้งเดียว ส่งผลให้เกิดภาวะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐใกล้เกิดภาวะ inverted yield curve ในช่วงอายุคงเหลือของพันธบัตร 2ปีกับ 10 ปี แต่เรามองว่า โอกาสปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีเริ่มจำกัด ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์มีความเสี่ยงขาลง อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์มีความแข็งแกร่งแม้ความแข็งแกร่งนั้นจะมีจำกัด เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร จากปัจจัยความเสี่ยงของยุโรปเกี่ยวกับยูเครน และกาที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับสูงขึ้นมาก บ่งชี้การปรับตัวเป็นขาขึ้น ซึ่งเราคาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะทรงตัวในไตรมาสที่ 2 นี้และจะอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งหลังของปี

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) ให้คำมั่นว่า ธนาคารกลางจะเพิ่มความพยายามในการป้องกันและขจัดความเสี่ยงทางการเงิน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินในปี 2565

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ

• รัสเซียเผยว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควรสำหรับการประชุมระดับผู้นำ ขณะที่รัสเซียยังคงไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีที่มีต่อสถานะของภูมิภาคดอนบาสและไครเมียอย่างไรก็ดี ยูเครนเริ่มเผยให้เห็นแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้นในการเจรจาสันติภาพ โดยยูเครนตกลงว่าจะวางตัวเป็นกลาง ไม่สะสมอาวุธนิวเคลียร์ ไม่เข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และจะไม่อนุญาตให้กองกำลังต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศ

• สหรัฐ สหภาพยุโรป (EU) และเยอรมนีต่างออกมาประกาศว่า จะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียเพิ่มเติม หลังมีรายงานว่าทหารรัสเซียสังหารหมู่ประชาชนชาวยูเครนในเมืองบูกาใกล้กรุงเคียฟขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

• สหภาพยุโรปกำลังเตรียมมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่กับรัสเซีย โดยแหล่งข่าวระบุว่า เป็นไปได้ที่มาตรการจะคว่ำบาตรการให้เช่าเครื่องบิน, การซื้อขายน้ำมันเจ็ท,เหล็กกล้า และสินค้าฟุ่มเฟือย

• นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษเปิดเผยว่า “การโจมตีอันโหดเหี้ยมต่อประชาชน” ในเมืองบูกาและอีร์ปิน ใกล้กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนนั้น ถือเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ว่ารัสเซียได้ก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน โดยอังกฤษจะยกระดับการคว่ำบาตรรัสเซียและเพิ่มการสนับสนุนทางทหารในยูเครนเพื่อเป็นการตอบโต้

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์  ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นทวิตเตอร์ที่ทะยานขึ้นกว่า 27% อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรหลังใช้กำลังทหารโจมตียูเครน

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,921.88 จุด เพิ่มขึ้น 103.61 จุด หรือ +0.30%,
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,582.64 จุด เพิ่มขึ้น 36.78 จุด หรือ +0.81%
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,532.55 จุด เพิ่มขึ้น 271.05 จุด หรือ +1.90%

• ประธานบริหาร Deutsche Bank กล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจเยอรมันอาจเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยหากดำเนินการการยุติการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย

• สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดการส่งออกและนำเข้าของเยอรมนีพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.พ. เนื่องจากการค้าต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครน โดยยอดส่งออกเดือนก.พ.ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 6.4% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนก.พ. ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% อย่างไรก็ดี คาดว่าทั้งยอดนำเข้าและการส่งออกของเยอรมนีในเดือนมี.ค.จะถูกกระทบอย่างหนักจากสงครามยูเครน 

• สายการบินพาณิชย์ในสหรัฐสั่งยกเลิกเที่ยวบินกว่า 3,300 เที่ยวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีเที่ยวบินอีกหลายพันเที่ยวที่ต้องชะลอการบินออกไป เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจในรัฐฟลอริดาและปัญหาอื่น ๆ

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์  ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ตลาดน้ำมันโลกอาจเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น หากสหรัฐและยุโรปใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในระดับที่รุนแรง อันเนื่องมาจากการที่ทหารรัสเซียสังหารหมู่ชาวยูเครนในพื้นที่ใกล้กรุงเคียฟ

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 4.01 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 103.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.14 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 107.53 ดอลลาร์/บาร์เรล

• สหรัฐฯ ในการหยุดการเจรจาการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านชั่วคราว ซึ่งเป็นสัญญาที่จะทำให้การคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่านลดลง ทั้งนี้ อิหร่านออกมาตำหนิสหรัฐจากการยุติดังกล่าว และส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

• นักวิเคราะห์อาวุโสของ OANDA กล่าวว่า ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นในวันนี้ เนื่องจากยุโรปได้ส่งสัญญาณว่ากำลังเตรียมการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย

• นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า การที่สหรัฐปล่อยน้ำมันสำรองออกจากคลังด้วยอัตรา 1 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อเนื่องไปอีกหกเดือนข้างหน้าเพียงชาติเดียว ก็เพียงพอจะที่จะทำให้ตลาดไม่เกิดภาวะขาดแคลนอุปทานน้ำมันไปได้ทั้งไตรมาสที่สองถึงไตรมาสที่สามของปีนี้

ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19

• สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,088 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,534,140 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,757,575 ราย เสียชีวิต 91 ราย เสียชีวิตสะสม 25,512 ราย  

• นายซู เจินชาง นายกรัฐมนตรีของไต้หวัน เผยว่า การติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในไต้หวันนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนทยอยเปิดพรมแดน เนื่องจากเชื้อรอบนี้แทบไม่ทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรง

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• ค่าเงินบาทวันนี้ คาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 33.40-33.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

• หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้กำหนดนโยบายการดำเนินงานต่อเนื่องจากนโยบายเร่งด่วน 99 วัน ที่ได้ดำเนินการจนสำเร็จเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันยังประสบปัญหาหลายอย่าง เช่น เรื่องโควิดที่ยังระบาดอยู่ และมีมาตรการหลายอย่างที่ทำให้เดินหน้าเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น ควรเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทั่วประเทศให้เกิน 70% แล้วประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นโดยเร็ว

 

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest , CNBC, Bloomeberg