MTS Help Center

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี  เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Core PCE) สูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 0.8 เหรียญ หรือ 0.04% มาอยู่ที่ระดับ 1,934.74 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 15 เหรียญ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,954 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2 เหรียญ หรือ 0.08% ปิดที่ 25.133 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,091.44 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 62.42 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 115.78 ตัน

• หัวหน้านักกลยุทธ์ของ Tiger Brokers กล่าวว่า ตลาดกำลังชั่งน้ำหนักจากปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อราคาทองคำ ซึ่งได้แก่ความเสี่ยงจากสงครามรัสเซียและยูเครน อัตราเงินเฟ้อซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่เป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ  ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ราคาทองคำมีลักษณะการซื้อขายในกรอบอีกครั้ง

• นักวิเคราะห์จาก Fxstreet กล่าวว่า ราคาทองคำพลิกกลับลงอีกครั้ง หลังจากเข้าใกล้ระดับ 1,935 เหรียญ โดยราคาทองคำถูกกดดันจากการรีบาวน์ของค่าเงินดอลลาร์ ในขณะที่การเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังไม่มีความคืบหน้า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ในทางเทคนิค ราคาทองคำยังคงเผชิญกับความเสี่ยงขาลง หลังจากเข้าทดสอบแนวรับที่ระดับ 1,900 เหรียญ  โดยตลาดให้ความสนใจไปยังข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ PCE ที่สำคัญของสหรัฐฯ และสัญญาณใหม่ๆ ของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

• นักวิเคราะห์ Commerzbank กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงช่วยลดความกังวลเงินเฟ้อของตลาด ซึ่งหมายถึง ทองคำในฐานะทรัพย์สินที่เก็บรักษามูลค่า จะมีความต้องการน้อยลงเช่นกัน

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.09 จุด หรือ -0.09% มาอยู่ที่ระดับ 98.31 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.023% มาอยู่ที่ระดับ 2.377% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี  อยู่ที่ระดับ 2.371% และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ อยู่ที่ระดับ 0.006%

• IMF เตือนการคว่ำบาตรรัสเซียอาจทำให้อิทธิพลของเงินดอลลาร์ลดลง โดยกล่าวว่า “แม้ดอลลาร์จะยังคงเป็นสกุลเงินหลักของโลก แต่ก็อาจทำให้ระบบการเงินกระจายตัวในระดับย่อยมากขึ้น” พร้อมเสริมว่า ขณะนี้มีบางประเทศที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินใหม่สำหรับการชำระหนี้การค้า

• นายคาซูชิเกะ คามิยามะ หัวหน้าฝ่ายระบบการชำระหนี้ของธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวว่า ธนาคารกลางในกลุ่ม G7 จำเป็นต้องเร่งสร้างกรอบการดำเนินงานที่เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อควบคุมดูแลสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากสงครามยูเครนอาจทำให้รัสเซียใช้คริปโทเคอร์เรนซีเป็นช่องทางในการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร

• ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ได้ออกมาเปิดเผยในวันนี้ ว่าความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในกลุ่มธุรกิจเกาหลีใต้อ่อนแอลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนมี.ค. จากแรงกดดันของราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจ (BSI) อยู่ที่ 83 ในเดือนมี.ค. ซึ่งลดลง 2 จุดจากเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีที่อยู่ระดับต่ำกว่า 100 บ่งชี้ว่า ผู้ประกอบการที่มีมุมมองเป็นลบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นบวก 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ

• ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า ประเทศที่ซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียจะต้องชำระเงินเป็นสกุลรูเบิลเท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันนี้ 1 เม.ย. หากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ก็จะถูกยกเลิกสัญญา พร้อมย้ำว่าการชำระเงินให้แก่ Gazprom จะต้องชำระในสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น

• ในขณะสวนทางกับก่อนหน้า สื่อตะวันตกรายงานว่า รัสเซียมีท่าทียอมอ่อนลงในการบังคับให้จ่ายค่าก๊าซธรรมชาติด้วยเงินรูเบิล โดยระบุว่าในการพูดคุยระหว่างนายกรัฐมันตรีเยอรมัน โอลาฟ โชลท์ กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า บริษัทยุโรปยังคงสามารถซื้อก๊าซธรรมชาติด้วยเงินยูโรและเงินดอลลาร์ได้ ผ่านบริษัท Gazprom ซึ่งไม่ถูกตะวันตกคว่ำบาตร และบริษัทจะนำเงินดอลลาร์หรือยูโรไปแลกเป็นเงินรูเบิล กับโฆษกทำเนียบเครมลินเองก็เผยในช่วงก่อนหน้าเช่นกันว่า รัสเซียจะไม่บังคับให้ชำระค่าก๊าซธรรมชาติเป็นเงินรูเบิลในทันที แต่จะเป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป

• ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีเมียร์ เซเลสกี กล่าวอ้างว่า รัสเซียเตรียมการบุกฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน หลังจากกองทัพรัสเซียล่าถอยออกจากกรุงเคียฟ ในขณะที่รัสเซีย กล่าวว่า จะมุ่งเน้นการปลดปล่อย 2 จังหวัดในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มฝักใฝ่รัสเซียมาตั้งแต่ปี 2014

• ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐแจ้งกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนว่า สหรัฐจะจัดสรรเงินราว 500 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครนตามแผนการให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณโดยตรง

• นายกรัฐมนตรีโปแลนด์เปิดเผยว่า โปแลนด์ต้องการยุติการนำเข้าน้ำมัน, ก๊าซ และถ่านหินจากรัสเซียในปีนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศยุโรปเลิกพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,678.35 จุด ลดลง -550.46 จุด หรือ -1.56%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,530.41 จุด ลดลง -72.04 จุด หรือ -1.57% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,220.52 จุด ลดลง -221.76 จุด หรือ -1.54%

• รายงานตัวเลข ดัชนีค่าใช้จ่ายผู้บริโภคพื้นฐาน หรือ Core PCE Index (Core Personal Consumption Expenditure Index)  ซึ่งเป็นตัวเลขที่เฟดใช้ในการวัดเงินเฟ้อ ยังคงพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี  โดยปรับขึ้น 5.9% ในเดือนมีนาคม

• Philip Lane หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เขาเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อในยุโรปอาจทรงตัวอยู่ที่ระดับใกล้เคียงอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย 2% โดยธนาคารกลางยุโรปพร้อมที่จะแก้ไขการกำหนดนโยบายใหม่ในกรณีที่ราคาพลังงานตกต่ำอย่างรุนแรง

• สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยในวันนี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษเติบโตเร็วกว่าคาดในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2564 ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น รายงานระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษเพิ่มขึ้น 1.3% ในไตรมาส 4 ของปี 2564 เมื่อเทียบรายไตรมาส โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ขั้นต้นที่ 1%

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 7% ในวันพฤหัสบดี หลังสหรัฐยืนยันว่าจะระบายน้ำมันในคลังสำรองจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง -7.54 ดอลลาร์ หรือ -7% ปิดที่ 100.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง -5.54 ดอลลาร์ หรือ -4.9% ปิดที่ 107.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

• สหรัฐพิจารณา ปล่อยน้ำมันสู่ตลาดปริมาณมากที่สุดในรอบ 50 ปี โดยจะปล่อยอุปทานน้ำมันกว่า 180 ล้านบาร์เรลในช่วงเวลาหลายเดือน จากคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ เพื่อเป้าหมายปรับลดราคาน้ำมันลง

• โอเปคพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 432,000 บาร์เรลต่อวัน ตามที่ตลาดคาดการณ์และเป็นไปตามแผนเดิมของโอเปคพลัส

• สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เหล่าบริษัทผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซียได้บอกกับกระทรวงพลังงานของรัฐเซียว่าพวกเขาคาดว่าจะมีการปรับลดการดำเนินงานของโรงกลั่นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากขณะนี้มีน้ำมันในคลังมากเกินไปหลังจากที่ยุโรปสั่งซื้อน้ำมันจากรัฐเซียลดน้อยลงอย่างรวดเร็

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กล่าวว่า หากไม่สามารถรักษาราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่ประชาชนทั่วไปยังจ่ายไหว พื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกอาจต้องตกอยู่ในภาวะยากจนและทำให้เศรษฐกิจโลกซบเซา

ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19

• สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28,379 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,433,291 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,656,726 ราย เสียชีวิต 92 ราย เสียชีวิตสะสม 25,222 ราย  

• ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 1 เม.ย.2565 ภาพรวมของการระบาดยังต้องคอยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 28,379 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 3,656,726 ราย อีกทั้งยังมียอดผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง เสียชีวิตเพิ่มอีก 92 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 3,524 ราย ขณะที่ ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 25,222 ราย รายงานถึงผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ 251,214 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 23,843 ราย

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ33.31 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลง จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.25 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.20-33.40 บาทต่อดอลลาร์

• ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ.65 ยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว โดยการส่งออกสินค้าปรับเพิ่มขึ้นบ้างตามอุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับดีขึ้น ขณะเดียวกันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามการกลับมาเปิดลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้นบ้าง

• รมว.คลัง กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 65 น่าจะเริ่มฟื้นตัว และขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่โอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งถือเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่กลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น

 

ที่มาจาก : Reuters, FXstreet, Infoquest , CNBC, Bloomeberg