• สรุปข่าวราคาทองคำ ประจำวันที่ 11 มีนาคม 2565

    11 มีนาคม 2565 | Gold News


ข่าวเกี่ยวกับทองคำ


  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงคราที่ยืดเยื้อในยูเครนและภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ


  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 5.1 เหรียญ หรือ 0.26% มาอยู่ที่ระดับ 1,994.8 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 12.2 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 2,000.4 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 26.256 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.75 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,061.53 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 32.51 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 85.87 ตัน


  • นักวิเคราะห์อาวุโสของ OANDA คาดว่า นักลงทุนจำนวนมากที่เปิดสถานะซื้อทองคำในช่วง 2-3 วันที่่ผ่านมา จะถูกบังคับให้ขายออกจากราคาทองคำที่ปรับตัวลง หากสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้ตลาดต้องติดตาม ประกอบกับหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเอเชีย อาจจะกดดันให้ราคาทองคำกลับมาอยู่ในแนวโน้มขาลงได้ต่อ


  • นักวิเคราะห์ของ ANZ ระบุว่า เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ การกดดันรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรจากในหลายประเทศจึงเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าความเสี่ยงจากสงครามการเมืองที่เพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนราคาทองคำ


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก UBS คาดการณ์ราคาทองคำจะทรงตัวที่ระดับ 1,950 เหรียญในเดือน มิ.ย. ก่อนจะปรับตัวลดลงมาแถวบริเวณ 1,800 เหรียญ ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม แพลตตินั่มยังคงเป็นโลหะมีค่าที่น่าสนใจ เนื่องจากราคาทองคำตลาดโลกสูงกว่าที่คาดไว้ นักลงทุนจึงไม่ควรสะสมในขณะนี้


ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง


  • สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากที่แข็งค่าในช่วงกลางคืนในวันพฤหัสบดีหลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศว่าจะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสที่สาม ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง


  • ดัชนีดอลลาร์  ปรับตัวลดลง -0.54 จุด หรือ -0.55% มาอยู่ที่ระดับ 98.52 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวขึ้น 0.125% มาอยู่ที่ระดับ 1.99%


  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับศูนย์เท่าเดิมตามคาด แต่จะดำเนินการการยุติการทำ QE เร็วกว่ากำหนดโดยจะสิ้นสุดในไตรมาสที่ 3 หากข้อมูลทางเศรษฐกิจสนับสนุน สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจยุโรปจะเข้าสู่ภาวะเติบโตต่ำเงินเฟ้อสูงหรือ Stagflation


  • นางคริสติน ลาการ์ด ชี้ว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ของเศรษฐกิจยุโรป


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก Westpac คาดว่า ดัชนีดอลลาร์จะสามารปรับตัวเหนือระดับ 100 จุดในสัปดาห์หน้า โดยประเมินว่า เฟดจะยังคงแนวทางนโยบายการเงินเข้มงวดหรือ hawkish จากกรณีหากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนยังคงย่ำแย่ต่อ และคาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะไม่ย่อตัวลงไปต่ำเกินกว่าระดับบริเวณ 96.5 ระหว่างที่ดัชนีย่อตัว


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก ING คาด คู่สกุลเงินยูโรดอลลาร์จะอ่อนค่าลงและซื้อขายในระดับต่ำกว่า 1.11 ดอลลาร์ต่อยูโร หากยังคงไม่มีข่าวดีเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน โดยมีสมมุติฐานพื้นฐานว่า สถานการณ์ความขัดแย้งยูเครนและราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงจึ้น จะบังคับให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต่อหยุดการเปลี่ยนผ่านไปใช้นโยบายการเงินเข้มงวด และความคาดหวังของตลาดจะสอดคล้องกับการส่งสัญญาณของธนาคารกลางยุโรปที่จะมีความระมัดระวังต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจมากขึ้น และหากเป็นเช่นนั้น จะกดดันค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง


ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ


  • การเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนครั้งที่ 4 ล้มเหลวในวันนี้ การประชุมระหว่างนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย และนายดมิโทร คูเลบา รมว.ต่างประเทศยูเครน ซึ่งจัดขึ้นที่ตุรกีในเมื่อวานนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงหรือการสร้างเส้นทางอพยพที่ปลอดภัยสำหรับพลเรือนแต่อย่างใด


  • นายปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่า การคว่ำบาตรต่าง ๆ ต่อรัสเซียไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และให้คำมั่นสัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเขากล่าวต่อไปว่า รัสเซียกำลังติดอยู่กับพันธสัญญาด้านพลังงาน และเขาได้ชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อที่กำลังพุ่งสูงขึ้นในสหรัฐ เป็นเหตุกล่าวอ้างของสหรัฐให้ต้องห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซีย อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังของรัสเซียระบุว่าได้ดำเนินมาตรการจำกัดเงินทุนไหลออก และจะปฏิบัติงานร่วมกันกับธนาคารกลางรัสเซียเพื่อให้มั่นใจว่าระบบทางการเงินของรัสเซียยังมั่นคง


  • รัฐบาลอังกฤษเตรียมพิจารณาผ่อนปรนข้อจำกัดด้านวีซ่าสำหรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครน หลังจากถูกประณามอย่างหนักในประเด็นการให้ความสำคัญกับระบบราชการเหนือสวัสดิภาพของผู้คนที่หลบหนีสงคราม


  • รัฐบาลอังกฤษมีคำสั่งคว่ำบาตรนายโรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซี รายงานระบุว่า นายอับราโมวิชเป็นเศรษฐีชาวรัสเซียซึ่งติด 1 ใน 7 รายชื่อของชนชั้นนำรัสเซียที่ถูกอายัดทรัพย์สิน 


  • IMG อนุมัติเงินช่วยเหลือยูเครน 1.4 พันล้านเหรียญ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูเครนจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้


  • นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียจะเพิ่มจำนวนทหารอีกประมาณ 30% ภายในปี 2583 สู่ระดับราว 80,000 นาย เพื่อทำให้ชาวออสเตรเลียปลอดภัยท่ามกลางภาวะแวดล้อมทั่วโลกที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้น ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ฝ่ายบริหารของนายมอร์ริสันพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของเขาดำเนินงานได้ดีที่สุดในด้านความมั่นคงของชาติท่ามกลางภัยคุกคามจากจีนและรัสเซีย ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนพ.ค.นี้


  • รัฐบาลอังกฤษมีคำสั่งคว่ำบาตรนายโรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซี รายงานระบุว่า นายอับราโมวิชเป็นเศรษฐีชาวรัสเซียซึ่งติด 1 ใน 7 รายชื่อของชนชั้นนำรัสเซียที่ถูกอายัดทรัพย์สิน


  • Goldman Sachs ประกาศยุติการดำเนินงานในรัสเซีย ภายหลังจากที่ธนาคารเปิดเผยรายงานประจำปีเกี่ยวกับยอดความเสี่ยงด้านเครดิตต่อรัสเซียมูลค่า 650 ล้านเหรียญ ซึ่ง Goldman Sachs นับเป็นธนาคารแห่งแรกที่ออกจากรัสเซียนับตั้งแต่มีการคุกคามในยูเครน


  • ยูทูบ และกูเกิล เพลย์ ได้ระงับการให้บริการแบบเสียเงินทั้งหมดในรัสเซียแล้ว ซึ่งรวมถึงบริการสำหรับผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกด้วย หลังจากที่กูเกิลและยูทูบระงับขายโฆษณาออนไลน์ในรัสเซียไปก่อนหน้านี้ ตามทิศทางเดียวกับทวิตเตอร์ อิงค์ และสแนป อิงค์ หลังรัสเซียเข้าบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา


ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ


  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี โดยตลาดถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมทั้งรายงานที่ว่าการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครนประสบความล้มเหลว


  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,174.07 จุด ลดลง 112.18 จุด หรือ -0.34%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,259.52 จุด ลดลง 18.36 จุด หรือ -0.43% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,129.96 จุด ลดลง 125.58 จุด หรือ -0.95%


  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.9% ในเดือนก.พ. เมื่อกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 40 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 7.8% และยังไม่มีสัญญาณการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อ


  • นักเศรษฐศาสตร์จาก UOB ชี้ว่า รายงานดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ของจีนเดือนกุมภาพันธ์เป็นไปตามที่คาดที่ 0.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ รายงานดัชนีผู้ผลิต (PPI) ลดต่ำลงสู่ระดับ 8.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 8.6% ภาพรวมเงินเฟ้อของจีนที่ไม่รวมพลังงานถือว่ายังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับขึ้นและโอกาสเกิดภาวะอุปทานชะงักงันในวงกว้างจากปัจจัยสถานการณ์ยูเครน กดดันเงินเฟ้อสูงขึ้น แต่จะถูกชดเชยจากปัจจัยเศษฐกิจโลกอ่อนแอ


ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน


  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันพฤหัสบดี หลังจากรัสเซียให้คำมั่นว่าจะยังคงจัดส่งน้ำมันตามที่ตกลงไว้กับบรรดาผู้ซื้อ นอกจากนี้ การส่งสัญญาณที่สับสนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยังส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันเป็นไปอย่างผันผวน


  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.68 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 106.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.81 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 109.33 ดอลลาร์/บาร์เรล


  • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้กล่าวในการประชุมวานนี้ว่า รัสเซียจะยังคงดำเนินการตามพันธกรณีในการจัดส่งน้ำมันให้กับกลุ่มผู้ซื้อ โดยรัสเซียเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรปในสัดส่วน 1 ใน 3 และจัดหาน้ำมันให้กับยุโรปในอัตราส่วน 7% ของปริมาณน้ำมันทั่วโลก


  • นักวิเคราะห์ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทกลั่นน้ำมันเอกชนของจีนเตรียมลดการผลิตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นจากผลพวงของวิกฤตยูเครนบั่นทอนผลกำไร โดยราคาน้ำมันที่พุ่งทะลุ 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลทำให้บรรดาผู้ผลิตรู้สึกตื่นตระหนก สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การควบคุมการผลิตของโรงกลั่นเอกชน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนหนึ่งในห้าของการนำเข้าน้ำมันดิบของจีน นั้นจะทำให้การจัดซื้อน้ำมันดิบของประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากเป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่างจีนลดน้อยลง ขณะที่ก่อนหน้านี้จีนได้กำชับให้บริษัทกลั่นน้ำมันของรัฐบาลระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลในเดือนเม.ย. เพื่อให้จีนมีน้ำมันใช้เพียงพอ


  • นักกลยุทธ์จาก Danske Bank คาด ราคาน้ำมันเบรนท์สามารถปรับขึ้นแตะระดับ 150 เหรียญต่อบาร์เรลหากเกิดการคว่ำบาตรซึ่งอาจยกระดับสถานการณ์สงคราม ซึ่งสร้างความลำบากในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ และชี้ว่า หากไม่มีสถานการณ์ใดๆเพิ่มเติม ยังคงคาดการณ์ราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับบริเวณ 125 เหรียญต่อบาร์เรล


ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19


  • สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,792 ราย ผู้ป่วยสะสม 913,214 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,136,649 ราย เสียชีวิต 63 ราย เสียชีวิตสะสม 23,575 ราย 


  • ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์โอมิครอน เพิ่มขึ้นเท่าตัวในแต่ละสัปดาห์ของเดือนกุมภาพันธ์ โดยผู้เชี่ยวชาญกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังและไม่ประมาทในการป้องกันโรค CDC ระบุว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยดังกล่าว หรือบีเอ.2” (BA.2) ครองสัดส่วนเพียง 1% ของผู้ป่วยใหม่ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ก.พ. ก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 2.2% ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.พ., 3.8% ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ก.พ., 6.6% ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.พ. และ 11.6% ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะผลการศึกษาช่วงแรกพบสายพันธุ์บีเอ.2 อาจแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิมถึง 30% 


  • จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจำนวน 528 รายในวันนี้ ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสม 112,385 ราย  แต่ไม่พบรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม


  • รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ เผยว่า สิงคโปร์ยังคงต้องการให้ผู้เดินทางทุกคนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว


ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท


  • นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ ที่ระดับ  33.15 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.13 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.00-33.25 บาทต่อดอลลาร์


  • รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2565 ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่า ได้เร่งรัดการลงนามในสัญญาของหน่วยงานในสังกัด เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณปี 2565 ได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ และมีนโยบายให้นำผลการเบิกจ่ายงบประมาณมาเป็นตัวชี้วัดในการประเมินผลการปฏิบัติงานด้วย



ที่มาจาก : ReutersFXstreet, Infoquest , CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com