MTS Help Center

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ยูเครนและภาวะเงินเฟ้อเป็นปัจจัยผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมพุ่งขึ้นเกือบ 2.5% ท่ามกลางความกังวลที่ว่า อุปทานพัลลาเดียมจะได้รับผลกระทบจากการที่นานาประเทศประกาศคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตพัลลาเดียมรายใหญ่ของโลก

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 20.09 เหรียญ หรือ 1.05% มาอยู่ที่ระดับ 1,942.39 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 13.6 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,935.9 ดอลลาร์/ออนซ์
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 25.212 ดอลลาร์/ออนซ์
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 1,050.22 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 21.2 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 74.56 ตัน

• นักกลยุทธ์จาก Credit Suisse คาดราคาทองคำจะมีราคาปิดในสัปดาห์นี้เหนือระดับราคา 1,917-1,923 เหรียญ นำไปสู่การปรับมุมมองเชิงบวกว่าทองคำสามารถปรับขึ้นกลับไปถึงจุดสูงสุดตลอดการณ์ 2,075 เหรียญ

• นักวิเคราะห์จาก Natixis ระบุว่า มีความเป็นไปได้น้อยลงที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ เพิ่มเติมจากความต้องการทองคำจากวิกฤติยูเครน

 

ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์และค่าเงินดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากการบุกยูเครนของรัสเซีย ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐขยับสูงขึ้น โดยข้อมูลการขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ รายสัปดาห์บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังฟื้นตัว

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.31 จุด หรือ 0.32% มาอยู่ที่ระดับ 97.72 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.105% มาอยู่ที่ระดับ 1.775%

• ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนจาก UBS Global Wealth Management กล่าวว่า ในประเด็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อ มีความเป็นไปได้มากที่ราคาสินค้าผู้บริโภคจะทำจุดสูงสุดในเดือนหรือสองเดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้โดยไม่กระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

• นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ปรับประมาณการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งกลุ่มขึ้น 10-20% จากวิกฤติทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ก่อตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ความหวังเดียวของตลาดคือ ภาวะวิกฤติจะกดดัยเฟดให้มีมุมมองผ่อนคลายนโยบายการเงินขึ้น ซึ่งทาง JPmorgan จะยังคงประเมินว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างในระดับปานกลางค่อยเป็นค่อยไป

• ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนจาก BNY Mellon Wealth Management ชี้ว่า ตลาดกำลังพยายามปรับมุมมองเกี่ยวกับสิ่งที่เฟดจะทำและมุมมองเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งทาง BNY มองว่าคำถามที่สำคัญคือ จะจัดการอย่างไรหากเงินเฟ้อยืดเยื้อไป 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน, 15 เดือนหรืออาจยาวนานถึง 18 เดือนนับจากนี้

• ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ลาเรตตา เมสเตอร์ กล่าวสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ และคาดเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ระดับ 3.5-4.0% ในสิ้นปีนี้

 

ข่าวเกี่ยวกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่รัสเซียถูกนานาประเทศคว่ำบาตรฐานใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,794.66 จุด ลดลง 96.69 จุด หรือ -0.29%,
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,363.49 จุด ลดลง 23.05 จุด หรือ -0.53% และ
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,537.94 จุด ลดลง 214.08 จุด หรือ -1.56%

• สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 56.5 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 61.0 หลังจากแตะระดับ 59.9 ในเดือนม.ค.

• หนึ่งในสมาชิกกรรมการธนาคารกลางยุโรป( ECB ) กล่าวว่า สงครามรัสเซียอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจเติบโตช้าเงินเฟ้อสูง  หรือ stagflation ทั้งนี้ขึ้นกับความยาวนานของความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และวิธีการที่ยุโรปตอบสนองต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ การกีดกันเศรษฐกิจรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรจะส่งผลต่อเศรษฐกิจรัสเซียอย่างรุนแรง ยิ่งไปกว่านั้น การที่หลายบริษัทเลิกกิจการและออกจากรัสเซียจะสร้างผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจรัสเซีย

• หัวหน้านักกลุยทธ์จาก บริษัทจัดการกองทุน AMP ชี้ว่า ยุโรปพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากรัสเซียในสัดส่วน 30% ของความต้องการทั้งหมด และรัสเซียเองก็ผลิตน้ำมันราว 11% ของกำลังการผลิตทั้งโลก นำไปสู่ข้อสรุปว่า นักลงทุนควรกังวลการเกิดถาวะเศรษฐกิจโตต่ำเงินเฟ้อสูง (stagflation) อย่างฉับพลัน

• Fitch และ Moody สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซียลง 6 ระดับ จาก BBB เป็น B และจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นลบ หลังจากบรรดาประเทศต่างๆ ใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงตอบโต้การบุกรุกยูเครนของรัสเซีย ซึ่งได้เพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงินระดับมหภาค และส่งผลกระทบต่อความสามารถการชำระหนี้รัฐบาล โดย Moody สถาบันการจัดอันดับเครดิตทั่วโลก ประกาศปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของรัสเซียจาก Baa3 เป็น B3 และกล่าวว่าขอบเขตและความรุนแรงของการคว่ำบาตรที่ประกาศจนถึงปัจจุบันนั้นเกินความคาดหมายของบริษัท และจะส่งผลกระทบด้านเครดิตอย่างมีนัยสำคัญ

 

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 50.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564 จากระดับ 51.4 ในเดือนม.ค. เนื่องจากภาคบริการของจีนได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันและพลังงาน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.93 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 2.47 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 110.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

• สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เปิดเผยว่า ผู้อำนวยการ IAEA จะเดินทางไปยังอิหร่านในวันเสาร์นี้ ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณแนวโน้มความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

• โอเปคพลัสเพิกเฉยภาวะชะงักงันของตลาดน้ำมัน (Oil shock) ในการประชุมโอเปคพลัสไม่มีการกล่าวถึงกรณีการบุกยูเครนแต่อย่างใด และคงกำลังการผลิต ในขณะที่ตลาดยังคงหลักเลี่ยงการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม สำนักงานพลังงานสากล (IEA) พยายามลดความร้อนแรงของตลาดน้ำมันโดยการปล่อยน้ำมันดิบจากคลังสำรองสู่ตลาด

 

ข่าวเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ

• ทหารรัสเซียบุก โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครน เกิดเหตุไฟไหม้  โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยูเครน คิดเป็นร้อยละ 20 ของกำลังผลิตไฟฟ้าในยูเครน ตั้งอยู่ใกล้ทางตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้ภูมิภาคดอนบาส

• หน่วยข่าวกรองของกองทัพอังกฤษรายงานว่า กองกำลังรัสเซียรุกคืบเข้าใกล้กรุงเคียฟของยูเครนได้เพียงเล็กน้อยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากถูกสกัดจากแนวต้านที่แข็งแกร่งของยูเครน เหตุขัดข้องทางเทคนิค และการจราจรที่ติดขัดในยูเครน ขณะที่เมืองต่าง ๆ เช่น เมืองคาร์คิฟ, เชอร์นิฮิฟ และมารีอูปอลยังไม่ตกไปอยู่ในมือของรัสเซีย

• ธนาคาร SocGen หรือ Societe Generale เตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเข้ายึดกิจการของธนาคารที่ดำเนินสาขาในรัสเซีย

• กระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศเลื่อนกำหนดการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เพื่อป้องกันการเกิดความเข้าใจผิด ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดหลังรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน ซึ่งเดิมมีกำหนดการทดสอบภายในสัปดาห์นี้ 

• ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและประกันภัยของจีน (CBIRC) เปิดเผยว่า จีนคัดค้านและไม่ขอออกมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อรัสเซียตามที่หลายประเทศได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และจีนคาดหวังว่าทุกฝ่ายจะยังคงมีการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจตามปกติต่อไป และจนถึงขณะนี้การคว่ำบาตรยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจีนอย่างชัดเจน

• สิงคโปร์เตรียมจัดตั้งกองกำลังชุดใหม่เพื่อดูแลด้านความปลอดภัยด้านดิจิทัลโดยเฉพาะ ซึ่งแสดงถึงความจำเป็นที่จะต้องเสริมความแข็งแกร่งด้านกลาโหมให้พร้อมรับมือภัยคุกคามจากภายนอก รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ในช่วงที่มีการสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย

 

ข่าวเกี่ยวกับ Covid-19

• สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,834 ราย ผู้ป่วยสะสม 758,561 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) รวมยอดติดเชื้อสะสม 2,981,996 ราย เสียชีวิต 54 ราย เสียชีวิตสะสม 23,124 ราย

• ผลการศึกษาของคณะนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนมีโอกาสทำให้เสียชีวิตได้มากกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลอย่างน้อย 40% พร้อมกับเน้นย้ำถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการยกเลิกมาตรการสกัดโควิดเร็วเกินไปและการประเมินความเสี่ยงของโอมิครอนที่ต่ำเกินไป

• ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้จากผลพวงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (KDCA) รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 198,803 รายในช่วงเที่ยงคืนวันพุธ  หนึ่งวันหลังยอดผู้ติดเชื้อรายวันแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 219,241 ราย

• องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มผลักดันให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มสูงยิ่งขึ้นไปอีกประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ ทำให้มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นว่าผู้ติดเชื้อจำนวนมากอาจอาการทรุดหนัก

ข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท

• นักบริหารการเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.57 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  32.62 บาทต่อดอลลาร์  มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.65 บาทต่อดอลลาร์

• อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ทั้ง 4 ระบบที่ไทยได้รับสิทธิพิเศษอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ ปี 64 มีมูลค่า 3,612.68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 28.14% เมื่อเทียบกับปี 63 และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 61.94% โดยไทยยังคงใช้สิทธิฯ ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 31.65% และใช้สิทธิฯ ส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราชเพิ่มขึ้น 25.27% ในขณะที่การใช้สิทธิฯ ส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์ลดลง 2.01% และ 16.12% ตามลำดับ

 

ที่มาจาก :   Reuters, FXstreet, Infoquest , CNBC, Bloomberg