MTS Help Center

ทองปิดต่ำกว่า $1800 ท่ามกลางดอลลาร์ทรงตัว ตลาดลดความสนใจ Omicron

·         สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาทองคำปิดที่ระดับต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด

 

ราคาทองตลาดโลก ปิดร่วง 0.2% ที่ระดับ 1,786.04 เหรียญ

สัญญาทองคำตลาด COMEX  ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,788.7 เหรียญ

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.474% เมื่อคืนนี้ เนื่องมาจากการคาดการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

ทั้งนี้การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เหมือนกับที่เคยดำเนินการในเดือนมี.ค. 2563 

 

·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities อธิบายว่า "ราคาทองยังคงซึมลงอย่างต่อเนื่องด้วยความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโอไมครอน 

และผลการะทบต่อระบบเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำได้ สำหรับโครงการซื้อ CTA ในขณะนี้ เราคาดการณ์ว่าจะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ ตราบใดที่ราคาสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,777 เหรียญ ได้''

 

ความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโอไมครอนกลับมาหลังจำที่ WHO ได้ออกมาประกาศว่า การแพร่กระจายตัวของโอไมครอน มีการกระจายตัวได้ไวกว่าสายพันธุ์เดลต้า และผู้ที่ติดเชื้อนั้นเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว และบางรายเป็นผู้ที่หายจากโควิด19 

 

·         นักวิเคราะห์จาก Exinity ให้ความเห็นว่า ตลาดยังคงไม่มั่นใจที่จะดันราคาทองคำไปสูง 

เนื่องจากมองว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะยังคงไม่ปรับตัวขึ้น จนกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับตัวขึ้นในปีหน้า

 

·         นักวิเคราะห์จาก Kedia Commodities,Mumbai มองว่า การประกาศ QE Tapering ล่าสุดส่งผลบางส่วนต่อราคาทองคำ แต่ก็มีแรงหนุนราคาทองคำจากความกังวลของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน นอกจากนี้ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ดีในการป้องการเงินเฟ้อ แต่การขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะทำให้กดระดับเงินเฟ้อให้ต่ำลง

·         กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองที่ 978.57 ตัน ยังถือเป็นระดับต่ำสุดช่วงต้นเม.ย. ปี 2020

ภาพรวมเดือนธ.ค. ยังคงเป็นเดือนแห่งการขาย โดยขายสุทธิ 14.28 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน มีการขายทองออกแล้ว 192.17 ตัน

 

·         ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เหมือนกับที่เคยทำในเดือนมี.ค. 2563 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเดินทาง รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไมครอน เทคโนโลยี และไนกี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,492.70 จุด เพิ่มขึ้น 560.54 จุด หรือ +1.60%

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,649.23 จุด เพิ่มขึ้น 81.21 จุด หรือ +1.78%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,341.09 จุด เพิ่มขึ้น 360.14 จุด หรือ +2.40%

 

·        น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $2.51 รับแรงช้อนซื้อ-สหรัฐไม่ล็อกดาวน์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 71 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศแม้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่ระบาด

 

·         ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 71.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

·         ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 73.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

·         CDC ระบุโอมิครอนแพร่ไวกว่าคาด จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นสายพันธ์โอมิครอนคิดเป็นสัดส่วนถึง 73% ของผู้ติดเชื้อที่พบในสหรัฐ กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศ 

 

นักวิทยาศาสตร์ของสหราชอาณาจักรกล่าวต่อรอยเตอร์ว่า การติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์โอไมครอน ดูเหมือนจะไม่รุนแรง ซึ่งความรุนแรงน้อยกว่าการติดเชื้อจากเดลต้า ในทางกลับกัน สำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวว่าขณะนี้โอไมครอน เป็นสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคิดเป็นเกือบสามในสี่ของผู้ติดเชื้อโควิด19 ตาม CDC ของสหรัฐอเมริกา

 

สรุปภาพรวมมาตรการรับมือเชื้อไวรัสโอมิครอนในยุโรป

 

·         ยังคงมีเพียง 1 ประเทศในยุโรปที่ใช้มาตรการล็อคดาวน์ได้แก่ เนเธอร์แลนด์

 

·         ออสเตรีย กลับมาเปิดเมือง ทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ เปิดกิจกรรมโรงแรมและร้านอาหาร แต่ยังจำกัดการเข้าประเทศรับเฉพาะผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนแล้วเท่านั้น

 

·         เยอรมันคุมการเข้าออกประเทศ จัดให้กลุ่มประเทศสหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ต้องกักตัว 14 วันก่อนเข้าประเทศ และให้ผู้เดินทางจากประเทศเดนมาร์ก ฝรั่งเศส และนอร์เวย์ กักตัวอย่างน้อย 5 วัน แต่ยังไม่ประกาศล็อคดาวน์

 

·         ไอร์แลนด์กำหนดเวลาปิดผับ-ร้านอาหาร ควบคุมระดับการพบปะทางสังคม

 

·         อิตาลี ยกระดับความเข้มของมาตรการป้องกันโควิด ห้ามรวมตัวในอาคาร

 

·         อังกฤษ กำลังประเมินและพิจารณาใช้มาตรการล็อคดาวน์

 

·         ฝรั่งเศสควบคุมผู้เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร

 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,532 ราย ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน 2,170,198 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย เสียชีวิตรวมสะสม 21,471 ราย

 

·         ดอลลาร์ทรงตัวท่ามกลางค่าเงินสกุลสินทรัพย์เสี่ยงปรับแข็งค่า โดยดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 96.53 จุด หลังทำต่ำสุดช่วงต้นตลาดที่ 96.336 จุด

เงินบาทเปิด 33.64 อ่อนค่าจากกังวลโอมิครอนกระทบท่องเที่ยว ให้กรอบวันนี้ 33.55-33.75

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.64 บาท/ดอลลาร์ อ่อน ค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.59 บาท/ดอลลาร