• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2564

    2 ธันวาคม 2564 | Gold News


ทองรีบาวน์ท่ามกลางดอลลาร์ชะลอตัว ตลาดผันผวนจาก Omicron

ราคาทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้น อันเป็นผลมาจาก

ดอลลาร์ทรงตัว – ยูโรผันผวนจากประธานเฟด Hawkish และการระบาดของ Omicron
ดัชนีดอลลาร์ปิดที่ 95.940 จุด หลังเดือนพ.ย. ปิดแกร่งสุดตั้งแต่มิ.ย.

- U.S.10Yield ปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 1.434% จากการพบผู้ติดเชื้อ Omicron ในสหรัฐฯ
โดยช่วงต้นตลาดอัตราผลตอบแทนเคลื่อนไหวที่ 
1.506%

CDC สหรัฐฯ ยืนยันรายงานพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron Covid รายแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนีย

WHO ชี้ Omicron พบแล้ว 23 ประเทศ ทั่วโลก

- Dow Jones ปิดทรุด 460 จุด ท่ามกลางหุ้นส่วนใหญ่ร่วงจากการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ

·         ราคาทองคำปรับตัวขึ้น +0.4% ปิดที่ 1.780.05 เหรียญ

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. ตลาด Comex ปิด +0.4% ที่ระดับ 1,784.30 เหรียญ

 

·         ทองรีบาวน์ แม้จะเห็ฯตลาดหุ้นโดยทั่วไปมีการแกว่งข้นได้บ้าง จากการที่สหรัฐฯกลับมาใช้มาตรการตรวจหาเชื้อ Covid-19 ที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับกลุ่มผู้เดินทางด้วยสายการบิน รวมถึงหลายๆประเทศมีการประกาศคุมเข้มมากขึ้นบริเวณพรมแดน

 

·         หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Blue Line Futures ระบุว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดูจะเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำเป็นอย่างดี ประกอบกับความเข้มงวดรอบใหม่ที่จะฉุดให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่า จึงน่าจะช่วยหนุนทองคำในฐานะ Safe-Haven

 

 

·         นักวิเคราะห์ตลาดการเงินอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ทองคำชะลอตัวและยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน และดูจะตอบรับเล็กน้อยตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงและดอลลาร์ที่อ่อนค่า โดยตลาดยังคงมีปริมาณซื้อขายปานกลาง ภายใต้ความวิตกกังวล จึงมีแรงหนุนให้ทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ แต่ทองคำก็ยังไม่มีเสถียรภาพพอทีจะกลับไปยืนเหนือ 1,800 เหรียญอีกครั้งเวลานี้

 

·         นายเจอโรมโพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวถึง การเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากอุทาน-อุปทางที่ไม่สมมาตรกันในอนาคตอันใกล้ โดยสมาชิกเฟดจำเป็นจะต้องพร้อมสำหรับการรับมือโอกาสที่เฟงินเฟ้อมีความเป็นไปได้ที่อาจจะไม่ได้อ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าอย่างที่คาดหวังไว้

 

 

·         นักลงทุนบางส่วน ยังเลือถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ


·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำออก 2.03 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 990.82 ตัน


 

·         ซิลเวอร์ปิด -2.3% ที่ 22.27 เหรียญ

 

·         แพลทินัมทรงตัวบริเวณ 934.55 เหรียญ

 

·         พลาเดียมปิด +0.1% ที่ 1,740.25 เหรียญ

 

·         โพเวลล์ เผย เฟดจะหารือถึงการเร่งลด QE ในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่เฟดก็กำลังจัจบตาความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะเตรียมขึ้นดอกเบี้ย

ในการกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ ของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ยังคงมีการกล่าวย้ำถึงสมาชิกเฟดที่ตั้งใจจะหารือเรื่องการเร่งลด QE พร้อมเปิดกว้างต่อการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วมากขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้ออาจไม่ลดลงอย่างที่ประเมินไว้ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

นอกจากนี้ อุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้บริโภค ยังคงเผชิญกับปัญหาห่วงโซ่อุปทานอย่างหนัก และอาจทำให้เฟดต้องประเมินกรอบเวลาว่าอาจต้องเลือกระหว่างมุ่งเป้าไปยังการจ้างงานต็มที่และการให้เงินเฟ้อกับสู่เป้าหมาย


 

·         ผลสำรวจ Fed Survey ชี้ บริษัทสหรัฐฯกำลังต่อสู้งึนเฟ้อสูงและการขาแคลนแรงงาน


 

·         OECD ชี้ เงินเฟ้อยังเป็นความเสี่ยงหลักต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ พร้อมมองปีนี้เศรษฐกิจโลกจะโตได้ 5.6%  (เดิม 5.7%)

ปี 2022 จะขยายตัวได้ 4.5%  


ปี 2023 จะขยายตัวได้ 3.2%



ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์ก่อนหน้ามากนัก โดยปี 2022 คงเดิม แต่ไม่ได้มีคาดการณ์ใหม่เพิ่มเติมในปี 2023

 

·         ประธานบริษัท Siemens ย้ำปัญหาห่วงโซ่อุปทานจะยังดำเนินต่อไปถึงช่วงกลางปีหน้า


 

·         ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นปานกลางในเดือนต.ค. 0.2% จาก -0.1% ในเดือนก.ย.


 

·         ADP เผย จ้างงานเอกชนสหรัฐฯดีเกินคาดแตะ 534,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. แต่แย่ลงจากเดมที่ 570,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ดี ยังมีความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อและภัยคุกคามจากสายพันธุ์ใหม่ที่อาจชะลอการเติบโตในช่วงที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว


 

·         รัสเซียขับไล่เจ้าหน้าที่ทางการทูตสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯในประเด็นยูเครน สร้างความตึงเครียดให้แก่รัสเซียและสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น


 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

เงินบาท’ วันนี้เปิด‘อ่อนค่า’ ที่ 33.74 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารการเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทไว้ที่ระดับ 33.74 บาท/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  33.72 บาท/ดอลลาร์

พร้อมมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60-33.80 บาท/ดอลลาร์


สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท จะเห็นได้ว่าเงินบาทยังคงเผชิญความผันผวนในฝั่งอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องจากแรงขายสินทรัพย์ไทย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หรือ บอนด์ระยะสั้นตามการปรับสถานะเก็งกำไรเงินบาทของผู้เล่นต่างชาติ ซึ่งเรายังคงมองว่า ในระหว่างวันเงินบาทยังคงมีแรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าอยู่ จากความกังวลปัญหาการระบาดของ โอไมครอน


อีกทั้ง สัญญาณเชิงเทคนิคในระยะสั้นยังคงชี้ว่าเงินบาทยังมีแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า ทำให้ผู้เล่นต่างชาติยังไม่รีบกลับเข้ามาเก็งกำไรเงินบาทฝั่งแข็งค่า ทำให้ปัจจัยที่จะพอช่วยหนุนให้เงินบาทไม่อ่อนค่าไปมาก คือ การรีบาวด์ของราคาทองคำ รวมถึงแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้ส่งออกบางส่วน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com