• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564

    18 พฤศจิกายน 2564 | Gold News
     


·                     อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลงอาจหนุนทอง Break เหนือ 1,878 เหรียญได้อย่างยั่งยืน

 

นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก FXStreet ระบุว่า ทองคำมีแนวโน้มซื้อขายในกรอบระหว่าง 1,850 - 1,878 เหรียญ


จากกราฟรายวันสะท้อนโอกาสทองทำสูงสุดใหม่ทดสอบระดับสำคัญทางจิตวิทยาอีกครั้งที่บริเวณ  1,900 เหรียญ และมีแนวโน้มจะเห็นทองท้าทายเส้นแนวต้านสำคัญของเทรนขาลงที่ 1,904 เหรียญ


สัญญาณ RSI ราย 14 วัน ชี้ทองคำเคลื่อนไหวในสภาวะ Overbought  และมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ เส้นค่าเฉลี่ย DMA ราย 100 วัน ตัดเหนือ DMA ราย 200 วัน จึงตอกย้ำราคาทองขาขึ้น


แต่หากทองหลุดต่ำกว่า 1,850 เหรียญ อาจเห็นทองทดสอบต่ำสุดเมื่อ 11 พ.ย. ที่ 1,843 เหรียญ และอาจกลับหาแนวรับสำคัญ 1,834 เหรียญ ซึ่งจะเป็นจุดวัดใจสำคัญของตลาดขาลง


·                     ทองดูจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม่เทรดเดอร์จะกังวลเงินเฟ้อ

ทองเคลื่อนไหวแถว 1,868 เหรียญในตลาดเอเชีย และวันนี้ดูจะแกว่งตัวกรอบแคบๆระหว่าง 1,866.33 เหรียญ


·                     Credit Suisse ระบุถึง ทองชะลอการฟื้นตัวจากกระแสเงินเฟ้อสูง

ขณะที่แนวรับแรกของทองคำอยู่ที่ระดับ 1,834 เหรียญ ซึ่งทองคำอาจเริ่มต้นกลับมาปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้น และมีโอกาสไปได้ถึง 1,917 เหรียญ ซึ่งหากผ่านระดับนี้ไปได้ มีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านสำคัญถัดไปบริเวณ 1,959 - 1,977 เหรียญ รวมทั้งอาจเห็นกลับแถวสูงสุดประวัติการณ์ 2,075 เหรียญ


แต่หากทองคำหลุด 1,834 เหรียญที่เป็นแนวรับแรก น่าจะเห็นระดับ 1,814 เหรียญ เป็นลำดับต่อไป

อย่างไรก็ดี ยังคงยากที่ทองคำจะทะยานแรงได้ เว้นแต่จะเห็นสัญญาณโดยทั่วกันของตลาดต่างๆเป็นสภาวะ Risk-Off


·                     ANZ มอง ทองคำอาจขึ้นได้ต่อ จากแนวโน้มอัตราผลตอบแทนแท้จริงจะยังเป็นลบ

Business Recorder คาด ทองคำอาจทดสอบ 1,876.9 เหรียญได้อีกครั้ง


·                     ดอลลาร์ชะลอแข็งค่า และยังทรงตัวต่ำกว่าระดับแข็งค่ามากสุดรอบ 16 เดือนที่ 96.226 จุด

ค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.1327 ดอลลาร์/ยูโร ยังคงเคลื่อนไหวใกล้อ่อนค่ามากสุดรอบ 16 เดือน

ค่าเงินปอนด์ทรงตัวบริเวณ 1.3502 ดอลลาร์/ปอนด์  ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในวันนี้

ค่าเงินเยนแข็งค่ามากสุดที่ 113.86 เยน/ดอลลาร์ในวันนี้ แต่ยังคงเคลื่อนไหวไม่ห่างจากอ่อนค่ามากสุดรอบ 4 ปีครึ่งที่เพิ่งทำไว้เมื่อวานนี้บริเวณ 114.97 เยน/ดอลลาร์


·                     หยวนอ่อนค่าหนักสุดรอบ 6 ปี เมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางนักลงทุนเล็งเห็นถึงสมาชิก PBOC ที่ดูจะมีความอดทนมากขึ้นต่อค่าเงินหยวนในระยะสั้น

โดยหยวนอ่อนค่ามากสุด 6.3935 หยวน/ดอลลาร์ (อ่อนค่ามากสุดตั้งแต่ 2 มิ.ย.) โดยวันนี้มีการปรับค่ากลางมาแข็งค่าจากวันก่อนแถว 6.3803 หยวน/ดอลลาร์


·                     ตุรกีชะลอการอ่อนค่าหลังทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 11 เดือนเมื่อเทียบดอลลาร์

ตุรกีปรับอ่อนค่าลงมาแล้วกว่า 32% เมื่อเทียบดอลลาร์ปีนี้ และกระทบต่อเงินเฟ้อในตุกรีให้อยู่ในระดับสูง มีผลต่อการนำเข้าสินค้า


·                     ตลาดเกิดใหม่จะเห็นได้ถึง ค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย "แข็งค่า" นำโดยเงินบาทที่แข็งค่าหนัก


·                     สงคราม Tech War ระหว่างสหรัฐฯ-จีน อาจพุ่งเป้าไปที่บริษัท "SK Hynix" ที่ถือเป็นโรงงานผลิตชิปสำคัญในจีน

แผนการยกระดับบริษัท SK Hynix ของเกาหลีใต้ครั้งใหญ่ที่มีโรงงานผลิตชิปความจำ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจตกอยู่ใน "ภาวะอันตราย" หลังมีแหล่งข่าววงใน ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว Reuters โดยระบุถึงการที่ ทางการสหรัฐฯ ไม่ต้องการให้มีอุปกรณ์ขั้นสูงถูกใช้หรือมีกระบวนการอยู่ในจีน

 

ดังนั้น จึงอาจเห็นผลกระทบต่อบริษัท SK Hynix ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิปความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีส่วนประกอบสำคัญในสมาร์ทโฟนไปนถึงระดับข้อมูลต่างๆ กลายเป็น "เหยื่อ" รายต่อไปของการต่อสู้ทางภูมิศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯและจีนได้


·                     CNBC เผยผลสำรวจล่าสุด ระบุ อุปสงค์ธุรกิจการท่องเที่ยวอาจปรับขึ้นในปี 2022 แต่การฟื้นตัวเต็มรูปแบบจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2024

ปีหน้า คาดเห็นค่าใช้จ่ายด้านธุรกิจการเดินทางหรือท่องเที่ยวทั่วโลกมีแนวโน้มปรับขึ้นกว่า 37% ที่มูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญ


สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวระดับโลก (Global Business Travel Association) เผยว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนยอดติดเชื้อ Covid-19 และสายพันธุ์ใหม่ต่างๆ รวมถึงเรื่องจำนวนการฉีดวัคซีนและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ดูจะเป็น "ชวนเหตุสำคัญ" สำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจปีนี้ ขณะที่ภาคธรุกิจปี 2021 มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 14% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 754% ชะลอตัวลงกว่า 21% เมื่อเทียบรายปี จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา


·                     "แมร์เคล" เตือน การระบาดของ Covid-19 ระลอก 4 กำลังส่งผลกระทบต่อเยอรมนีที่มีการต่อสู้กับปัญหานี้อย่างเต็มรูปแบบ

นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี อธิบายถึงสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศเวลานี้ ว่ากำลังพิจารณาถึงแนวทางจัดการกับอัตราการระบาดที่ทำสูงสุดประวัติการณ์ โดยการระบาดระลอกที่ 4 เกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบ


·                     ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงดอกเบี้ยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากไวรัส Covid-19 ต่อไป

 

·                     ธนาคารกลางฟิลลิปปินส์ คงดอกเบี้ย แต่ย้ำถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในปี 2022


·                     เบลเยียมประกาศใช้มาตรการเข้มงวดรอบใหม่ แต่นายกฯเบลเยียม ลั่น จะพยายามหลีกเลี่ยงการ Lockdown


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com