• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564

    2 พฤศจิกายน 2564 | Gold News
     
 

·         ทองคำมีแนวโน้มเผชิญความ "ผันผวน" ก่อนประชุมเฟด


ราคาทองคำอ่อนตัวลงวันนี้ ท่ามกลางดอลลาร์ที่ลดความร้อนแรงเรื่องทิศทางแข็งค่า โดยบรรดานักลงทุนทุกฝ่ายที่ให้ความสนใจและจับตาไปยังประชุมเฟด ท่ามกลางความวิตกกังวลมากขึ้นเรื่องเสถียรภาพด้านเงินเฟ้อ


ทั้งนี้ ราคาทองคำและซิลเวอร์มีการรีบาวน์กลับได้หลังจากที่ร่วงลงไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย. จากแรงเทขายทำกำไรในดัชนีดอลลาร์ จึงทำให้เราเห็นราคาทองคำปิดแดนบวก


อย่างไรก็ดี Money Control วิเคราะห์ว่า ราคาทองคำจะยังคงผันผวนก่อนประชุมเฟด โดยที่ทองคำจะมีแนวรับบริเวณ 1,784 เหรียญ และ 1,772 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวต้านด้านบนอยู่ที่ 1,804 และ 1,818 เหรียญตามลำดับ


ราคาซิลเวอร์จะมีแนวรับ 23.88 เหรียญ และ 23.55 เหรียญ ขณะที่แนวต้านด้านบนอยู่ที่ 24.30 และ 24.58 เหรียญ ตามลำดับ


สำหรับวันนี้ เข้าสู่ช่วงเทศกาล Dhanteras หรือวันธันเตราสในอินเดีย ที่มักเห็นการเข้าซื้อเครื่องประดับประเภททองคำและซิลเวอร์จำนวนมาก จึงทำให้เกิดการคาดการณ์ที่ว่าจะเห็นทองคำและซิลเวอร์มียอดขายในกลุ่มจิวเวลรีเพิ่มสูงขึ้น

 

·         ราคาทองคำทรงตัวแถว $1800 จับตา "อินเดีย" - "เฟด"​​

FXStreet ระบุว่า ราคาทองคำแม้จะยังไม่ผ่าน 1,800 เหรียญ แต่ก็ยังเคลื่อนไหวได้ราวๆ 1,793 เหรียญก่อนเปิดตลาดยุโรป

ภาพรวมทองคำยังคงรอผลประชุมเฟดในคืนวันพรุ่งนี้เวลาประมาณตี 1.30น. ตามเวลาไทย


ทั้งนี้ ทองคำยังเผชิญกับความท้าทายของ "เทศกาลในอินเดีย" ที่เป็นช่วงที่จะเห็นการเข้าซื้อของกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่ โดยสภาทองคำโลกหรือ WGC เผย ปัจจัยเสริมทัพ หนุนตลาดทองคำล่าสุดในอินเดียมา

จากการที่ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีการส่งสัญญาณคุมเข้มทางการเงิน

อุปสงค์ทองคำในอินเดียที่อาจฟื้นตัวต่อในช่วงไตรมาสที่ 4


ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน ส่งสัญญาณการกักตุนสต็อกสินค้าประเภทอาหารก่อนฤดูหนาว จึงยิ่ง "ตอกย้ำ" ความกังวลเรื่องปัญหาการตัดพลังงานไฟฟ้า โดยที่ความกังวลทางเศรษฐกิจเรื่องบริษัท Evergrande ยังเป็นตัวกดดันภาพใหญ่อยู่


·         FXStreet วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค



ในทางเทคนิคสัญญาณ RSI ยังทรงตัวในทิศทางแข็งค่า ทางด้านภาพรายสัปดาห์สะท้อนโอกาสที่อาจเห็นทองคำทดสอบแนวต้าน 1,800 เหรียญ  ขณะที่การจะกลับตัวเป็นขาขึ้นของทองคำต้องยืนให้ได้เหนือ 1,810 เหรียญ จึงจะทำให้ทองคำมีโอกาสเข้าใกล้สูงสุดของเดือนต.ค. บริเวณ 1,813 เหรียญ รวมถึงไปทดสอบแนวต้านสำคัญทางเทคนิคที่เคยเป็นสูงสุดของเดือนก.ค. และก.ย. บริเวณ 1,834 เหรียญ


ในทางตรงกันข้าม ทองคำจะตอกย้ำสภาวะขาลงหาก Break หลุดเส้น EMA ราย 200 วันที่ 1,789 เหรียญ ก็จะยิ่งกดดันให้ทองคำเผชิญแรงเทขายและอาจกลับทดสอบ 1,772 เหรียญได้ รวมทั้งอาจร่วงลงไปทดสอบต่ำสุดช่วงปลายเดือนต.ค. บริเวณ 1,760 เหรียญ


·         ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์อ่อนค่า หลัง RBA มีท่าที Dovish - ตลาดค่าเงินสนใจเฟด

ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาณ์อ่อนค่าลงหลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ทำการลดความคาดหวังนักลงทุนที่ต้องการเห็นสัญญาณ Hawkish โดยที่ตลาดก็ยังรอปัจจัยหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นประชุมเฟด และบีโออี

ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์อ่อนค่าลงมากถึง 0.47% ก่อนที่จะปรับขึ้นมาอยู่ในทิศทางอ่อนค่าของวันราวๆ 0.23% ที่ 0.75025 ดอลลาร์/ออสเตรเลีย จากที่ขึ้นไปทำแข็งค่ามากสุดที่ 0.75555 ดอลลาร์/ออสเตรเลีีย ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากสุดตั้งแต่ 6 ก.ค. (ช่วงที่ตลาดรับกระแส RBA จะทำการเพิ่มดอกเบี้ยเร็วสุดปีหน้า)


อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางออสเตรเลียยังมีการกล่าวถึงระดังเงินเฟ้อที่ยังอยู่ต่ำมาก จึงอาจจะต้องรอโอกาสและไม่ทำการขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2024 พร้อมปรับลดเป้าหมายการซื้อพันธบัตรรัฐบาลลงภายในเม.ย. ปี 2024 นี้ด้วย


ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 93.925 จุด หลังจากที่อ่อนค่ามา 0.25% วานนี้ จากที่ไปทำแข็งค่ามากสุดรอบ 2 สัปดาห์ครึ่งที่ระดับ 94.313 จุด

ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.07% ที่ 1.3649 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินยูโรขยับลง 0.07% บริเวณ 1.15995 ดอลลาร์/ยูโร

คา่เงินเยนอ่อนค่าอีก 0.07% ที่ 113.915 เยน/ดอลลาร์ ยังคงเคลื่อนไหวสะสมพลังต่ำกว่าที่ทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 4 ปีเมื่อ 20 ต.ค. บริเวณ 114.695 เยน/ดอลลาร์


·         หยวนอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ก่อนตลาดคาดหวังเฟดทำ Tapeirng QE

ทั้งนี้ การคุมเข้มทางการเงินใดๆของสหรัฐฯ จะเป็นตัวคุกคามให้หยวนอ่อนค่า แต่ก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะเห็นเฟดเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใดๆ นอกจากจะเห็นถึงผลกระทบและเข้าแทรกแซงดอลลาร์ที่แข็งค่า

หยวนเปิดตลาดที่ 6.3960 หยวน/ดอลลาร์ และระหว่างวันทรงตัวที่ 6.3988 หยวน/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากค่ากลางที่ PBoC กำหนดช่วงเปิดตลาด


·         Fed Funds Futures ชี้ โอกาส 90% ที่จะเห็นเฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ช่วงเดือนมิ.ย. 2022 และอาจมีปัจจัยหนุนนำโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งช่วงเดือนธ.ค


·         จีนเริ่มมีคำเตือน ประกาศให้ประชาชนเริ่มกักตุนสิ่งจำเป็นก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ที่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น


·         ซิดนีย์เตรียมแผนผ่อนคลาย Lockdown สัปดาห์หน้าสำหรับคนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว


·         อัตราเงินเฟ้อในเกาหลีใต้แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบทศวรรษ โดยทำให้มีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้


·         ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ยังคงเปิดกว้างต่อโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด แต่ยังย้ำเรื่อง "การอดทนรอ"


·         เฟดจะเริ่มต้นประชุม 2 วันทำการในช่วงค่ำวันนี้ และตลาดส่วนใหญ่คาดโอกาสเฟดทำ Tapering QE



·         บีโออีจะมีการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ แต่ตลาดส่วนใหญ่ก็หวังจะเห็นการขยับขึ้นดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อย


·         นายกฯออสเตรเลีย กล่าวโจมตี "ความน่าเชื่อถือ" ของผู้นำฝรั่งเศส จากปัญหาข้อพิพาทเรือดำน้ำ


·         ราคาน้ำมันดิบทรงตัว จากกระแส OPEC+ จะคงแนวทางการทยอยปรับขึ้นกำลังการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 3 เซนต์ แถว 84.74 เหรียญ/บารืเรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลงราว เซนต์ หรือ -0.1% บริเวณ 83.98 เหรียญ/บาร์เรล



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com