MTS Help Center

ทองขึ้น ดอลลาร์อ่อนค่า

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่สูงขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

ราคาทองคำตลาดโลก +0.4% ที่ระดับ 1,775.21 เหรียญ หลังเมื่อวานนี้ +1.2% ก่อนที่จะปรับลงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวขึ้น

สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. +0.3% ที่ระดับ 1,776.20 เหรียญ

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.

แต่ดัชนีดอลลาร์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และเคลื่อนไหวไม่ไกลจากราคาปิดของวันอังคาร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบหนึ่งสัปดาห์

 

หุ้นส่วนผู้จัดการที่ SPI Asset Management กล่าวว่า ทองยังคงแกว่งตัวตลาดจับกระแสการที่เฟดจะทำการคุมเข้มทางการเงินเร็วๆนี้ ซึ่งทองคำอาจไม่ได้สนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อระดับสูง และแนวโน้มที่อ่อนตัวตอนนี้

แต่กรณีที่เงินเฟ้อยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อในอีก 2-3 เดือน สมาชิกเฟดอาจจำเป็นต้องมีการปรับแนวทางการรรับมือทางการเงินให้เข้มงวดมากขึ้นในปีหน้า ตามที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดได้ระบุไว้เมื่อวานนี้

 

อย่างไรก็ดี แม้เงินเฟ้อระดับสูงจะเป็นปัจจัยที่เสี่ยงมากขึ้นสำหรับเศรษฐกิจในอีกไม่กี่ปีจากนี้  แต่ผลสำรวจจาก Reuters Poll ก็คาดว่าน่าจะเห็นเฟดรอจนกว่าจะถึง ปี 2023 จึงตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยได้

 

นักวิเคราะห์ของ ANZ กล่าวว่า แม้ว่าความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่แข็งแกร่งจะส่งผลต่ออุปสงค์ทองคำ แต่การลงทุนค้าปลีกยังและการซื้อทองแท่งยังแข็งแกร่งในช่วงเทศกาลซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนทองคำ

ราคาแพลตินัม +0.4% ที่ระดับ 1,044.51 เหรียญ

ราคาพลาเดียม +0.2% ที่ระดับ 2,101.17 เหรียญ

ราคาซิลเวอร์ +0.8% ที่ระดับ 23.84 เหรียญ

·         New York Times เผย ทำเนียบขาวกำลังมีการปรับทบทวนแผนค่าใช้จ่ายด้านภูมิอากาศ

·         CNBC เผยมุมมองนักวิเคราะห์ที่มองว่า จีนต้องเสริมกลไกลขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ๆ ท่ามกลางอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจตกต่ำเวลานี้

·         ราคาขายบ้านใหม่ในจีนชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิด Covid-19 ท่ามกลางภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ และเหตุปราบปรามที่เข้มงวดด้านการลงทุน

·         ธนาคารกลางจีนคงดอกเบี้ย LPR ต่อเนื่อง 18 เดือน

·         ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเม็ดเงิน 1 แสนล้านหยวนผ่านทางระบบ Reverse Repo ช่วง 7 วัน

·         "PANIC ORDERS" หรือคำสั่งซื้อจากความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ค้าปลีก กำลังเป็นตัวกดดันให้วิกฤตห่วงโซ่อุปทาน "เลวร้าย" ยิ่งขึ้น

·         เกาหลีเหนือยืนยันการยิงทดสอบขีปนาวุธขนาดเล็กเมื่อวานนี้

·         ส่งออกญี่ปุ่นชะลอตัว - ค่าใช้จ่ายด้านนำเข้ากำลังกดดันการฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้น

·         Reuters รายงานว่า ถึงแม้เงินเฟ้ออังกฤษจะอ่อนตัวก็ไม่มีแนวโน้มจะขวางบีโออีในการขึ้นดอกเบี้ย

ทั้งนี้ บีโออีมองว่าการอ่อนตัวลงของเงินเฟ้ออาจเป็นเพียงชั่วคราว ซึ่งก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะขัดขวางการขึ้นดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ หรือเร็วสุดเดือนหน้าได้

·         อินเดียชะลอส่งวัคซีนให้ COVAX หลังอนามัยโลกยังไม่รับรอง โควาซิน

·         สิงคโปร์ต้อนรับนักเดินทางกลุ่มแรกในวันนี้ภายใต้โครงการปลอดการกักตัว ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสู่ศูนย์กลางการบินเพื่อฟื้นฟูการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม

·         Deliveroo บริษัทจัดส่งอาหารได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทั้งปี หลังจากมูลค่ารวมของคำสั่งซื้อในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 58% เมื่อเทียบเป็นรายปี แม้ว่ามาตรการ Lockdown ในตลาดส่วนใหญ่จะผ่อนคลายลง

โดยคาดว่าปีนี้มูลค่าธุรกรรมรวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 60-70% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 50-60%