MTS Help Center

 

·             ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.1% ที่ระดับ 1,759.13 เหรียญ

·             สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +0.1% ที่ระดับ 1,758.4 เหรียญ

·             ราคาทองคำปิดบวกได้เป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่ สัปดาห์ที่ 3 ก.ย. โดยปิด +0.5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากดอลลาร์เป็นสำคัญ

·         ราคาทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้นในคืนวันศุกร์ โดยได้รับอานิสงส์จาก

- ดอลลาร์อ่อนค่า ปิด -0.3% ที่ 94.046 จุด

- ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ บดบังโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับลงแตะ 1.484%

- ข้อมูลค่าใช้จ่ายผู้บริโภคออกมาเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค. แตะ 0.8% แต่การอุปโภคบริโภคอ่อนตัวลงกว่าช่วงเดือนก.ค. แตะ 0.1%

- Core PCE Price Index ที่ไม่รวมอาหารและพลังงานยังปรับขึ้นอีก 0.3% ในเดือนส.ค. สะท้อนเงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูงถึงจะปรับขึ้นได้ไม่มากนัก

- ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น หลังความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดเป็นไปอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับความกังวล Covid-19, แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจจีน และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ

- ราคากลุ่ม Precious Metals ปรับตัวสูงขึ้น

ซิลเวอร์ปิด +1.5% ที่ 22.53 เหรียญ  ปิดสัปดาห์ +0.5%

แพลทินัมปิด +1.1% ที่ 974.41 เหรียญ ปิดสัปดาห์แดนลบ

พลาเดียมปิด +0.8% ที่ 1,924.18 เหรียญ ปิดสัปดาห์แดนลบ

นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของปัญหาความตึงตัวของเซมิคอนดัคเตอร์ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ และสภาพคล่องการซื้อขายในระดับต่ำ ทำให้ราคาพลาเดียมปรับตัวลดลง โดยเฉพาะภาคอตุสาหกรรมการผลิตในจีนที่อ่อนลง

·        ปัจจัยที่ยังจำกัดการปรับขึ้นของราคาทองคำ

- ISM เผยข้อมูลดัชนี PMI ภาคการผลิตดีขึ้นเกินคาดแตะ 61.1 จุดในเดือนก.ย. จาก 59.9 จุด เดือนส.ค.

- กองทุน SPDR เปิดเดือนต.ค. ขายออก 3.49 ตัน ปัจจุบันลดการถือครองลงมาที่ระดับ 986.54 ตัน ทำระดับต่ำสุดตั้งแต่ 8 เม.ย. 2020

 - โอกาสเฟดจะเริ่มถอนมาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจปีนี้ ทั้งการทำ Tapering QE และโอกาสเกิดการขึ้นดอกเบี้ย

 

·         หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก Blue Line Futures กล่าวว่า การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่อ่อนตัวลง ในขณะที่นักลงทุนมีการปรับพอร์ตการลงทุนช่วงไตรมาสที่ 4 ทั้งหมดนี้เป็น “ปัจัยกดดันทอง”

·         นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank ระบุว่า การร่วงลงของตลาดหุ้นเอเชียและยุโรป จากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและความเป็นไปได้ที่จะเห็นเศรษฐกิจชะลอตัว ดูจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ

ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานดูจะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศจีนและฝั่งยุโรป รวมไปถึงรายงานผลประกอบการ จึงอาจเห็นความผันผวนในการซื้อขายตลอดเดือนส.ค. นี้ และนี่ถือเป็น “ปัจจัยบวก” ต่อราคาทองคำ

 

·         ภาพรวมค่าเงินสุกลหลักอื่นๆ

- ยูโรปิด +0.1% ที่ระดับ 1.1595 ดอลลาร์/ยูโร
ปิดสัปดาห์ลดลงไปราว -1.1% ถือเป็นการปรับตัวลดลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย.

- ค่าเงินเยนรีบาวน์กลับมาแข็งค่า หลังไปทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 19 เดือน โดยปิด -0.2% ที่ 111.105 เยน/ดอลลาร์

- ค่าเงินปอนด์ปิด +0.6% ที่ 1.3552 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังไปทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 9 เดือนที่ระดับ 1.3516 ดอลลาร์/ปอนด์

 

·         Bitcoin พุ่งรับเดือนต.ค. ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์คาดอาจเห็น Crypoไตรมาส 4/2021 ขยายตัวแกร่ง

·         Wall Street Journal เผย ทีมบริหารไบเดนกำลังพิจารณาข้อกำหนด Stablecoin สำหรับภาคธนาคารต่างๆ

·         นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ ย้ำ การขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกอาจเกิดขึ้นช่วงปลายปี 2022 ท่ามกลางเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มกลับสู่แถวระดับเป้าหมายของเฟดในปีหน้า แต่ก็จะเห็นการยืนเหนือ 2% อยู่ในปี 2022 และ 2023

·         นายแพทริค ฮาเกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อว่าอาจไม่เป็นการปรับขึ้นเพียงชั่วคราวอย่างที่คาดหวังไว้ แต่มองว่าเศรษฐกิจมีการเข้าใกล้เป้าหมายเงินเฟ้อ ก่อนการตัดสินใจเพิ่มดอกเบี้ย

 

·         Bloomberg เผยว่า นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด มีการซื้อขายหุ้นก่อนช่วงแถลงการณ์เกี่ยวกับการระบาดของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มากถึง 1- 5 ล้านเหรียญ ตั้งแต่กองทุนพันธบัตรจนถึงกองทุนหุ้น

 ·         CNBC รายงานถึงแหล่งข่าววงในที่ระบุว่า ในวันนี้ นางแคทเธอรีน ไท ผู้อำนวยการ USTRซึ่งถือเป็นที่ปรึกษาด้านการค้าระดับสูงของ “ไบเดน” จะระบุถึงการที่ “จีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่ทำไว้ภายใต้บริหารทรัมป์

 

 

·         เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ เปิดเผยว่า ข้อตกลงการค้าของสหรบัฯ ไม่ใช่ทั้งหมดหรือจุดสิ้นสุดทางการค้าของอังกฤษ

 

·         กลุ่ม Money Manager ทั่วโลก หันไปลงทุนในหุ้นจีนมากขึ้นาว 1.33 หมื่นล้านเหรียญในกองทุนหุ้นจีนตลอดช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะมีแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาวิกฤต China Evergrande ในอนาคต รวมถึงแรงกดดันจากกฎระเบียบต่างๆที่มากขึ้นของจีน

 

·         Reuters ระบุว่า ภาคโรงงานต่างๆทั่วทั้งโลกกำลังชะลอตัว เพราะได้รับผลกระทบจาก

1. ปัญหาภาวะคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน

2. ความตึงเครียดทางด้านราคา

3. ผลกระทบจากการปิดโรงงานจากการระบาดของ Delta Covid-19 ในเอเชีย

4. สัญญาณเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

 

 

·         CEO บริษัท Marvell Technology ชี้ ปัญหาขาดแคลน Semiconductor Chip จะยังอยู่ในปี 2022
จึงอาจกระทบกับการผลิตสินค้าตั้งแต่รถยนต์, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ตลอดจนแปรงสีฟัน 

 

·         เกาหลีเหนือตำหนิ U.N. "สองมาตรฐาน" ในการทดสอบขีปนาวุธ พร้อมกล่าวเตือนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา

 

·         เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้กลับมาเปิดช่องทางการติดต่อผ่าน Hotline พิเศษร่วมกันอีกครั้งในวันนี้

 

·         COVID-19 UPDATES:

 

ยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกล่าสุดเพิ่มขึ้นรวมกว่า 300,000 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมมากขึ้นแตะ 235.69 ล้านราย ด้านเสียชีวิตทั่วโลกสะสมทะลุ 4.8 ล้านราย

อย่างไรก็ดี อัตราการรักษาหายทั่วโลกสำเพิ่มขึ้นเกือบ 350,000 ราย ส่งผลให้ยอดรักษาหายทั่วโลกสุทธิแตะ 212.55 ล้านราย

 

·         บริษัทยา Merck ระบุว่า ยาเม็ดรักษา Covid-19 ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลได้มากเกินครึ่ง

 

·         สำหรับยอดติดเชื้อในไทย ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาอยู่แถวหลักหมื่นต้นๆ และเสียชีวิตช่วงสองวันปรับตัวลดลงต่ำกว่าหลักหมื่น

เมื่อวันเสาร์ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 11,375 ราย เสียชีวิตลดลงจากหลักร้อยเหลือเพียง 87 ราย
ขณะที่เมือวานนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 10,828 ราย เสียชีวิต 77

 

อย่างไรก็ดี รายงานยอดติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ลดลงต่อต่ำหลักหมื่น ล่าสุดพบ 9,930 ราย เสียชีวิตยังต่ำหลักร้อยต่อเนื่อง วันนี้รายงานพบเสียชีวิตใหม่ 97 ราย

·         รายงานไทยฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเกิน 50% ของประชากร มีเพียง 3 จังหวัด ได้แก่
ภูเก็ต, กรุงเทพ และพังงา

 

·         เงินบาทเช้านี้เปิดทรงตัว 33.64 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารการเงินมองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 33.40 – 34.00 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่วันนี้มองแกว่งตัวระหว่าง 33.55 – 33.75 บาท/ดอลลาร์

ภาพรวมเงินบาทยังมีแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่แรงขายสินทรัพย์ไทยปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนต่าง่ชาติรอจับตาแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย

สำหรับสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดการเงินโดยรวมปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) จากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ประกอบกับภาวะ Stagflation และปัญหาการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ คือ Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯคืนวันศุกร์ เพราะอาจส่งผลต่อแนวทางการทำ Tapering QE ของเฟดได้ และต้องติดตามว่าสหรัฐฯจะสามารถเจรจาขยายหนี้ได้ก่อน 18 ต.ค. เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้หรือไม่

 

·         อ้างอิงจาก Standard Wealth

- ธปท. เผยเศรษฐกิจไทยในบริบทใหม่ เริ่มใช้ ‘ดอกเบี้ย’ ดูแลยากขึ้น ด้านนักเศรษฐศาสตร์แนะอย่ายึดติดตำราเดิม

 

·         อ้างอิงจากอินโฟเควสท์

- ธปท.เผยเศรษฐกิจไทย ส.ค. รับพิษโควิดใน-ต่างประเทศ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ในเดือนส.ค. 64 เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังลดลง โดยได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัวและส่งผลให้การส่งออกของไทยแผ่วลง ขณะที่ภาคการผลิตและการส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบจากปัญหา supply disruption ทั้งการแพร่ระบาดในโรงงาน และการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตและตู้คอนเทนเนอร์

 

·         อ้างอิงจากประชาชาติธุรกิจ
- เอกชนไทยเข็นจีดีพีปีหน้า 6-8% ดันส่งออกหนุนเข้าขบวน CPTPP

“กกร.” ประสานเสียงดันจีดีพี 65 ฝ่าโควิดโต 6%

“ส.อ.ท.-หอการค้าฯ” ชี้ปัจจัยบวกเศรษฐกิจโลกฟื้น ไทยเข้า APEC หนุนเครื่องยนต์ส่งออก-เปิดประเทศดันท่องเที่ยว-ลงทุนกลับมาคึกคัก

“สนั่น” หารือ รมว.ต่างประเทศ เข้าขบวน CPTPP ต.ค.นี้ ชง “ทีมไทยแลนด์พลัส” หวังจีบทุนจีนย้ายฐาน “สุพันธุ์” เตือนระเบิดเวลาปีหน้า “พักหนี้” หมดอายุ 4 แสนบัญชี

 

·         อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ
- กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งผลักดันเศรษฐกิจ BCG Model นำร่อง 14 จังหวัดภาคใต้

 

·         อ้างอิงจากสยามรัฐ

- ไฟเขียวคลายล็อก “เศรษฐกิจไทย” ยิ้มได้ ยึดคำมั่น “การ์ดอย่าตก”

ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบมีมติการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมต่างๆเพิ่มเติม พร้อมลดระยะเวลาการออกนอกเคหะสถานเป็น 22.00 – 04.00น. ตั้งแต่ 1 ต.ค.  เป็นต้นไป ขณะที่การเปิดทองเที่ยวสีฟ้าเพิ่มเติมระยะนำร่อง 1-31 ต.ค. ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เป็นต้น

ขณะที่ กทม. จะนำร่องแนวทางเปิดพื้นที่เพิ่มเติม 10 จังหวัดระยะ 1 เริ่ม 1 – 30 พ.ย.

แนวทางเปิดเพิ่มเติมระยะ 2 เริ่ม 1 – 31 ธ.ค. อีก 20 จังหวัด และแนวทางเปิดเพิ่มเติมอีก 13 จังหวัดในระยะที่ 3 เริ่ม 1 ม.ค. 65 เป็นต้นไป