MTS Help Center

ดอลลาร์แข็ง – U.S. 10 Yield พุ่ง “กดดันทอง”

ราคาทองคำค่อนข้างปิดทรงตัวในกรอบ โดยราคาทองคำตลาดโลกปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแถว 1,752.19 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดทรงตัวที่ 1,752 เหรียญ

สัญญาซื้อขาย Gold Online Futures ของตลาด TFEX ซีรีย์ U จะหมดอายุลงในวันที่ 29 ก.ย. นี้

· ราคาทองคำถูกกดดันจาก

- ดอลลาร์แข็งค่าต่อ โดยเมื่อคืนนี้ปิด +0.1% ที่ 93.37 จุด

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นทำสูงสุดรอบ 3 เดือน แตะ 1.516%

- ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงคลังสหรัฐฯ เดือนส.ค. แตะ 1.8% ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำจีดีพี Q3 ของสหรัฐฯยังขยายตัวได้ดี

ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงคลังที่ไม่รวมภาคการขนส่ง (Core Durable Goods Orders) อ่อนตัวลงและขยายตัวได้น้อยเกินคาดแตะ 0.2% จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ 0.8%

- กองทุน SPDR ก.ย.นี้ขายออกเกือบ 10 ตัน!

กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้กลับมาเทขายอีก 3.2 ตัน ปัจจุบันลดการถือครองลงมาสู่ระดับ 990.32 ตัน

ส่งผลให้เดือนก.ย. นี้ขายออกแล้ว 9.94 ตัน และตั้งแต่ ม.ค. – 27 ก.ย. ขายทองแล้ว 180.42 ตัน

· ผู้อำนวยการจาก High Ridge Futures กล่าวว่า นักลงทุนบางส่วนยังคงมีความกังวลและต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่การแข็งค่าของดอลลาร์ก็กลายมาเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันตลาด โดยเฉพาะทองคำ ขณะที่ถ้อยแถลงของบรรดาสมาชิกเฟดดูเหมือนจะเห็นรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับคาดการณ์การประชุมวาระถัดไป (พ.ย.) ที่มีแนวโน้มจะทำการประกาศการทำ Tapering QE

· ตลาดค่อนข้างให้ความสนใจกับถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดในสัปดาห์นี้ รวมถึงถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดที่มีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงก่อนเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของสภาคองเกรสเพื่อรายงานการดำเนินนโยบายของเฟดในการรับมือกับการระบาดของ Covid-19

· นักลงทุนก็ยังคงจับตาไปยังความคืบหน้าของการจ่ายชำระหนี้ของ China Evergrande หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วบริษัทดังกล่าวพลาดการจ่ายชำระดอกเบี้ยพันธบัตรที่ถือครอง

· นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า ตลาดยังมีสัญญาณภาวะขาลงอยู่ แม้จะเห็นการรีบาวน์กลับได้บ้างแต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆ ภาพรวมยังไม่สดใสนัก

· ซิลเวอร์ปิด +1.1% ที่ 22.66 เหรียญ

· แพลทินัมปิด -0.2% ที่ระดับ 979.82 เหรียญ

· พลาเดียมปิด -0.1% ที่ระดับ 1,970 เหรียญ

· CoinShare เผย ยังมีปริมาณเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาด Cryptocurrency 6 สัปดาห์ต่อเนื่อง นำโดยการลงทุนใน Bitcoin

· รีพับลิกันค้านร่างกฎหมายจำกัดเพดานหนี้และระดมเม็ดเงินให้ภาครัฐบาล ท่ามกลางกำหนดเส้นตายในการเลี่ยง Shutdown และการผิดนัดชำระหนี้ที่ใกล้เข้ามา โดยร่างกฎหมายเพดานหนี้ฉบับปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 30 ก.ย.นี้

สหรัฐฯเผชิญความเสี่ยงในการจะผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น ท่ามกลางกลุ่มนักวิเคราะห์ที่ออกมากล่าวเตือนว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯมีแนวโน้มจะใช้สิทธิการกู้ยืมจนหมดภายในช่วงระหว่าง 15 ต.ค. และ 4 พ.ย.นี้

· นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวเตือนสภาคองเกรสว่า “แรงกดดันเงินเฟ้อ” อาจอยู่ยาวกว่าที่คาดการณ์ – การกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจที่เผชิญภาวะคอขวดอาจหนุนเศรษฐกิจขยายตัวได้ “ยั่งยืน” มากขึ้น

ขณะที่การกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในคืนนี้ มีแนวโน้มจะเห็นประธานเฟดกล่าวย้ำถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ก็พบว่ามีสัญญาณการปรับขึ้นต่อเนื่องของเงินเฟ้อร่วมด้วย อันเป็นสาเหตุจากปัญหาคอขวดด้านห่วงโซ่อุปทานและปัจจัยต่างๆ

ทั้งนี้ ถึงแม้เงินเฟ้อมีแนวโน้มจะอยู่ระดับสูงนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็เชื่อว่ามันจะอ่อนอตัวลง และจะกลับสู่เป้าหมายระยะยาว 2% ของเฟด

ขณะที่คืนวันพรุ่งนี้ ประธานเฟดมีกำหนดการจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการกำกับดูแลบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ

· ถ้อยแถลงสมาชิกเฟดเมื่อคืนนี้

- นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก เตือนให้ระวัง “ความเสี่ยงจากเพดานหนี้” จะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้ หากสหรัฐฯล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ท่ามกลางสภาวะตลาดในเวลานี้ ที่ดูจะคาดการณ์กันว่า ปัญหา “เพดานหนี้” 2.84 ล้านล้านเหรียญ จะสามารถแก้ไขได้ทันกำหนดเส้นตาย 30 ก.ย. เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown ในภาครัฐบาล

- นายชาร์ล อีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก คาดถึง การทำ Tapering QE ใกลช้เข้ามา และยังมองโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในปี 2023 พร้อมมองเงินเฟ้อจะแตะ 2.4% ภายในปี 2024

- นางลาเอล เบรนาร์ด สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟด ชี้ ยังไม่มีสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงการประกาศทำ Tapering QE ขณะที่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในปีนี้เป็นเพียง “ชั่วคราว” เท่านั้น

ทั้งนี้ เธอหวังว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นต่อเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ และอาจทำให้การประชุมที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เห็นถึงการประกาศลด QE วงเงิน 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน

- นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า ตอกย้ำว่าเฟดจะรอให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวตามเกณฑ์

- นายนีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส ชี้ หัวใจสำคัญที่สุดคือการเห็นประชาชนสหรัฐฯนับล้านกลับมามีงานทำ

· New York Times รายงานว่า สมาชิกเฟด 2 รายประกาศจะลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อกรณีการซื้อขายหลักทรัพย์ในปี 2020

- นายอีริค โรเซ็นเกร็น ประธานเฟดสาขาบอสตัน จะทำการลาออกจากตำแหน่งในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นการลาออกอย่างเร่งด่วนก่อนแผนเกษียณที่จะเกิดขึ้นในอีก 9 เดือนข้างหน้า

- นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ประกาศจะลาออกในวันที่ 8 ต.ค. นี้ ซึ่งเป็นการเกษียณตัวเองก่อนกำหนดเช่นกัน

· “คริสติน ลาการ์ด” ประธานอีซีบียังคงเปิดกว้างต่อการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ และเชื่อว่าจะเห็นเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมาย 2% ได้ในปีหน้า แต่ก็ยอมรับว่ามีความกังวลเพิ่มมากขึ้นในบางส่วนจากเงินเฟ้อที่อยู่สูงในเวลานี้

· สมาชิกอีซีบีบางราย แนะให้อีซีบีจำเป็นต้องมีมาตรการรัดกุมมากกว่านี้ เพื่อระมัดระวังและไม่ให้เกิดความผิดพลาดต่อประเด็นเงินเฟ้อ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิดพลาดเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

· “แอนดรูว์ ไบเลย์” ประธานบีโออี เล็งเห็นโอกาสเพิ่มมากขึ้นในการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย

· ตัวแทนระดับสูงของสหรัฐฯ-อียู มีการหารือถึงประเด็น “การค้าโลก” และ “การร่วมมือด้านเทคโนโลยี” ท่ามกลางแนวทางการหาวิธีต่อต้านอิทธิพลจีนที่ดูจะเห็นการขยายตัวมากยิ่งขึ้นในตลาดโลก

· COVID-19 UPDATES:

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 342,314 ราย ส่งผลให้ยอดรวมสะสมล่าสุดทะลุ 233 ล้านราย ด้านเสียชีวิตสะสมทั่วโลกแตะ 4.76 ล้านราย ขณะที่รักษาหายทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นรวมสะสม 209.69 ล้านราย

สหรัฐฯพบยอดติดเชื้อใหม่ในประเทศลดลงต่ำกว่าหลักแสนมาอยู่แถว 56,495 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 442 ราย

· นายสก็อต ก็อททิเลียบ อดีตคณะกรรมาธิการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เผย กว่า 90% ของชาวอเมริกามีรูปแบบภุมิคุ้มกันหมู่ หลังจากที่ Delta Covid-19 ระบาดระลอกใหม่ผ่านพ้นไป

· ติดเชื้อใหม่ในไทยพบเพิ่มขึ้นต่ำกว่าหลักหมื่น!bเช้านี้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ในไทยที่ระดับ 9,489 ราย ขณะที่เสียชีวิตใหม่เพิ่ม 129 ราย

ทางด้านรายงานการฉีดวัคซีนของไทย เกิน 50 ล้านโดส คาดสิ้นปีฉีดเข็ม 2 ครอบคลุม 74%

ขณะที่ ศบค.ไฟเขียวลดวันกักตัวเหลือ7วันสำหรับต่างชาติมีพาสปอร์ตวัคซีนเข้าไทย

· นักบริหารการเงิน ระบุว่า เงินบาทเปิดอ่อนค่าแตะ 33.59 บาท/ดอลลาร์ ภาพรวมมีลุ้นไปแตะ 33.80 – 33.85 บาท/ดอลลาร์ได้

เงินบาทเผชิญแรงขายหุ้นไทยอันเนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ที่ตลาดเริ่มไม่แน่ใจว่าระดับความรุนแรงจะใกล้เคียงกับน้ำท่วมใหญ่ในปี 2011 หรือไม่ ดังนั้น ตลาดจึงให้ความสนใจว่าจะกลายมาเป็นปัจจัยกดดันหรือไม่

นอกจากนี้ ในระยะสั้นช่วงปลายเดือน เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากโฟลว์ซื้อเงินดอลลาร์ของผู้นำเข้า ส่วนผู้เล่นในตลาดทองคำ อาจใช้จังหวะที่ราคาทองคำย่อตัวแตะระดับ 1,750 เหรียญ ในการเข้าทยอยซื้อ buy on dip ทำให้เรายังไม่เห็นโอกาสที่เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าได้ชัดเจน โดยแนวรับสำคัญของเงินบาทจะอยู่ในโซน 33.20-33.30 บาท/ดอลลาร์

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.45-33.65 บาท/ดอลลาร์

สำหรับประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ คาด กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50%

· อ้างอิงจากผู้จัดการออนไลน์

- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทย มั่นใจมาตรการภาครัฐ ดันเศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ 1.3% และในปี 2565 จะรักษาระดับการเติบโตระหว่าง 4-5% ภายหลังสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลาย

ทั้งนี้ รัฐบาลวางแผนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการใช้นโยบายการคลัง เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดยการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ซึ่งจะมีการเปิดตัวในเร็วๆ นี้

· อ้างอิงจากประชาชาติธุรกิจ

- เอกชน ชี้ ศบค. คลายมาตรการ ต.ค. เงินสะพัด ศก. ไทย 12,000 ล้าน

· อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

- "นายกฯ"สั่งเตรียมแผนป้องกัน "น้ำท่วม" พื้นที่ "กทม.-ปริมณฑล" แล้ว