• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 16 กันยายน 2564

    16 กันยายน 2564 | Gold News


ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุด 1,800 เหรียญ – นักลงทุนรอสัญญาณชัดเจนจาก “เฟด”


· ทองคำตลาดโลกปิด -0.6% ที่ 1,793.20 เหรียญ

· สัญญาทองคำ Gold Comex ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.7% ที่ 1,794.8 เหรียญ


· ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,800 เหรียญ ภาพรวมยังอยู่ในกรอบแคบจากความไม่แน่นอนว่าเฟดจะดำเนินการอย่างไรในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดอ่อนตัวลง โดยมีปัจจัยลบจาก

- แรงเทขายทางเทคนิค
- ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงฟื้น นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ

- นักลงทุนลดการถือครองสถานะ แม้ดอลลาร์จะทรงตัวแถว 92.546 เหรียญ และอัตราผลตอบแทนสหรัฐฯ 10 ปี ทรงตัวกรอบแคบระหว่าง 1.26% - 1.314% “รอความชัดเจนจากเฟดสัปดาห์หน้า”

- ดัชนีผลสำรวจภาคการผลิตประจำรัฐนิวยอร์ก (Empire State Manufacturing Index) ออกมาดีกว่าคาดแตะ 34.3 จุด เดือนก.ย. จากระดับ 18.3 จุดในเดือนก่อนหน้า


· กองทุนทองคำ SPDR กลับมาเทขายส่งท้ายเดือนอีก 1.75 ตัน ปัจจุบันลดการถือครองลงมาสู่ระดับ 998.46 ตัน



ส่งผลให้เดือนก.ย. นี้ขายออกแล้ว 1.8 ตัน และตั้งแต่ ม.ค. – 15 ก.ย. ขายทองแล้ว 172.28 ตัน


· ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้


- ดัชนีผลสำรวจภาคการผลิตจากเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย เดือนก.ค. ปรับตัวลดลงแตะ 19.4 จุด ทำต่ำสุดตั้งแต่ธ.ค. ปีที่แล้ว

- ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ เดือนส.ค. ออกมาแย่กว่าคาดแตะ 0.4% ขณะที่ข้อมูลเดือนก.ค. ถูกปรับทบทวนลดลงมาที่ 0.8%

อันเป็นผลจากผลกระทบของพายุเฮอริเคนไอดา และการขาดแคลนวัตถุดิบด้านการผลิตและแรงงาน รวมถึงการระบาดของ Covid-19 ที่ฉุดข้อมูลครั้งนี้

- ยอดนำเข้าสหรัฐฯออกมาแย่กว่าคาดเดือนส.ค. โดยปรับลงไป -0.3% ถือเป็นการร่วงลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน หลังเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. สะท้อนถึงหลักฐานภาวะเงินเฟ้อที่อาจเข้าสู่จุดพีคไปแล้ว


อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบรายปีจะพบว่ายอดนำเข้าขยายตัวได้เพียง 9% ในเดือนส.ค. จาก 10.3% ในเดือนก.ค. จึงถือว่าข้อมูลรายปีเดือนส.ค.เป็นการปรับตัวลดลงมากสุดตั้งแต่ต.ค. ปี 2020


· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า ข้อมูลการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กที่รายงานออกมาแกร่งกว่าคาดในเดือนก.ย. กดดันราคาทองคำช่วงต้นตลาด ควบคู่กับตลาดที่ยังมีท่าทีตอบรับมุมมองสมาชิกเฟดที่เป็นไปในเชิง Hawkish และความเชื่อมั่นในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง จึงส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเล็กน้อย


· ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ในทางเทคนิคหลังราคายังไม่สามารถฝ่าระดับเส้นค่าเฉลี่ย MV ราย 200 วันไปได้ ก็ดูจะยิ่งกดดันให้ราคาอ่อนตัวมา ในขณะที่ “ข่าวดีใดๆ” ก็ดูจะเป็น “ข่าวร้ายต่อราคาทองคำ” ทั้ง

- ข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆที่ออกมาในเชิงบวก

- เฟดมีท่าทีตั้งใจจะเริ่มต้นลดการเข้าซื้อสินทรัพย์

ทั้งหมดนี้ จึงยังกดดันและทำให้ทองคำเคลื่อนไหว Sideways ก่อนการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า (21-22 ก.ย.)


· นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank กล่าวว่า ความเสี่ยงขาลงในตลาดทองคำยังมีอยู่อย่าง “จำกัด” ตั้งแต่ที่ข้อมูลเงินเฟ้ออ่อนตัว ก็ดูจะทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเฟดจะสามารถเดินหน้าลด QE ต่อไปได้หรือไม่


· แพลทินัมปิดทำสูงสุดรอบเกือบ 9 เดือน ที่ระดับ 925.50 เหรียญ ก่อนจะปิด -0.1% ที่ 938.74 เหรียญ


· พลาเดียมปิด +1.5% ที่ 2,008.07 เหรียญ
ค่อนข้างเคลื่อนไหวได้อย่างทรงตัวหลังร่วงลงทำต่ำสุดรอบ 1 ปีไปเมื่อวันอังคาร


· นักวิเคราะห์จาก UBS มองว่า การขาดแคลนชิปฉุดกลุ่มการผลิตรถยนต์ จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ความต้องการพลาเดียม


· ซิลเวอร์ ปิด -0.2% ที่ 23.78 เหรียญ


· สมาชิกอีซีบี ระบุว่า นักลงทุนในตลาดต่างๆ อาจมีการประเมินมากเกินไปเกี่ยวกับผลกระทบของ Delta Covid-19 ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ท่ามกลางรัฐบาลและธนาคารกลางต่างๆ เริ่มจะมีการลดแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังเผชิญกับวิกฤตการระบาด ขณะที่อัตราดอกเลี้ยแท้จริง รวมทั้งดอกเบี้ยนโยบายถูกคาดว่าอาจปรับขึ้นได้ โดยเฉพาะนับตั้งแต่ที่ตลาดหุ้นมีการฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง


· “คุโรดะ” ชี้ “หากจำเป็น” บีโอเจจะเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อ รวมถึงเรื่องการลดดอกเบี้ย และบีโอเจจะรวม “ตราสารหนี้เขียว” (Green bonds) ในโครงการซื้อหุ้นกู้

พร้อมมีมุมมองเชิงบวกที่ดีขึ้นสำหรับ บริษัทญี่ปุ่นต่างๆ แม้จะเผชิญกับปัญหาด้านอุปทาน จากโรงงานต่างๆที่ปิดทำการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ บีโอเจคาดจะเห็นเงินเฟ้อทรงตัวมากขึ้น แต่อาจไม่แตะเป้าหมาย 2% ได้ก่อนปี 2023


· ข้อเสนอการขึ้นภาษีของ “ส.ส. เดโมแครต” อาจเป็นการดีกว่าสำหรับ SUPER RICH มากกว่าแผนของนายไบเดน จึงอาจส่งผลให้กลุ่ม Uber Rich ให้การสนับสนุนแผนกฎิรูปภาษีเพื่อรายได้ในการลงทุนของทีมบริหารไบเดน

ทั้งนี้ เดโมแครตมีการเรียกร้องขึ้นภาษี 39.6% สำหรับการพเมเงินทุนระยะยาวและการจ่ายปันผล เรียกว่าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 20%


· “สหรัฐฯ-ออสเตรเลีย-อังกฤษ” เปิดเผยข้อตกลงด้านความมั่นคงฉบับใหม่ ท่ามกลาง “จีน” ที่ขยายอิทธิพลและทางทหารมากขึ้น ขณะเดียวกันออสเตรเลียยังได้รับเทคโนโลยีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ อีกด้วย


· จีนเล็งเห็น “แนวคิดสงครามเย็น” จากสนธิสัญญาของ 3 ชาติ สหรัฐฯ, ออสเตรเลีย แลอังกฤษในครั้งนี้


· เกาหลีเหนือเปิดตัวทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ตัวใหม่ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ โดยล่าสุดเป็นการทดสอบขีปนาวุธโค้งพิสัยไกลแบบรางรถไฟ "Railway-borne missile system" (ยิงได้ไกล 800 กม. หรือ 497 ไมล์) สำหรับไว้ต่อสู้กับกองกำลังใดๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อชาติ


· ญี่ปุ่นประนามการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่ของเกาหลีเหนือที่ดำเนินการอย่างอุกอาจ ถือเป็น “ภัยคุกคาม” ต่อภูมิภาค


· เยอรมนี-ฝรั่งเศส แสดงความวิตกกังวลต่อแผน “Mali” สำหรับทหารรับจ้างชาวรัสเซียที่มีการทำข้อตกลงกับบริษัทรักษาความปลอดภัยของรัสเซียไปรับการจ้างวานในประเทศอัพฟานิสถาน


· COVID-19 UPDATES:



ยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกยังเพิ่มสูงขึ้นอีกเกือบ 550,000 รายวานนี้ โดยมีสหรัฐฯที่มียอดติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกอีกกว่า 155,164 ราย ด้านไทยรั้งอันดับ 10 ของโลก

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกล่าสุดแตะ 227.20 ล้านราย ขณะที่เสียชีวิตสะสมทั่วโลกเพิ่มขึ้นแตะ 4.67 ล้านราย


· Moderna เผย ภูมิคุ้มกันในวัคซีน Covid-19 มีแนวโน้มลดลง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดการฉีดวัคซีนเสริมภูมิ


· Pfizer ระบุว่า ข้อมูลของอิสราเอล สะท้อนถึง การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนสามารถช่วยเพิ่มภูมิป้องกันการติดเชื้อ Covid-19 ได้มากถึง 95% จึงเป็นหลักฐานที่ดีสำหรับการอนุมัติฉีดเพิ่มภูมิสำหรับ FDA


· เช้านี้รายงานพบติดเชื้อใหม่ในไทยเพิ่ม 13,897 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 188 ราย
รวมติดเชื้อสะสมในประเทศ 1.43 ล้านราย และเสียชีวิตสะสมในประเทศรวม 14,953 ราย


ทางด้านยอดฉีดวัคซีนไทยสะสมเกือบ 41 ล้านโดสแล้ว


· ทิศทางเงินบาทเช้านี้เปิด 32.86 บาท/ดอลลาร์ คาดบาทแกว่งกรอบ 32.80 – 32.95 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงินมองเงินบาทอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ท่ามกลางต่างชาติเทขายบอนด์ระยะสั้น 2 วันทะลุ 1.2 หมื่นล้าน

นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนประชุมเฟด 21 – 22 ก.ย.นี้


· อ้างอิงจากข่าวสด

- EIC ชี้ โควิดระลอก 3 ฟาดเศรษฐกิจไทยพัง 8.5 แสนล้าน ไทยพาณิชย์ หั่นจีดีพีปีนี้ เหลือแค่ 0.7%

เนื่องจากการระบาดระลอกนี้รุนแรงและยืดเยื้อ ประกอบกับมาตรการ Lockdown ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนรับผลกระทบหนัก อันจะเห็นได้จากดัชนีการบริโภคภาคเอกชนก.ค. หดตัวมากถึง 8.1%

อ่านต่อ: https://www.khaosod.co.th/economics/news_6621718


· อ้างอิงจากฐานเศรษฐกิจ

- เศรษฐกิจไทยถดถอย กับอัตราดอกเบี้ยตํ่า

ผศ.ดร.นิพิฐ วงศ์ปัญญา รองคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุถึง วิกฤติการแพร่ระบาดของโควิค-19 ในประเทศไทยยังไม่ดีขึ้น สะท้อนถึง การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก ก่อให้เกิดผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และอุปสงค์ในประเทศส่งผลให้เศรษฐกิจไทยถดถอยอย่างรุนแรง


· อ้างอิงจาก TNN24

- ภาคเอกชนประสานเสียงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐดึงต่างชาติมาไทยให้สิทธิพิเศษจูงใจเพิ่มการใช้จ่ายเติมเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ เพิ่มการจ้างงาน-ถ่ายทอดความรู้ให้กับคนไทย


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com