ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 2 โดยฟื้นตัวจากการปรับตัวลงก่อนหน้านี้ เนื่องจากผลผลิตในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ที่ลดลงตามความเสียหายจากพายุเฮอริเคนไอดาซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาด
ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.32% ที่ระดับ 72.83 เหรียญ/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.22% ที่ระดับ 69.45 เหรียญ/บาร์เรล
โดยประมาณ 77% ของการผลิตในอ่าวสหรัฐฯยังคงปิดตัวอยู่ หรือคิดเป็นประมาณ 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน และปริมาณน้ำมันดิบในตลาดลดลงราว 17.5 ล้านบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (EIA) คาดว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะปรับลดลง 200,000 บาร์เรล/วันในปีนี้ มาอยู่ที่ 11.08 ล้านบาร์เรล/วัน โดยระบุว่า เฮอริเคนไอดาน่าเป็นปัจจัยที่กดดันให้ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ที่คาดว่าจะลดลง 160,000 บาร์เรล/วัน
ข้อมูลสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) แสดงให้เห็นว่า สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯลดลง 6.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ย. ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล
ข้อมูลสต็อกน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯร่วงลง 3.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์เดียวกัน
รวมทั้ง เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากกลุ่มผู้ประท้วงในลิเบียได้ปิดการส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือ Es Sider และ Ras Lanuf อย่างไรก็ตาม หน่วยผลิตน้ำมันยังคงดำเนินการได้เป็นปกติ และไม่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงดังกล่าว