สมาชิกเฟดส่วนใหญ่ มอง “Tapering QE อาจเกิดขึ้นได้ในปีนี้” แม้จะเห็นจ้างงานเดือนส.ค. ชะลอตัวลง อันเป็นผลจาก Delta Covid-19
· “เจมส์ บุลลาร์ด” ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ระบุว่า โอกาสทำ Tapering QE ควรเริ่มต้นปีนี้
และไม่กังวลถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานในเดือนส.ค. ที่มีการจ้างงานน้อยสุดในรอบ 7 ดือน เนื่องจากมองว่า ตลาดแรงงานยัง “แกร่ง” อย่างมาก ไปจนถึงปีหน้าได้ โดยเฉพาะหากสถานการณ์ระบาดของไวรัสพลิกฟื้นกลับมา
· “โรเบิร์ต เคพแลนด์” สมาชิกเฟดสาขาดัลลัส ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ แต่ยังหนุนทำ Tapering QE
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯปีนี้ คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้เหลือเพียง 6% (เดิมคาด 6.5%) แต่ยังคงมุมมองการสนับสนุนทำ Tapering QE ให้เริ่มต้น ต.ค. ตราบเท่าที่แนวโน้มทางเศรษฐกิจไม่เห็นปัจจัยใดๆ เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ปีหน้าคาดเศรษฐกิจขยายตัวได้ 3% และคาดเห็นเงินเฟ้ออยู่แถว 2.6%
· “จอห์น วิลเลียม” ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า การตัดสินใจทำ Tapering QE ไม่ถือเป็นตัวกำหนดการปรับขึ้นดอกเบี้ยตามมา
สำหรับการตัดสินใจเรื่องการดำเนินการของเฟด ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และจะชะลอการทำ Tapering QE อย่างไร น่าจะแตกต่างกับวาระการประชุมเพื่อตัดสินใจว่าเมื่อไรที่จะเริ่มต้นดำเนินการขึ้นดอกเบี้ย และยังมองว่าเฟดจะเริ่มดำเนินการ Tapering QE ได้อย่างเหมาะสมสำหรับปีนี้ กรณีที่เศรษฐกิจยังมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
· สมาชิกเฟด จะทำการหารือกันในการประชุมจากนี้อีก 2 สัปดาห์ โดยมีกำหนดการ 21 – 22 ก.ย. นี้
· ดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อย จาก “เฟดนิวยอร์ก” มีท่าที Dovish เล็กน้อยก่อนประชุมอีซีบี
ดอลลาร์อ่อนค่าจากสมาชิกเฟดสาขานิวยอร์กที่ดูจะเสนอให้ติดตามแนวโน้มทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ก่อนหน้าการตัดสินใจประชุมอีซีบีที่จะเกิดขึ้นในวันนี้
ทำให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อคืนนี้ปิด +0.14% ที่ระดับ 92.66 จุด หลังจากที่ช่วงต้นตลาดไปทำสูงสุดที่ 92.86 จุด ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่ 27 ส.ค.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับลงไป 1.33% หลังจากช่วงต้นตลาดทะยานไปถึง 1.38%
อย่างไรก็ดี ข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงขึ้นดูจะเป็นปัจจัยที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน และทำให้สมาชิกเฟดบางรายต้องการเล็งเห็น “ความคืบหน้าอย่างยั่งยืนในกลุ่ม จ้างงาน ก่อนตัดสินใจดำเนินการลดการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ที่มา: Reuters, CNBC