• บาทแข็งทดสอบ ฿33.00 – ไทยติดเชื้อทำ New High – พิษเศรษฐกิจยังแรง

    12 สิงหาคม 2564 | Economic News
  


 บาทแข็งทดสอบ ฿33.00 – ไทยติดเชื้อทำ New High – พิษเศรษฐกิจยังแรง

 

 

สถานการณ์ระบาดของยอดติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศไทย

 



อัตราการฉีดวัคซีนของประเทศ

ไทยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว 21.7 ล้านโดส กทม.อันดับ 1 ฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 73.1%

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ฉีดแล้ว 21,717,954 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,517 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 191.06 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 73.1%


ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 64 ถึง 12 ส.ค. 64 พบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 22,782 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อสะสมไปแล้ว 810,908 ราย

สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่รายงานวันนี้ สามารถสรุปจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. - 10 ส.ค. 2564 รวม 21,717,954 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 16,701,428 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด)

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 4,692,030 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์)

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 324,496 ราย

 

·         ศบค. เผยฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ติดโควิดได้ แต่อัตราตายต่ำ

 

·         ล่าสุด สหรัฐ ประกาศทุ่มงบ 1,800 ล้านช่วยไทยรับมือโควิด เตรียมส่งวัคซีนเพิ่ม 1 ล้านโดส

นางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ แถลงเมื่อวันอังคาร (10 ส.ค.) ว่ารัฐบาลสหรัฐจะมอบความช่วยเหลือมูลค่า 55 ล้านดอลลาร์ (1,840 ล้านบาท) แก่ประเทศไทยและหน่วยงานด้านมนุษยธรรม เพื่อรับมือต่อโรคโควิด-19

ความช่วยเหลือดังกล่าว แบ่งเป็นเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 50 ล้านดอลลาร์ (1,673 ล้านบาท) ที่จะมอบให้ภาคีองค์การระหว่างประเทศและองค์กรนอกภาครัฐ (เอ็นจีโอ) โดยตรง เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ลี้ภัยรัฐประหารมาจากเมียนมา

ส่วนความช่วยเหลืออีก 5 ล้านดอลลาร์ (167 ล้านบาท) จะเป็นการสนับสนุนบุคลากรสาธารณสุขที่ให้บริการฉีดวัคซีนให้ประชาชน และเสริมสร้างระบบสาธารณสุขของไทยในการป้องกัน ตรวจหา และตอบสนองต่อโรคโควิด-19

 

·         อ้างอิงจาก สยามรัฐ

'หมอมนูญเตือน! 100 วันอันตราย ผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตจาก 'เดลต้าพุ่งสูงต่อเนื่อง พร้อมชี้ LOCKDOWN ก็เอาไม่อยู่!

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย โพสต์ผ่านเพจ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุว่า...

100 วันข้างหน้าจะเป็น 100 วันอันตราย จำนวนคนติดเชื้อและเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในประเทศไทย จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ต่อให้เรามีมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นแค่ไหน อยู่บ้าน ก็ไม่สามารถหยุดเชื้อได้ บ้านกลับเป็นแหล่งระบาดที่สำคัญที่สุด (ดูรูป) จึงควรผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางอย่างได้บ้าง ก่อนที่เศรษฐกิจจะเสียหายมากไปกว่านี้ ใน 100 วันข้างหน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แท้จริงของประเทศไทยอาจเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคน หมายถึงคนไทยครึ่งประเทศจะติดเชื้อ และจะมีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 3 หมื่นคน

ปัญหาสำคัญเรากำลังประสบขณะนี้ คือการขาดแคลนวัคซีนอย่างหนัก
อ่านต่อ
https://siamrath.co.th/n/270638

 

 

·         อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
- ‘หุ้นส่งออก’ ปรับตัวขึ้น สวนทางตลาดขาลง

หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และพึ่งพาส่งออกสวนทางหุ้นไทยดิ่ง รับอานิสงส์ค่าบาทอ่อนค่ารอบ 3 ปี หลังเงินเฟ้อสหรัฐปรับขึ้นรวดเร็ว หวั่นขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ชี้ค่าเงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าอีกครั้งช่วงปลายปี 2564

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า เงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอาหารและกลุ่มที่พึ่งพาการส่งออก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 195.61 จุด หรือ 2.47% ส่วนกลุ่มอาหารเพิ่มขึ้น 107.27 จุด หรือ 0.78% จากวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ค่าเงินอยู่ที่ 31.18 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลง 78.40 จุด หรือ 4.84%

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน)ระบุว่า เงินบาทที่อ่อนค่ามาจากเงินเฟ้อของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด จากเดิมปี 2568 เป็น 2566 โดยคาดว่า เงินบาทจะเริ่มกลับมาแข็งค่าอีกครั้งในช่วงปลายปี 2564 จากการเปิดประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้

จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า กลุ่มหุ้นที่คาดว่าได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จากรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออกต่างประเทศ

นอกจากนี้ กลุ่มอาหารที่มีรายได้ส่วนใหญ่จากต่างประเทศกลุ่มเกษตรที่มีรายได้ส่วนใหญ่จากต่างประเทศ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ได้ผลกระทบเชิงบวกจากค่าเงินบาทอ่อน เนื่องจากมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก

 ขณะที่หุ้นที่คาดว่าได้รับผลกระทบเชิงลบ คือ กลุ่มสายการบินที่มีโครงสร้างต้นทุนเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐกลุ่มพลังงานกลุ่มโรงไฟฟ้า ที่มีเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกลุ่มอื่นๆ ที่มีต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น

 

·         อ้างอิงจาก สำนักข่าวช่อง 7

หวั่นล็อกดาวน์ยาว เศรษฐกิจเสียหายทะลุ ล้านล้านบาท

ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย ประเมินหากรัฐบาลขยายระยะเวลาล็อกดาวน์ไปถึงเดือนกันยายนนี้ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะทะลุเกิน 1 ล้านล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชนต่างๆ ระบุมาตรการเยียวยาของรัฐบาลดีแล้ว แต่ยังไม่พอหากโควิด-19 แพร่ระบาดยืดเยื้อ

 

·         อ้างอิงจาก โพสต์ทูเดย์

ล็อคดาวน์กค.ปี64 ทรุดดัชนีเศรษฐกิจ จากรายได้หด-จ้างงานลดต่อเนื่องเทียบช่วง เม.ย.ปี63

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่มีการระบาดในเดือนเม.ย.จนต่ำกว่าปีก่อนในช่วงเดือนเม.ย. 2563 ที่มีการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลง ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ จำนวนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับสูงกดดันให้ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) ปรับลงต่อเนื่องจนอยู่ที่ 34.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าช่วงเดือนเม.ย. 63 ที่มีการล็อกดาวน์ทั่วประเทศที่ 35.1 ขณะที่ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนใน 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงเช่นกันอยู่ที่ 36.6 จาก 38.9

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการล็อกดาวน์ใน 10 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงพบว่า 64.2 % ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ (64.2%) มีรายได้จากการจ้างงานลดลง

อ่านต่อ: https://www.posttoday.com/economy/news/660217

 

·         อ้างอิงจาก The Standard

เศรษฐกิจทรุดจากพิษโควิด ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นแทบทุกตัวทุบสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค หรือ Consumer Confidence Index (CCI) ในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยพบว่าดัชนีปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40.9 จาก 43.1 ในเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ดัชนีแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 22 ปี 10 เดือน นับตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจในเดือนตุลาคม 2541 เป็นต้นมา

ขณะเดียวกันยังพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 35.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมลดลงอยู่ที่ระดับ 38.0 จุด และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตลดลงอยู่ที่ระดับ 49.6 จุด โดยดัชนีเกือบทุกรายการปรับลดลงเมื่อเทียบกับในเดือนมิถุนายน 2564 และแตะระดับต่ำสุดนับตั้งเริ่มทำการสำรวจมาเช่นกัน

ผลสำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมในเดือนกรกฎาคมของกระทรวงพาณิชย์ ที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 36.7 เทียบกับระดับ 42.7 ในเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการปรับตัวลดลงทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต

โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวลดลงจากระดับ 34.4 มาอยู่ที่ระดับ 29.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตปรับลดลงจากระดับ 48.1 มาอยู่ที่ระดับ 41.3

ในมุมนักลงทุน ผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน’ (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ประจำเดือนกรกฎาคม 2564 ของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย พบว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 64.37 จุด ปรับตัวลดลง 39.3% จากเกณฑ์ทรงตัวเดือนก่อน มาอยู่ในเกณฑ์ ซบเซา’ ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน

ปัจจัยลบที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด คือ การระบาดของโควิดทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น แต่หลายประเทศยังโชคดีที่สามารถฉีดวัคซีนได้มากแล้ว ขณะที่ประเทศไทยยังคงกระจายฉีดวัคซีนได้ไม่มากนัก ซึ่งยังไม่เห็นแนวโน้มที่รัฐบาลจะสามารถควบคุมการระบาดได้ จึงยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ และเพิ่มจังหวัดควบคุมเข้มข้นหรือสีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัด ทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจมีมากขึ้น ส่วนปัจจัยบวกที่คาดหวังคือ การเร่งฉีดวัคซีนให้กับคนในประเทศ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นเร็วที่สุด และนโยบายของภาครัฐ

อ่านต่อ: https://thestandard.co/confidence-index-record-low-stats/

 

·         อ้างอิงจาก กรุงเทพธุรกิจ

- 'ทีดีอาร์ไอ'มองปี 64 เศรษฐกิจยังโตได้ 0.5 -1% อานิงค์ ส่งออก - เบิกจ่ายเงินกู้ฯ

"ทีดีอาร์ไอ" คาดเศรษฐกิจปีนี้ยังขยายตัว จับตาไตรมาส 3 -4 รับผลกระทบจากล็อกดาวน์ แต่ประเมินทั้งปียังบวกได้ 0.5-1% จากการส่งออก และมีเงินกู้ที่รัฐจะใช้อีกประมาณ 4แสนล้านบาทยังช่วยผลักให้เศรษฐกิจยังพอขยายตัวได้ แนะเฝ้าระวังการระบาดในภาคการผลิต

ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้ยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นอย่างมากจากระยะเวลาการระบาดที่รุนแรงและกินระยะเวลานานหลายเดือนทำให้มีหลายสำนักคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะไม่ขยายตัวหรือติดลบอีก 1 ปีซึ่งเป็นที่มาของความกังวลในเรื่องภาวะ "เศรษฐกิจถดถอย"

 

·         อ้างอิงจาก สำนักข่าวไทยรัฐ

รองโฆษกรัฐบาล เผย เงินลงทุนรัฐวิสาหกิจ ช่วยพยุงเศรษฐกิจ ครึ่งปีแรก แสนล้าน

รองโฆษกรัฐบาล เผย เงินลงทุนรัฐวิสาหกิจตามเป้า ช่วยพยุงเศรษฐกิจ ครึ่งปีแรก 1 แสนล้านบาท จากธุรกิจพลังงาน ยัน นายกฯ ให้ความสำคัญลงทุนของรัฐวิสาหกิจ เข้าใจดีโควิด-19 ส่งผลกระทบหลายโครงการ

 

·         อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์

- อาเซียนเผยแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ แผนงานด้านเศรษฐกิจมีความคืบหน้

เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) ติดตามผลการทำงาน เผยมีความคืบหน้า ทั้งแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 การปฏิบัติตามแผนงานด้านเศรษฐกิจ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมเร่งรัดให้สมาชิกผลักดันความตกลง RCEP ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เตรียมรายงานรัฐมนตรีพิจารณาเดือน ก.ย.นี้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com