• วุฒิสภาสหรัฐฯ เปิดลงมติงบร่างโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ

    10 สิงหาคม 2564 | Economic News
  

วุฒิสภาสหรัฐฯ เปิดลงมติงบร่างโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ


ในค่ำคืนนี้เวลาประมาณ 22.00น. (ตามเวลาไทย) เป็นช่วงเวลาที่วุฒิสภาสหรัฐฯกำหนดการลงมติโหวตร่างโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยงบประมาณ 1 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนที่เสนอโดย นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ


และจากนั้นจะตามมาด้วยการเริ่มต้นหารือถึงร่างโครงสร้างพื้นฐานฉบับวงเงินรวม 3.5 ล้านล้านเหรียญ


นายชัค ชูมเมอร์ส ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานนี้ถึงการใช้เวลานานนับสัปดาห์สำหรับการหาข้อสรุปของร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานที่ผู้แทนทั้งสองพรรคประนีประนอมกันได้ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในคืนนี้ ซึ่งถูกคาดว่าจะเห็นการโหวตผ่าน


สำหรับส.ว.สหรัฐฯ ถูกคาดว่าจะเริ่มโหวตหารือร่างโครงสร้างพื้นฐานวงเงินมหาศาลต่อ เพื่อให้เป็นตัวบทกฎหมาย ที่ถือเป็น "เป้าหมายหลัก" ของทางพรรคเดโมแครต

รายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าวถุกเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ว่าจมีการเตรียมออกกฎหมายด้านภาษีสำหรับการผลิต "ให้ชัดเจน" รวมทั้งการศึกษาในวิทยาลัยชุมชนฟรีเป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อเตรียมปูทางสำหรับการเป็นพลเมืองนับล้านรายของกลุ่มผู้อพยพ แผนงบประมาณข้างต้น ยังคงรวมถึงงบประมาณการช่วยเหลือโปรแกรมด้านสังคมต่างๆครั้งใหม่ ประกอบด้วย สวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ


ขณะที่ร่างกฎหมายชุดแรกจำนวน 2,702 หน้า ได้โหวตผ่านไปแล้วที่รวมวงเงินก้อนใหม่ 5.5 แสนล้านเหรียญสำหรับค่าใช้จ่ายด้านถนน, สะพาน และการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต


อำนาจของรัฐสภา


ผู้ทรงคุณวุฒิแห่งวุฒิสภาจะทำการพิจารณาแผนโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีเป้าหมายมากถึง 3.5 ล้านล้านเหรียญ ว่าแผนนี้จะขัดแย้งกับกฎกติกาของทางวุฒิสภาหรือไม่

อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับสมบูรณ์ก็อาจได้รับการลงมติจากส.ว.ในสภาฯ จึงอาจหักล้างการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการผู้ทรงคุณวุฒิได้


ความหลากหลายของร่างงบประมาณฉบับนี้ จะประกอบด้วย
งบประมาณ 7.26 แสนล้านเหรียญ - การศึกษาชั้นอนุบาลสำหรับเด็กวัย 3-4 ปี รวมถึงการศึกษาสำหรับวิทยาชุมชนฟรี
งบประมาณ 3.32 แสนล้านเหรียญ - สำหรับภาคที่อยู่อาศัย
งบประมาณ 1.98 แสนล้านเหรียญ - สำหรับพลังงานสะอาด


พรรคเดโมแครต ระบุว่า แผนงบประมาณที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 3.5 ล้านล้านเหรียญ จะเป็นการจ่ายงบประมาณฉบับเต็ม ที่รวมถึงนโยบายการขึ้นภาษี, สวัสดิการด้านสุขภาพ และโครงการสำหรับเศรษฐกิจระยะยาว


ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ค่อนข้างเสียงแตก และมีความไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าวเพราะอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯได้


ดังนั้น แผนงบประมาณฉบับเต็ม "อาจไม่รวมนโยบายการขึ้นภาษี สำหรับผู้มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 400,000 ต่อปี" ซึ่งแผนนี้ดูจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนรายได้สูง ควบคู่กับความเข้มงวดทางด้านการจ่ายภาษีกับ "กรมสรรพากร" และมันจะช่วยให้ "บรรเทา" แก่ผู้ยื่นภาษีที่ต้องเผชิญกับการหักภาษีของรัฐและท้องถิ่นที่เข้มงวดขึ้นโดยกฎหมายภาษีที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันในปี 2560


นอกจากนี้ แผนดังกล่าว อาจมีการขยายมาตรการรอบใหม่สำหรับการคืนภาษีเด็ก ที่อาจตอบโจทย์กับผู้ต้องการนโยบายถาวร และอาจช่วยบรรเทาผลการยื่นภาษีของกลุ่มผู้ยื่นขอคืนภาษีที่ต้องโดนหักภาษีของภาครัฐและท้องถิ่นที่มีความเข้มงวดมากขึ้น อันเป็นผลจากร่างกฎหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากรีพับลิกันเมื่อปี 2017


ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจน ว่าเดโมแครตจะสามารถหาความคืบหน้าได้มากขึ้น หรือแม้แต่ความสามารถในการ "จำกัดระดับหนี้สินที่เพิ่มขึ้น" อันเป็นผลจากการใช้คำสั่ง Reconciliation ในการผ่านร่างกฎหมายโดยปราศจากเสียงสนับสนุนของรีพับลิกัน ทางด้าน "นายมิทช์ แมคคอนเนล" ผู้นำเสียข้างน้อยของวุฒิสภาสหรัฐฯ ย้ำเตือนว่า จะไม่ร่วมโหวต การเพิ่มการจำกัดเพดานหนี้


นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีการเรียกร้องต่อสภาคองเกรสอีกครั้ง ในการ "เร่ง" ผ่านร่างสนับสนุนกฎหมายที่ได้รับการประนีประนอมร่วมกันจากทั้ง 2 พรรค


หากร่าง 1 ล้านล้านเหรียญสามารถผ่านมติจากวุฒิสภาได้ตามคาด ก็จะส่งเรื่องต่อไปยัง "สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ" ทำการลงมติต่อ และอาจเห็นความคืบหน้ของเรื่องนี้อีกครั้งในช่วง "ปลายเดือนก.ย." หลังช่วงวันหยุดฤดูร้อนของสภาคองเกรส


ที่มา: Reuters


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com