• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 9 กรกฎาคม 2564

    9 กรกฎาคม 2564 | Gold News




ทองอ่อนตัว แต่ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์จากกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ราคาทองคำปรับตัวลดลง อันเป็นผลจาก
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นมาจากต่ำสุดวานนี้




- กองทุนทองคำ SPDR ขายทองออก 0.29 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,040.19 ตัน




ขายทองต่อเนื่อง 5 วันในรอบเดือนนี้ รวมขายสุทธิ 5.59 ตัน

ภาพรวมตั้งแต่ม.ค. ถึง ปัจจุบัน กองทุน SPDR อยู่ในสถานะขายสุทธิ 130.55 ตัน


· ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.2% ที่ 1,799.18 เหรียญ

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด -0.1% ที่ 1,800.20 เหรียญ


· แม้ทองคำจะปิดปรับตัวลง แต่ก็เป็นการปรับลงอย่างจำกัด เนื่องจากตลาดยังมีปัจจัยบวกจาก

- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นเกินคาดสะท้อนภาคแรงงานชะลอตัว


รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯออกมาเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้วแตะ 373,000 ราย ขณะที่ในสัปดาห์ก่อนปรับทบทวนเพิ่มมาอีก 7,000 ราย สู่ระดับ 371,000 ราย


- ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.3% ปิดที่ 92.493 จุด หลังระหว่างวันทำแข็งค่ามากสุดที่ 92.844 จุด ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 5 เม.ย. โดยการอ่อนตัวมาจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวตลาดแรงงาน


· การอ่อนตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ทำต่ำสุดรอบกว่า 4 เดือนวานนี้ หนุนให้ทองคำไปทำสูงสุดตั้งแต่ 17 มิ.ย. บริเวณ 1,818.10 เหรียญ และทำให้ภาพใหญ่วานนี้เคลื่อนไหวใกล้สูงสุดรอบ 3 สัปดาห์


· หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจาก Blue Line Futures กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นจากต่ำสุด และตลาดหุ้นที่ลดการปรับลงก็ดูจะเป็นปัจจัย “กดดันทองคำ” แต่แรงหนุนทองคำในฐานะ Safe-Have โดยเฉพาะ 

- ความกังวลในตลาดแรงงานสหรัฐฯ
- ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของ Delta Covid-19
ทั้งหมดนี้ ยังเป็น “ปัจจัยบวก” ต่อราคาทองคำอยู่


· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะต้องสะท้อนถึงความคืบหน้าให้ได้อย่างยั่งยืนก่อน เฟดจึงจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย และข้อมูลแรงงานล่าสุดก็ยังคงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนทองคำ ขณะที่รายงานประชุมเดือนมิ.ย. สะท้อนถึงความหลากหลายของสมาชิกเฟดต่อเงื่อนไขในการที่เฟดจะตัดสินใจลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ แต่ก็มีบางส่วนที่สะท้อนมุมมองการดำเนินการที่เร็วกว่าที่เฟดเคยคาดไว้


· เดือนมิ.ย. ทองคำดิ่งลงไปกว่า -7% จากท่าทีเฟดเซอร์ไพร์สตลาดแบบ “คุมเข้มทางการเงิน”


· แพลทินัมปิด -0.8% ที่ 1,076.71 เหรียญ


· พลาเดียมปิด -1.6% ที่ 2,806.95 เหรียญ


· BofA Global Research คาดการณ์ว่า อุปสงค์แพลทินัมจะเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ ในบทบาทของการสนับสนุนเศรษฐกิจแบบไฮโดรเจน ดังนั้น จึงอาจเห็นราคาสินทรัพย์สองชนิดปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะอุปสรรคของกลุ่มยานยนต์


· ซิลเวอร์ปิด -0.8% ที่ 25.92 เหรียญ


· Reuters Polls คาด เฟดจะประกาศกลยุทธ์ปรับลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ในช่วงเดือนส.ค. หรือ ก.ย.

ขณะเดียวกัน คาดการณ์โดยส่วนใหญ่ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การปรับลดครั้งแรกน่าจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นปีหน้า และบางส่วนคาดว่าอาจเห็นการปรับลดการเข้าซื้อ QE ครั้งแรกในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้


· “ไบเดน” หาวิธีหนุนการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมรถไฟ และการขนส่งทางทะเล พร้อมปราบปรามการแอนตี้การแข่งขันและค่าธรรมเนียมที่ไม่เป็นธรรม

รวมทั้งความพยายามลดค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้บริโภค โดยวันนี้คาดว่านายไบเดนจะทำการลงนามคำสั่งฉุกเฉินเพื่อสนับสนุนการแข่งขันทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ


· จีนส่งสัญญาณผ่อนปรนนโยบายการเงินมากขึ้น จากการกลับมากังวลเกี่ยวกับการอ่อนตัวทางเศรษฐกิจ


· ธนาคารกลางจีน ค่อนข้างวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโลก โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก Digital Currency


· อีซีบีกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่ที่ 2% ในการประชุมปรับทบทวนนโยบายครั้งใหม่


· ไอเอ็มเอฟคาดซาอุดิอาระเบียจะขยายตัวได้ 2.4% ในปีนี้ ท่ามกลางเม็ดเงินจากกลุ่มนอกน้ำมันที่รีบาวน์ขึ้น โดยโตได้ราว 4.3%


· หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก BP คาดวิกฤตพลังงานดูจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก พอๆกับ Covid-19


· CORONAVIRUS UPDATES:



การระบาดของสายพันธุ์ Delta ทั่วโลกทำให้ยอดติดเชื้อใหม่เพิ่มกว่า 466,828 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะลุ 186 ล้านรายแล้ววานนี้ ขณะที่เสียชีวิตทั่วโลกสะสมที่ 4.02 ล้านราย


· OECD ชี้ การระบาดของ Covid-19 ส่งผลให้ทั่วโลกว่างงานสูงกว่า 22 ล้านตำแหน่ง


· Pfizer ยื่นขอองค์การอาหารและยา (FDA) อนุมัติการบูสวัคซีนเข็มที่ 3 จากสถานการณ์ Delta ที่กำลังระบาดเพิ่มขึ้น


· CDC ของสหรัฐฯ เผย ยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯกำลังเพิ่มสูงขึ้นราว 93% ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน และไม่น้อยกว่า 40% เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน


· กรุงโซลของเกาหลีใต้วิกฤต ประกาศเพิ่มการยกระดับคุมเข้ม ท่ามกลางยอดติดเชื้อใหม่ที่ทะลุสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไม่น้อยกว่าหลักพัน 2 วันต่อเนื่อง


· Olympics จะสั่งห้ามผู้เข้าชมการแข่งขันกีฬา หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่ม


· ติดเชื้อไทยใกล้แตะ 10,000 คน เหตุจากสายพันธุ์เดลต้า




ขณะที่ยอดติดเชื้อใหม่วันนี้เพิ่มหนักกว่า 9,276 ราย เสียชีวิตสูง 72 ราย จึงยิ่งตอกย้ำถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยรวมของประเทศไทยนั้นยังคงวิกฤติ และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ยอดติดเชื้อในไทยสะสม 317,596 ราย
เสียชีวิตในไทยสะสม 2,534 ราย


· บาทอ่อนหนักทดสอบ 32.50 บาท/ดอลลาร์


นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.40 - 32.55 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องจับ ตาดูช่วงนี้เป็นเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีความผันผวน


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซืไทย

- นายกฯนัดถกด่วนเคาะล็อกดาวน์ ศก.ทรุด-หุ้นผวาหนัก!

นายกฯนัด ศบค.ชุดใหญ่ หารือด่วน 9 ก.ค.นี้ อนุมัติยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-ล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยงและพื้นที่กันชนอย่างน้อย 14 วัน เล็งจำกัดการเดินทาง ปิดสถานที่เสี่ยงทุกแห่ง ด้านศูนย์วิจัยมองเป็นปัจจัยเสี่ยงฉุดศก.ปีนี้โตต่ำกว่า 1% ขณะที่โบรกฯมองหากล็อกดาวน์เข้มงวดทั่วประเทศทุบหุ้นไทยลดลงได้ 4-6% จีดีพีมีโอกาสติบลบ 2 ปีซ้อน ด้านตลาดหุ้นไทยวานนี้(8 ก.ค.)ดัชนีดิ่งรับข่าวล็อกดาวน์ 32.93 จุด


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอมาตรการทางสังคมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่กันชนให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-9 (ศบค.) พิจารณา โดจะมีการจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด การห้ามออก เคหะสถาน และปิดสถานที่เสี่ยงทั้งหมดเพื่องดการทำกิจกรรมร่วมกัน ยกเว้นตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงเน้น Work From Home เป็นเวลา 14 วัน

- สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ระบุหากมีการประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศเหมือนในปีก่อน อาจทำให้การบริโภคจะชอลอตัวอย่างชัดเจน แต่เชื่อว่าคงไม่ถึงขั้นทำให้เศรษฐกิจกลับไปติดลบ โดยคาดว่าจะเติบโตต่ำกว่า 1% จากคาดการณ์ที่ 1.3%เนื่องจากปีนี้การส่งออกฟื้นกลับมาเติบโตได้มาก และการใช้จ่ายของภาครัฐที่เข้ามาหนุนการใช้จ่ายภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง

- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน มิ.ย.64 ปรับตัวลดลงมาที่ 43.1 จากระดับ44.7 ซึ่งลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 272 เดือนหรือ 22 ปี 8 เดือนนับตั้งแต่ทำการสำรวจในเดือน ต.ค.41 เป็นต้นมา


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com