MTS Help Center

และคาดการณ์ว่า ข้อมูลอัตราว่างานจะออกมาลดลงจาก 5.8% สู่ระดับ 5.6%

สำหรับค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง ถูกคาดว่าจะปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. แต่ภาพรายปีคาดว่าจะเห็นค่าแรงเพิ่มขึ้นได้ราว 3.6% หลังจากที่ขยายตัวขึ้น 1.9% ในเดือนพ.ค.

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Amherst Pierpoint แสดงความคิดเห็นว่า ข้อมูลจ้างงานเดือนมิ.ย. จะถูกจำกัดจากปัญหาด้านอุปทานแรงงานอย่างมาก แม้ว่าปัญหาต่างๆจะยังไม่คลี่คลาย แต่ก็จะเห็นปัญหาเหล่านี้เริ่มลดน้อยลง จึงไม่น่าเห็นการจ้างงานขยายตัวได้เท่ากับที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดหวังไว้

หนึ่งสิ่งที่ยังน่าเป็นกังวลคือ การที่ไวรัสยังคงระบาดอยู่ แม้จะมีการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อาจต้องรอจนถึงเดือน “ก.ย.” ที่เด็กๆสามารถกลับเข้าเรียนได้ ก่อนที่จะเห็นการจ้างงานกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี การระงับการช่วยเหลือสวัสดิการว่างงาน 300 เหรียญ/สัปดาห์ ของภาครัฐ ก่อนที่จะหมดอายุในเดือนก.ย. “ถือเป็นสัญญาณหนุนตลาดแรงงาน”

ขณะที่ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ล่าสุดปรับตัวลดลงมาที่ 364,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นต่ำสุดตั้งแต่มี.ค. ปี 2020

การจ้างงานช่วงฤดูร้อนเพิ่มสูงขึ้น

บรรดานักเศรษฐศาสตร์จาก Citigroup คาดหวังจะเห็นจ้างงานเดือนมิ.ย. ขยายตัวได้มากถึง 860,000 ตำแหน่ง ซึ่งหากข้อมูลแกร่งจริง ก็จะอาจส่งผลกระทบต่อคาดการณ์เกี่ยวกับเฟด เนื่องจาก บรรดาสมาชิกเฟดดูจะให้ความสำคัญกับ “ความแข็งแกร่งด้านอุปสงค์ในตลาดแรงงาน” และมีความกังวลเพียงเล็กน้อยในเรื่องผลของการจ้างงานอันเนื่องจากความขาดแคลนในอุปทานแรงงาน

ดังนั้น ตลาดอาจตอบรับครั้งใหญ่ หากข้อมูลออกมาดีขึ้นเกินคาดอย่างน่าประหลาดใจ และอาจนำไปสู่ คาดการณ์เกี่ยวกับเฟดจะเริ่มลดการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วมากขึ้น โดยการลดการเข้าซื้อพันธบัตร หรือโรครงการ QE

นอกจากนี้ อาจนำไปสู่การส่งสัญญาณต่อไปของเฟดเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย และการยุติ QE ได้

ข้อมูลจ้างงานเดือนมิ.ย. อาจดีขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบพ.ค.

ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ LaSalle Network คาดว่า การจ้างงานของประเทศจะเพิ่มมากขึ้นในเดือนมิ.ย. พร้อมกับการเห็นแนวโน้มตลาดแรงงานฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ที่มา: CNBC