MTS Help Center

​น้ำมันเพิ่มขึ้น จากสต็อกน้ำมันลดลง - อุปสงค์ฟื้นตัว

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โดยภาพรวมรายเดือนและรายไตรมาสปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯหดตัวลง รวมทั้งรายงานของ OPEC ที่คาดการณ์ว่าตลาดจะมีอุปทานไม่เพียงพอในปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.4% ที่ระดับ 75.04 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 17 เซนตื หรือคิดเป็น 74.45 เหรียญ/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.3% ที่ระดับ 73.21 เหรียญ/บาร์เรล

โดยน้ำมันดิบทั้งสองชนิดยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี 2018 และปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา

ผลสำรวจจาก Reuters สะท้อนคาดกาณณ์ว่า ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบ Brent ในปีนี้จะอยู่ที่ 67.48 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI จะมีค่าเฉลี่ยของปีอยู่แถว 64.54 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับขึ้นจากผลสำรวจเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

นักลงทุนจับตาผลการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในวันนี้

OPEC+ มีการกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตต่อวันที่ระดับ 2.1 ล้านบาร์เรล เข้าสู่ตลาดตั้งแต่ช่วง พ.ค. - ก.ค. ซึ่งเป็นแผนการทยอยเพิ่มการปรับขึ้นกำลังการผลิตภายใต้ข้อตกลงการควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมัน

ความหวังสำหรับการฟื้นตัวของราคาได้รับแรงหนุนจากนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก ซึ่งกล่าวเมื่อวันอังคารโดยคาดว่า อุปสงค์จะเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และปริมาณอุปสงค์ 5 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงครึ่งหลังของปี

Goldman Sachs คาดการณ์ว่า ปริมาณอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นอีก 2.2 ล้านบาร์เรล/วันภายในสิ้นปีนี้ จะทำให้อุปทานในตลาดขาดแคลน 5 ล้านบาร์เรล/วัน