MTS Help Center

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways วานนี้ โดยมีปัจจัยยื้อยุดกันระหว่าง
- ความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการระบาดมากขึ้นของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ Delta
- กระแสคาดการณ์ที่เฟดจะทำการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด

ทั้งนี้ ตลาดยังมีแรงหนุนจากสภาวะความต้องการลงทุนใน “สินทรัพย์ปลอดภัย” ท่ามกลางสภาวะที่ไม่แน่นอน แต่ขณะเดียวกันก็มีการลดความต้องการทองคำจากความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิดทรงตัวบริเวณ 1,779.7 เหรียญ

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด +0.2% ที่ระดับ 0.2% ที่ระดับ 1,780.70 เหรียญ

 

·         กองทุนทองคำ SPDR กลับมาเป็นผู้ซื้ออีกครั้ง โดยวานนี้เข้าซื้อ 2.91 ตัน ปัจจุบันเพิ่มการถือครองมาที่ 1,045.78 ตัน

ภาพรวมเดือนมิ.ย. มีสถานะซื้อสุทธิ จำนวน 2.57 ตัน ถือเป็นเดือนที่มีการถือครองเพิ่มต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน

ขณะที่ภาพรายปีตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน กองทุน SPDR อยู่ในสถานะขายสุทธิ เป็นจำนวน 124.96 ตัน

 

·         ภาพรวมราคาทองคำปรับตัวลงรายวันมากที่สุดรอบ 5 เดือน จากการที่เฟดส่งสัญญาณคุมเข้มทางการเงินมากขึ้นเมื่อ 16 มิ.ย.  

 

·         ปัจจัยที่จำกัดทองคำในเวลานี้ คือ “การปรับขึ้นของดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ที่ทำ Record Highs ต่อเนื่อง”

  

·         ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการระบาดของสายพันธุ์ Delta ดูจะช่วยเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะ Safe-Haven กลับสู่ตลาดทองคำอีกครั้ง แม้จะไม่มีสัญญาณการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดยังมองความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดการเข้าซื้อพันธบัตร  และนี่ถือเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนแดนลบต่อราคาทอง

 

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทองคำยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,800 เหรียญ

 

·         บรรดานักลงทุนกำลังจับตาและให้ความสำคัญกับข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯในคืนวันศุกร์นี้

  

·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities มองความเป็นไปได้ที่จะเห็นข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ และน่าจะเป็นปัจจัย “ลบ” ต่อราคาทองคำ

 

ดังนั้น ทองคำอาจกลับลงทดสอบขาล่างบริเวณ 1,730 เหรียญอีกครั้ง และมีโอกาสเปิดประตูสู่รูปแบบกราฟแบบ CTA (Commodity Trading Advisor) ในลักษณะของการ “เทขาย”

 

·         สัญญาทองคำในตลาด TFEX ทั้ง Gold Futures และ Gold Online Futures จะหมดอายุลงในวันนี้

 

·         “Polyus” บริษัทเหมืองทองรายใหญ่ในรัสเซีย มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตทองในปี 2022 จากปัจจุบันที่ชะลอตัวลงเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤต Covid-19

ทั้งนี้ บริษัท Polyus คาดหวังว่าจะเห็นการผลิตทองคำเพิ่มขึ้นในปีหน้าหลังจากที่เผชิญการดิ่งลงของภาคการผลิต ขณะที่กลยุทธ์ระยะสั้นๆ ของบรัทคือการปรับเพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่ค่าใช้จ่ายยังคงระดับเดิม

นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายทางด้านการผลิตดูจะทรงตัวในปีหน้าที่ 425 – 450 เหรียญ/ออนซ์ สำหรับทองคำ ซึ่งถือเป็นราคาด้านการผลิตที่ต่ำสุดทั่วโลก และอาจเห็นราคาปรับลงไปถึง 400 เหรียญ/ออนซ์ได้ในปี 2023

ภาพรวมแนวโน้มราคาทองคำจากกราฟรายวัน สะท้อนว่าเคลื่อนไหวในกรอบ “สะสมพลัง” และตราบเท่าที่ราคาทองคำยังทรงตัวเหนือระดับดังกล่าวก็อาจเห็นราคากลับขึ้นมาได้ และก้าวพ้นออกจากแดนลบ ทำให้ขณะนี้คาดทองคำมีโอกาสปรับขึ้นได้และจะเป็นบวกต่อราคาหุ้นของบริษัท

·         สัญญาซิลเวอร์ปิด +0.1% ที่ 26.09 เหรียญ

·         สัญญาแพลทินัมปิด -1.4% ที่ 1,095.70 เหรียญ

·         สัญญาพลาเดียมปิด +1.6% ที่ 2,676.92 เหรียญ

 

·         OCBC คาด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี มีแรงหนุนพอทะยานเหนือ 1.5% และมีโอกาสขึ้นได้ต่อ

·         "นายแรนดัล ควอเลส" รองประธานเฟดด้านการกำกับดูแลภาคธนาคาร ไม่แน่ใจต่อการสร้าง Digital Dollar โดยยังคงมีข้อสงสัยในการจัดตั้งค่าเงินดิจิทัลสำหรับธนาคารกลาง

 

·         “นายจอห์น วิลเลียม” ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการเร่งสร้างค่าเงินดิจิทัล

ทั้งนี้ เขายังเห็นถึงความสำคัญอีกหลายประการที่ต้องได้รับการแก้ไขในเรื่องข้อกำหนด ท่ามกลางเทคโนโลยีการชำระเงินที่มีความก้าวหน้า และทำให้หน่วยงานต่างๆรวมถึงธนาคารหลายแห่งพิจารณาที่จะออกค่าเงินดิจิทัลของตนเอง

ดังนั้น กลุ่มผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะควบคุมเทคโนโลยีอย่างไรให้สามารถทำงานควบคู่กันได้ระหว่างเงินดิจิทัลและกระแสเงินสดของจริง

 

·         “นายโธมัส บาร์กิน” ประธานเฟดาสาขาริชมอนด์ เล็งเห็น สหรัฐฯมีความ “คืบหน้าอย่างยั่งยืนมากขึ้น” ต่อเป้าหมายเงินเฟ้อ จึงเห็นควรเริ่มลดการเข้าซื้อสินทรัพย์

ขณะที่จำนวนการจ้างงานมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นตามมา ทำให้มองมุมมองเชิงบวกต่อตลาดแรงงาน

 

·         หลังทดสอบ Fed Stress Tests - Morgan Stanley มีการจ่ายเงินปันผลเพิ่มเป็น 2 เท่า เช่นเดียวกับธนาคารส่วนใหญ่ ที่ได้รับ Green Light จากเฟด

 

·         “อัล-เอเรียน” ระบุว่า หัวหน้าที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ Allianz ชี้ว่า เฟดปะรเมินเงินเฟ้อต่ำเกินไป จึงเสี่ยงที่อาจเห็นเศรษฐกิจเข้าสู่สภาวะถดถอยอีกครั้ง

 

·         ส.ว.รีพับลิกัน พร้อมเจรจาต่อเพื่อผลักดันแผนโครงสร้างพื้นฐาน แม้จะถูก “ไบเดน” ขู่ใช้สิทธิ VETO  เพื่อดันแผนโครงสร้างพื้นฐานให้ผ่านสภา

 

·         “แมคคอนเนล” สร้างแรงกดดันเพิ่มต่อ “ไบเดน” และ “พรรคเดโมแครต” เกี่ยวกับแผนโครงสร้างพื้นฐาน โดยย้ำให้ “ยกเลิก” การเชื่อแผนงบประมาณ 1.2 ล้านล้านเหรียญในการทำข้อตกลง แต่จะมีการใช้แนวทางโหวตแบบ Reconciliation ที่ปราศจากเสียงค้านจากรีพับลิกัน  

 

·         ผู้อำนวยการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งดำเนินการเรื่องการจัดตั้งงบประมาณสำหรับการผลิตชิปภายในเดือนส.ค.

 

·         CNBC เผย บรรดานักวิเคราะห์ คาดพฤติกรรม “แข็งกร้าว” ของจีน กำลังเป็นเรื่องอันตรายที่ถูกพูดถึงบนเวทีโลก  พร้อมกล่าวเตือนถึงความเป็น “อันตรายครั้งใหญ่” ที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะในเรื่อง “ทางทหาร”

 

·         รายงาน Beige Book ของจีน เผยผลสำรวจล่าสุด ส่งสัญญาณที่ควรเฝ้าระวังในกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจจีนที่ไม่สดใสจากข้อมูลเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังพบว่าผลสำรวจบริษัทต่างๆในสหรัฐฯ แม้จีนจะออกมาตรการกู้ยืมแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แต่คาดการณ์เกี่ยวกับความต้องการสินเชื่อช่วงครึ่งปีหลังยังคงลดน้อยลง

อย่างไรก็ดี ความกังวลอีกกรณี คือ จำนวนร้านค้าปลีกที่ได้รับการปล่อยสินเชื่อก็อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

·         ไบเดน ย้ำแก่ อิสราเอลว่า จะไม่มีอาวุธินิวเคลียร์ในอิหร่านจากการเฝ้าจับตาของเขา

·         บรรดานักวิเคราะห์ มอง การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ โดยคำสั่งของนายไบเดน เป็นการส่งสารที่ชัดเจน ท่ามกลางการเจรจาฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน “แต่ไม่มีแนวโน้มจะเป็นอุปสรรคสำหรับการเจรจา”

·         กองทัพสหรัฐฯในซีเรียถูกโจมตี หลังเหตุการณ์โจมตีทางอากาศใส่กลุ่มนักรบที่อิหร่านหนุนหลัง