· หุ้นเอเชียปิดลบช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ ด้วยท่าทีระมัดระวังของตลาดจากยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น
หุ้นเอเชียเปิดสัปดาห์แดนลบ และนักลงทุนซื้อขายด้วยท่าทีระมัดระวัง นำโดย หุ้นจีนที่ค่อนข้างทรงตัว ขณะที่ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนากระจายทั่วทุกภูมิภาคและดูจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน สำหรับราคาน้ำมันดิบทรงตัวใกล้สูงสุดรอบ 2 ปีครึ่ง
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นล่าสุดอ่อนตัวลงมาปิดที่ 702.57 จุด
ดัชนี S&P ASX200 ปรับลง 0.2%
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ทรงตัว เช่นเดียวกับดัชนี Nikkei
กลุ่มนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดมากขึ้นของยอดติดเชื้อใมห่ในแถบเอเชีย ท่ามกลางประชากรส่วนใหญ่ในซิดนีย์ที่เผชิญกับภาวะ Lockdown อีกครั้ง จาก “คลัสเตอร์ใหม่” ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของสายพันธุ์ Delta Covid-19
อินโดนีเซีย เผชิญยอดติดเชื้อใหม่สูงสุดประวัติการณ์ ขณะที่การ Lockdown ในมาเลเซียขยายเวลาออกไป สำหรับประเทศไทยก็มีการประกาศมาตรการเข้มงวดมากขึ้นในกรุงเทพและปริมณฑล
· ดัชนี Nikkei ปิดทรงตัวท่ามกลางนักลงทุนที่มีท่าทีระมั้ดระวังต่อข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ดัชนี Nikkei ปิดทรงตัว ที่ 28,084.02 จุด
ดัชนี Topix ปิด +0.15% ที่ 1,965.67 จุด
ดัชนี Topix Growth Index ปิด -0.05%
ดัชนี Topix Value Index ปิด -0.35%
· หุ้น Blue-Chip จีน ปรับขึ้นตามหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี – ท่ามกลางนักลงทุนหวังจะเห็นนโยบายสนับสนุนต่อไป
ดัชนี CSI300 ปิด +0.1% ที่ 5,246.82 จุด
ดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.1% ที่ 3,605.58 จุด ถูกกดดันจากการปรับลงของหุ้นบริษัทการเงิน
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เผย ข้อมูลผลกำไรในบริษัทอุตสาหกรรมจีนที่ปรับขึ้นมา 36.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังชะลอตัวกว่าเดือนเม.ย. ที่ขยายตัวได้มากถึง 57%
· หุ้นมาเลเซีย - ไทย ร่วงลงกว่า 1% จากมาตรการควบคุมจำกัดการระบาดของไวรัสที่กำลังเพิ่มมากขึ้นในประเทศ
หุ้นมาเลเซียร่วงลงกว่า 1.2% ทำต่ำสุดตั้งแต่ 10 พ.ย. ปี 2020 หลังจากที่ นาย มุฮ์ยิดดิน ยัซซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวเมื่อวานนี้ในการขยายเวลา Lockdown ที่จะสิ้นสุดในวันจันทร์นี้ โดยต่อเวลาออกไปจนกว่ายอดติดเชื้อรายวันในประเทศจะต่ำกว่า 4,000 ราย
หุ้นไทยซึมปิดร่วงลงต่อเนื่อง 8 วันทำการ และวันนี้ดิ่งลงกว่า 1.1% ทำต่ำสุดรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าต่อ 0.3%
เมื่อวานนี้ คณะรัฐบาลไทยประกาศมาตรการ Lockdown ใหม่ตั้งแต่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ตลอดจนปริมณฑล ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดในประเทศที่ “เลวร้าย”
· หุ้นอินเดียปิดร่วงจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่บดบังแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเภสัชกรรม – นักลงทุนมีสัญญาณความเชื่อมั่นอย่างระมัดระวัง จึงปราศจากแรงกกระตุ้นในตลาดเอเชีย
ดัชนี NSE Nifty 50 ปิด -0.15% ที่ 15,836.30 จุด
ดัชนี S&P BSE Sensex ปิด -0.21% ที่ 52,814.25 จุด
· หุ้นยุโรปปิดผสมผสาน จากยอดติดเชื้อ Covid-19 กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก
หุ้นยุโรปเปิดค่อนข้างเงียบเหงาจากความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ค่อนข้างผสมผสานกัน และนักลงทุนทั่วโลกจับตาสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก
ดัชนี Stoxx600 เปิดทรงตัวในช่วงต้นตลาด
หุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวและการโรงแรมเปิด -1.4%
หุ้นกลุ่มยาปรับขึ้น 0.4%
ภาพรวมตลาดหุ้นยุโรปเปิดสัปดาห์ค่อนข้างเงียบเหงา ขณะที่หุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสานหลังทราบข้อมูลผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือนพ.ค. ที่ออกมาชะลอตัว
· ดัชนีฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ดัชนี S&P500 ทำระดับรายสัปดาห์ดีที่สุดนับตั้งแต่ก.พ. และทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ดัชนี S&P 500 เคลื่อไหวค่อนข้างทรงตัว
ดัชนี Dow Jones Industrial เพิ่มขึ้น 14 จุด
ดัชนี Nasdaq 100 futures ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย
· อ้างอิงจากสำนักข่าวไทย
- ธปท. คาดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลา และอาจจะต้องรอถึงไตรมาส 1/2566 กว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ในระดับก่อนเกิดการระบาดของโควิด เนื่องจากการระบาดของโควิดในหลายระลอก ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ทั้งการจำกัดการเคลื่อนที่ การงดเดินทาง การเว้นระยะห่าง ลดการรวมตัว เป็นต้น ถือเป็นมาตรการที่ส่งผลกระทบอย่างมากกับภาคการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
-ค่าเงินบาทวันนี้ (28 มิ.ย.) อ่อนค่าที่ 31.82 บาท บทวิเคราะห์ล่าสุด
โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนตลาด ได้แก่ การที่ประเทศไทยประกาศปิดเมืองบางส่วนใน 10 จังหวัดเป็นเวลา 30 วัน
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อตามค่าใช้จ่ายของสหรัฐเพิ่มขึ้นมาที่ 3.9%YoY ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากราคาพลังงาน นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ประเมินเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียงชั่วคราวด้านรัฐบาลออสเตรเลียประกาศปิดเมือง
ทั้งนี้ ปัจจัยติดตาม ได้แก่ ยอดค้าปลีกญี่ปุ่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน ดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐ ดุลบัญชีเดินสะพัดไทย ที่จะประกาศในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ประชุมโอเปก ในวันที่ 1 ก.ค. และการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ในวันที่ 2 ก.ค.
- กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือกับ กระทรวงแรงงาน เตรียมฉีดวัคซีนให้แรงงานอุตสาหกรรมในวันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยคาดว่าภายใน ส.ค. จะสามารถฉีดครอบคลุมได้ 50% ของนิคมฯ ทั้งประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการผลิตอุตสาหกรรมสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่องและก้าวผ่านวิกฤตโควิดครั้งนี้ไปได้
- สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพ.ค. 64 อยู่ที่ระดับ 100.47 เพิ่มขึ้น 25.84% ทั้งอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก เคมีภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ และบรรจุภัณฑ์กระดาษ เป็นผลมาจากยอดคำสั่งซื้อ-ส่งออกต่างประเทศฟื้นตัวขึ้น
· อ้างอิงจากสำนักข่าวบ้านเมือง
- แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จะดำเนินการส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิดให้กับรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้จะเริ่มส่งออกวัคซีนไปยังประเทศต่างๆ ในต้นเดือนก.ค. โดย 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตวัคซีนภายในประเทศได้ถูกสำรองไว้เพื่อผลิตวัคซีนให้กับประเทศไทย ตามคำสั่งซื้อรวม 61 ล้านโดส ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของวัคซีนจำนวน 180 ล้านโดสที่ผลิตโดยสยามไบโอไซแอนซ์ ส่วนกำลังการผลิตที่เหลืออีกประมาณ 2 ใน 3 จะจัดสรรให้กับการผลิตวัคซีนเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มา: CNBC, Reuters