• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2564

    10 มิถุนายน 2564 | Gold News


ทองคำแกว่งตัวในกรอบ ตลาดรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ

ทองคำเคลื่อนไหวกรอบแคบ รอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้ ที่จะเป็นนัยยะสำคัญต่อแนวทางการดำเนินนโยบายของเฟด

·         ราคาทองคำตลาดโลกปรับลงเพียง 0.1% ปิดบริเวณ 1,891.05 เหรียญ

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด +0.1% ที่ระดับ 1,895.50 เหรียญ

 

 

·         SPDR GOLD HOLDINGS:


กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้กลับเข้าซื้อทองคำมากถึง 5.83 ตัน ปัจจุบันเพิ่มการถือครองมาที่ระดับ 1,043.16 ตัน

 

ภาพรวมกองทุน SPDR ตั้งแต่ 1 มิ.ย. - ปัจจุบัน มีสถานะขายสุทธิ จำนวน 0.05 ตัน

ภาพรวมรายปี ตั้งแต่ม.ค. – ปัจจุบัน SPDR อยู่ในสถานะขายสุทธิเช่นเดียวกัน จำนวน 127.58 ตัน

 

·         ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ปัจจัยต่างๆยังคงเป็นบวกต่อราคาทองคำ ท่ามกลางเฟดที่ยังคงมีแนวคิดเกี่ยวกับการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ ณ ปัจจุบันมีการขยายตัวเพียงชั่วคราว และมีแนวโน้มที่จะเห็นเฟดคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปในเวลานี้

 

ทั้งนี้ สภาวะ Knee-jerk ในตลาดทองคำอาจเกิดขึ้นได้ หากการปรับขึ้นของเงินเฟ้อนั้น “ร้อนแรงกว่าที่คาดการณ์” แต่เฟดก็น่าจะยังคงมุมมองว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อนั้นเป็นเพียง “ชั่วคราว” เท่านั้น


 

·         เทรดเดอร์จะจับตาข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อย่างใกล้ชิดในคืนนี้ เวลา 19.30น. เพราะอาจมีสัญญาณบ่งชี้ใดๆเกี่ยวกับการเห็นเฟดเริ่มต้นลดการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินฉบับพิเศษ

 

·         นักลงทุนในตลาดเองก็ยังรอคอย การประชุมอีซีบี ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันด้วยเช่นกัน

 

·         นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco ระบุว่า หนึ่งในปัจจัยที่เฟดมองว่าเงินเฟ้อมีการปรับขึ้นเพียงชั่วคราว เป็นผลมาจากการที่เฟดพิจารณาจากข้อมูลในอดีต และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเวลานี้ยังไม่ได้มีสัญญาณบ่งชี้เพิ่มถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ  ขณะที่ราคาวัตถุดิบต่างๆปรับตัวสูงขึ้น เป็นสัญญาณสะท้อนถึงแนวโน้มเงินเฟ้อ ถือเป็น “ปัจจัยบวกต่อราคาทองค


·         ทองคำมักถูกใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจากการอัดฉีดเม็ดเงินขนานใหญ่ของธนาคารกลางต่างๆ รวมถึงรัฐบาลทั่วโลก

 

·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า ราคาทองคำมีการปรับขึ้นอย่างผันผวน ก่อนที่จะอ่อนตัวลงในระยะสั้น ท่ามกลางแรงเก็งกำไรที่ชะลอตัวลง ขณะที่ความต้องการทองคำในอินเดียและอุปสงค์ในจีนอ่อนตัวลง จากการต่อสู้กับสถานการณ์ Covid-19 ในเวลานี้

 

·         ซิลเวอร์ปิด +0.8ที่ 27.86 เหรียญ

 

·         พลาเดียมปิด -1.2ที่ 2,773.94 เหรียญ

 

·         แพลทินัมปิด -1.2ที่ 1,148.07 เหรียญ

 

·         ความร้อนแรงของเงินเฟ้ออาจพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนพ.ค. และอาจเห็นการทำสูงสุดรอบ 28 ปี

- บรรดานักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า ข้อมูล Core Consumer Inflation หรือข้อมูลที่ไม่รวมด้านอาหารและพลังงานจะปรับตัวขึ้นแตะ 3.5% ทำสูงสุดตั้งแต่ปี 1993

- นักวิเคราะห์คาด ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่จะประกาศในช่วง 19.30น. วันนี้ ถูกคาดว่าจะปรับขึ้นได้สูงถึง 4.7% ปรับขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008

ขณะที่ Moody’s Analytics คาดอาจเห็นการปรับขึ้นของเงินเฟ้อไปมากถึง 4.9%

- กลุ่มนักลงทุนจับตาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเงินเฟ้อจะร้อนแรงเกินไปจนส่งผลกับเฟดหรือไม่

 

·         CNBC เผยมุมมองคาดการณ์เฟดอาจ “ล้มเหลว” ในการควบคุมเงินเฟ้ออย่างในปี 1970

 


 ·         ปริมาณ Reverse Repo ของเฟดพุ่งแตะสูงสุดประวัติการณ์กว่าครึ่งล้านล้านเหรียญ

การดำเนินการขายคืนพันธบัตร (Reverse Repo) ของเฟด พบว่า มีกระแสเงินสดเพิ่มมากถึง 5.03 แสนล้านเหรียญ ทำสูงสุดประวัติการณ์ต่อเนื่อง 3 วันทำการ

 

·         สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯผลักดันแผนโครงสร้างพื้นฐาน แต่เลี่ยงการขึ้นภาษี

ท่ามกลางสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ไม่สบายใจต่อแนวทางดังกล่าวเกี่ยวกับกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานที่อาจล้มเหลวได้ จากแผนงบประมาณที่ไบเดนตั้งไว้ที่ 1.7 ล้านล้านเหรียญ ที่ข้อเสนอดังกล่าวดูจะเป็นปัญหาในการลงคะแนนในสภาคองเกรส เนื่องด้วยคะแนนเสียงในสภาของพรรคเดโมแครตดูจะสูสีกับพรรคคู่แข่ง

อย่างไรก็ดี นายมิทท์ รอมนีย์ ส.ว.พรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ทางพรรคของเขาบรรลุข้อสรุปขั้นต้นแล้วเกี่ยวกับแนวทางของพวกเขา แต่ก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งแผนโครงสร้างพื้นฐานจากรีพับลิกันอาจมีวงเงินสูงเกือบ 9 แสนล้านเหรียญ

 

·         ส.ว.สหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายที่เป็นการคุกคามเทคโนโลยีจีน

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้มีงบสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีและการค้นคว้าสูงถึง 1.9 แสนล้านเหรียญ แบ่งเป็น
งบ 5.4 หมื่นล้านเหรียญ - สำหรับการผลิตและการศึกษาด้านเซมิคอนดัคเตอร์ส, อุปกรณ์การสื่อสาร
งบ 2 หมื่นล้านเหรียญ – สำหรับชิปที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ และเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่สง่ผลให้เกิดการลดกำลังการผลิตในประเทศ

ขณะที่ รัฐสภาจีนแสดงความไม่พอใจอย่างมาก และแสดงการต่อต้านร่างดังกล่าวอย่างรุนแรง พร้อมระบุในแถลงการณ์ว่า การกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯแสดงให้เห็นถึงความหวาดระแวง และต้องการเป็นผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว จึงบิดเบือนความตั้งใจด้านการพัฒนานวัตกรรมและการแข่งขันดั้งเดิม

 

·         นักวิเคราะห์ ประเมิน แผนการเพิ่มภาษีของ “ไบเดน” จะมีมูลค่า 213,000 เหรียญในปีหน้า หรือเพิ่มขึ้นได้ราว 1 

 

·         เดโมแครตเตรียมผลักดันกฎหมายต่อต้านการผูกขาด อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริษัท Apple, Amazon, Facebook และ Google


 

·         ไบเดนเริ่มต้นเดินทางเยือนยุโรป และเป็นการเตือนต่อ “รัสเซีย” เกี่ยวกับความแข็งแกร่งด้านสัมพันธ์กับนาโต้ ซึ่งรัสเซียอาจเผชิญกับความแข็งแกร่งที่มีนัยยะสำคัญ หากยังเดินหน้าดำเนินกิจกรรมใดๆที่เป็นอันตราย

 

·         ไบเดน-จอห์นสัน” เห็นพ้องข้อตกลงฉบับใหม่ “Atlantic Charter” ที่ครอบคลุมด้านการค้าการเดินทาง และเทคโนโลยีระหว่าง ประเทศ ก่อนร่วมประชุม G7 ที่จะเริ่มต้นในวันนี้

 

·         Reuters เผย สหรัฐฯ - อังกฤษ ถูกคาดว่าจะสามารถตกลงกันได้เรื่องแผนการเปิดประเทศ


 

·         หอการค้าสหรัฐฯ เรียกร้องให้ สหรัฐฯ และอียู เร่งแก้ไขการยุติภาษีระหว่างกัน รวมถึงการปรับแผนด้านการคุ้มครอง


 

·         อียูกำลังจัดแผนยุติการต่อสู้ด้านภาษีกับสหรัฐฯ ท่ามกลางไบเดนเดินทางเยือนในสัปดาห์หน้า เพื่อฟื้นคืนความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งให้กลับมาอีกครั้ง

 

·         ภาคโรงงานอุตสาหกรรมจีนแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่กำลังเผชิญกับช่องว่างที่มากที่สุดระหว่างราคาการผลิตและราคาขายสินค้า ที่ระดับ 7.7สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2017


·         น้ำมันดิบปิดทรงตัวจากการเดินทางช่วงฤดูร้อนในสหรัฐฯที่อ่อนแอ กดดันแนวโน้มอุปสงค์สหรัฐฯ

 

น้ำมันดิบ WTI ปิด  -0.1% ที่ 69.96 เหรียญ/บาร์เรล หลังระหว่างวันทำสูงสุดตั้งแต่ 17 ต.ค. ปี 2018

น้ำมันดิบ Brent ปิด ทรงตัวที่ 72.22 เหรียญ/บาร์เรล หลังระหว่างวันทำสูงสุดตั้งแต่ 20 พ.ค. ปี 2019 ที่ระดับ 72.83 เหรียญ/บาร์เรล

 

·         CORONAVIRUS UPDATES:

ยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 408,289 ราย รวมสะสมทะลุ 175.15 ล้านราย

ยอดเสียชีวิตใหม่ทั่วโลกอยู่ในแนวโน้มปรับตัวลง แม้ล่าสุดจะเห็นยอดเสียชีวิตรายวันใหม่เพิ่มจากวันก่อนมาที่13,487 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 3.77 ราย


 

ยอดโควิดในไทยวานนี้ พบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,680 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 35 คน หายป่วยเพิ่ม 4,253 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 156,365 ราย

 

·         CDC เผย ทีมบริหารสหรัฐฯฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนแล้ว 304.8 ล้านโดส


·         สหรัฐฯอยู่ระหว่างหารือกับ “โมเดอร์นา” ในการเข้าซื้อวัคซีน Covid-19 เพิ่มขึ้นสำหรับประเทศอื่นๆ เพื่อสนับสนุนด้านอุปทานวัคซีนทั่วโลก


·         นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10 - 31.25 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ตลาดรอการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯเดือนพ.ค.ในคืนนี้ ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มสูง ก็มีโอกาสที่ดอลลาร์จะแข็งค่าได้ในช่วงสั้นๆ

 

ทั้งนี้ คาดว่าจะไม่ส่งผลให้เฟดต้องเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ไวขึ้น เพราะมองว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯที่สูงขึ้นนั้นเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว


·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- รมว.คลัง แจงพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของไวรัสโคโรนาเพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาทต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ปี 64 มีข้อจำกัดจากผลกระทบการระบาดของโรคโควิด และหากรอแหล่งเงินจากงบประมาณปี 65 จะไม่ทันต่อการแก้ปัญหาการระบาดในรอบใหม่นี้

- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 64 ขยายตัวในกรอบ 0.5-2.0% ขณะที่คาดว่าส่งออกไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 5-7% และอัตราเงินเฟ้อ อยู่ในกรอบ 1-1.2%

 ·         อ้างอิงจากสำนักข่าวมติชนออนไลน์

- ธนาคารโลกคาดว่า ไทยจะขยายตัวในปีนี้เพียง 2.2% และคาดว่าจะฟื้นตัวกลับสู่สภาวะเดิมได้ในปี 2022 ด้วยการขยายตัวสูงถึง 5.1% เพราะการฟื้นกลับมาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com