MTS Help Center

ราคาทองคำรีบาวน์จากต่ำสุดรอบกว่า 2 สัปดาห์ในวันศุกร์ หลังจากที่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐออกมาแย่กว่าที่คาด ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วออกมาปรับลงมากกว่าที่คาดไว้นับตั้งแต่เดือนมี.ค.

·         ทองคำตลาดโลกปิด +1% ที่ 1,889.27 เหรียญ
ช่วงต้นตลาดปรับตัวลดลงไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 19 พ.ค. บริเวณ 1,855.59 เหรียญ

·         สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกปรับลงราว 0.7%

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด +1% ที่ 1,892 เหรียญ 

 

·         SPDR GOLD HOLDINGS:

 

กองทุนทองคำ SPDR กลับมาเข้าซื้อทองคำเพิ่ม 1.41 ตัน ปัจจุบันเพิ่มการถือครองมาที่ 1,043.16 ตัน

ภาพรวมเดือนมิ.ย. มีสถานะขายสุทธิ 0.05 ตัน  ขณะที่ภาพรวมตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน มีสถานะขายสุทธิแล้ว 127.58 ตัน

 

·         นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นปานกลาง หลังจากที่ข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด แม้จะออกมาแย่กว่าเพียงเล็กน้อยแต่ก็ดูเหมือนตัวเลขนี้ไม่สามรถทำให้ตลาดทองคำเปลี่ยนเทรนขาขึ้นได้ และการรีบาวน์ของทองคำยังคงตอกย้ำภาพขาขึ้นในกราฟรายวันของตลาดทองคำ และหนุนภาพขาขึ้นของทองคำอยู่

 

·         การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

- การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯออกมาเพิ่มขึ้นประมาณ  559,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว หลังจากที่คาดการณ์ว่าจะออกมาขยายตัวได้ถึง 650,000 ตำแหน่ง  แต่ข้อมูลเดือนเม.ย. ปรับทบทวนขึ้นมาที่ 278,000 ตำแหน่ง

- อัตราว่างงานเดือนพ.ค. ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์แตะ 5.8%

- ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง ออกมาดีขึ้นเกินคาดที่ 0.5% แต่น้อยกว่าเดือนเม.ย.ที่อยู่ที่ 0.7%

- ยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย.ออกมาแย่กว่าคาดแตะ -0.6% จากเดือนก่อนที่ระดับ 1.4%

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับลงมาแตะ 1.56% ทางด้านดอลลาร์อ่อนค่าลงปิด -0.38% ที่ 90.135 จุด ตลาดผิดหวังข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯขยายตัวได้น้อยกว่าคาดการณ์ ลดโอกาสหนุนเฟดคุมเข้มทางการเงินเร็วกว่าที่คาดการณ์

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.31% ที่ 1.21650 ดอลลาร์/ยูโร  ขณะที่เงินเยนอ่อนค่า 0.71% ปรับขึ้นมา 109.505 เยน/ดอลลาร์

 

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่อหลังทะลุ 6.4 หยวน/ดอลลาณ์ ท่ามกลางธนาคารกลางจีนที่พยายามจำกัดการแข็งค่าของหยวนที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์

 

·         CPM Group มองทองคำยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อตามกระแสเงินเฟ้อปรับขึ้น ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ถึงแม้จะแข็งแกร่ง แต่ในยุโรปและจีนก็ขยายตัวได้ดีเช่นกัน

 

ดังนั้น เชื่อว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,855 – 1,920 เหรียญ

 

·         ซิลเวอร์ปิด +1% ที่ 27.73 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด - 0.1% ที่ระดับ 2,837.54 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด +0.5% ที่ระดับ  1,162.83 เหรียญ

 

·         นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ข้อมูลจ้างงานของสหรัฐฯออกมาน่าผิดหวังเพียงเล็กน้อย แต่ก็สะท้อนว่า จะเป็นตัวแปรที่ “ไม่ทำให้เฟดเร่งหารือเรื่องการลด QE วงเงิน 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ” และข่าวร้ายเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจ ก็จะกลายเป็น “ข่าวดี” ในการทีเฟดใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป จึงอาจกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าได้

 

·         Reuters Poll  เผยผลสำรวจนักกลยุทธ์ส่วนใหญ่ในตลาดค่าเงิน มองทิศทางดอลลาร์ระยะสั้นๆแตกต่างกันไปในช่วง 2 เดือนจากนี้เกี่ยวกับการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งพวกเขากำลังรอความชัดเจนจากบรรดาสมาชิกเฟดเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายก่อน

 

·         Cryptocurrency ร่วงต่อหลัง “อีลอน มัสก์” CEO จาก Tesla ทวิตเตอร์ข้อความ “เสียใจกับการต้องเลิกกับ Bitcoin”

Bitcoin ปรับลง -5.3% ที่ 37,155.27 เหรียญ
Ether ปรับลง -4.2% ที่ 2,697.43 เหรียญ

·         ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ จะทำการส่งร่างกฎหมายหนุน Bitcoin เพื่อให้เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย

 

·         รายงานจาก China Central Depository & Clearing Co และ Shanghai Clearing House เผย “ต่างชาติมีการถือครองพันธบัตรจีนมากขึ้นเป็นประวัติการณ์” ในเดือนพ.ค. จากหยวนแข็งค่า ล่าสุดแตะ 3.68 ล้านล้านหยวน (5.75 แสนล้านเหรียญ)

 

·         ไบเดนย้ำถึง “ความก้าวหน้าครั้งประวัติศาสตร์” แม้จะเห็นรายงานจ้างงานปรับขึ้นได้น้อยกว่าคาด

 

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึง “ความคืบหน้าครั้งประวัติศาสตร์” จากการลดลงของอัตราว่างงาน และการเพิ่มขึ้นของค่าแรง ขณะที่การจ้างงานในคืนวันศุกร์ขยายตัวได้ 559,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว โดยทีมบริหารของเขายังคงมีวามมั่นใจต่อการขยายตัว แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์บางส่วนจะมีความวิตกกังวลถึงเรื่องตลาดแรงงานสหรัฐฯ

 

·         ไบเดน “ปฏิเสธ” ข้อเสนอแผนโครงสร้างพื้นฐานฉบับใหม่ของรีพับลิกัน แต่จะยังเจรจาต่อกับนางแคปิโต ส.ว.รีพับลิกันใหม่อีกครั้งในวันนี้

ขณะที่ทางทำเนียบขาวกำลังพิจารณาว่าควรยกเลิกความหวังจะเห็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองฝ่ายหรือไม่

การเจรจาในวันศุกร์ที่ผ่านมา ส.ว.รีพับลิกันมีการเสนอเพิ่มงบประมาณกรอบค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานอรก 5 หมื่นล้านเหรียญ ทำให้แผนของรีพับลิกันอยู่ที่ระดับ 9.28 แสนล้านเหรียญ

แต่แผนของ “ไบเดน” ตั้งข้อเสนอไว้ที่ 1.7 ล้านล้านเหรียญ

 

·         ส.ส. เดโมแครตสหรัฐฯ เสนอแผนการขนส่งทางบกมูลค่า 5.47 แสนล้านเหรียญ

 

·         รายงาน Bloomberg เผย “เจเน็ต เยลเลน” รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ชี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจเป็นปัจจัย “บวก” สำหรับเฟด

 

ท่ามกลางแผนค่าใช้จ่ายของนายไบเดนกว่า 4 ล้านล้านเหรียญ ที่อาจเป็นผลดีต่อสหรัฐฯ ดังนั้น หากเงินเฟ้อยังคงปรับตัวขึ้น ก็ควรเห็นการขึ้นดอกเบี้ยตามมา  

 

·         “เจอโรม โพเวลล์” ประธานเฟดชี้ การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ “ไม่ใช่ปัจจัย” เปลี่ยนแปลงการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด  

 

·         “คริสติน ลาการ์ด” ประธานอีซีบี ระบุว่า จะเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจยูโรโซนต่อไป

 

·         G-7 บรรลุข้อตกลงการปฏิรูปภาษีครั้งประวัติศาสตร์

สรุปประชุมบรรดารัฐมนตรีกระทรวงการคลัง G-7

- สนับสนุนข้อเสนอสหรัฐฯในการกำหนดอัตราการเก็บภาษีนิติบุคคลข้ามชาติขั้นต่ำทั่วโลก ไม่น้อยกว่า 15% ของรายได้

- ทุกฝ่ายเห็นพ้องต่อแนวทางการแก้ไขความเท่าเทียมด้านภาษีที่ถูกต้อง

- ที่ประชุมจะเตรียมด้านความร่วมมือที่เหมาะสมระหว่าง “การประยุกต์ใช้กฎภาษีระหว่างประเทศฉบับใหม่” และ “การถอนภาษีด้านการบริการดิจิทัล (Digital Services Tax) ทั้งหมด” รวมไปถึง “มาตรการอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน” ต่อบริษัทต่างๆทั้งหมด

·         “เยลเลน” เรียกร้อง G7 คงค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของพวกเขา ท่ามกลางเงินเฟ้อที่จะปรับขึ้นปีนี้ แต่น่าจะเป็ฯเพียงชั่วคราว

 

·         เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัสเซีย เผย ประชุมสุดยอดผู้นำ “ไบเดน-ปูติน” อาจเห็นการลดท่าทีแข็งกร้าวต่อกันได้

16 มิ.ย.นี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดสหรัฐฯ จะทำการพบกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ณ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อฟื้นคืนความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งเป็นการประชุมที่เกิดขึ้นท่ามกลางการคว่ำบาตร และข้อกล่าวหาการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ, การละเมิดสิทธิมนุษยชน และความแตกต่างในตะวันออกกลาง รวมทั้งประเด็นอื่นๆ

 

 

·         CORONAVIRUS UPDATES:

 

ยอดติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 174 ล้านราย ขณะที่เสียชีวิตสะสมแตะ 3.74 ล้านราย

 

·         CDC เผย สหรัฐฯ ฉีดวัควีนให้แก่ประชาชนในประเทศแล้วรวมกว่า 301.6 ล้านโดส

 

·         รัฐมนตรีสธารณสุขอังกฤษ ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าอังกฤษจะทำการสิ้นสุด Lockdown 21 มิ.ย. นี้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากยังมีนัยยะสำคัญอย่างมากสำหรับผลกระทบของ Delta Variant (การระบาดของสายพันธุ์ใหม่) ที่พบในอินเดียเมื่อเดือนที่แล้ว

 

·         สหรัฐฯสนับสนุนวัคซีน Covid-19 แก่ไต้หวัน 750,000 โดส

 

·         สถานการณ์ติดเชื้อในไทย

วันศุกร์ ติดเชื้อเพิ่ม 2,631 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย

วันเสาร์ ติดเชื้อเพิ่ม 2,817 ราย เสียชีวิต 36 ราย

วันอาทิตย์ ติดเชื้อเพิ่ม 2,671 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 23 ราย

รวมระหว่าง 4-6 มิ.ย. ติดเชื้อเพิ่ม 8,119 ราย เสียชีวิต 90 ราย

ยอดติดเชื้อสะสมล่าสุดในไทย 177,467 ราย และเสียชีวิตสะสมรวม 1,236 ราย

 

·         นักบริหารการเงินแนะจับตาเงินบาทสัปดาห์นี้ในกรอบ 31.15-31.50 บาท/ดอลลาร์

โดยติดตามปัจจัยสำคัญ ได้แก่
1. สถานการณ์และแผนการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ในประเทศ
2. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย
   - อัตราเงินเฟ้อ (CPI และ PPI) เดือนพ.ค.
   - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. (เบื้องต้น)
   - ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน
   - สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.
   - จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ

- เงินบาทอ่อนค่า จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า-แผนกระจายวัคซีนโควิด

เงินบาททยอยอ่อนค่า ขณะที่หุ้นไทยย่อตัวลงเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ แต่ยังยืนเหนือ 1,600 จุด จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า สถานการณ์โควิด-แผนรกระจายวัคซีนโควิด-19 ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังสหรัฐฯ มีคำสั่งห้ามลงทุนในบริษัทจีนเพิ่มเติม

- เปิดข้อมูลโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในกรุงเทพฯ 148 แห่ง ได้รับจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า รวม 35,000 ขวด เพื่อเตรียมดีเดย์ฉีดตั้งแต่ 7 มิ.ย.นี้

วันที่ 6 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตจาก บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ลอตแรก จำนวน 1.8 ล้านโดส เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ล่าสุดกรมควบคุมโรค ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ดำเนินการจัดสรรวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 35,000 ขวดให้กับโรงพยาบาลและสถานบริการทางการแพทย์ต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 148 แห่ง

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

หอการค้า ชี้แผนฉีดวัคซีนฟื้นความเชื่อมั่นธุรกิจ หวังรัฐฉีดให้ได้ตามแผน หนุนเริ่มปรับแผนธุรกิจไตรมาส 3 หนุนเศรษฐกิจฟื้นช่วงปลายปี ภาคการผลิตคาดปรับแผนหลังผู้ติดเชื้อต่ำกว่าหลักพัน