• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2564

    1 มิถุนายน 2564 | Gold News



ทองทรงตัวเหนือ 1,900 เหรียญ หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯหนุนความต้องการเพิ่ม

ราคาทองคำทางตัวได้เหนือระดับ 1,900 เหรียญ แม้ว่าเมื่อวานจะเป็นวันหยุด Memorial Day ของสหรัฐฯ ในขณะที่ตลาดยังได้รับอานิสงส์จากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือนเม.ย. และความต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อของนักลงทุน


· ทำเนียบขาว เผย ไบเดนจะผลักดัน “แผนงบประมาณ” ที่อาจเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา, โครงสร้างพื้นฐาน และการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ด้วยแผนวงเงิน 6 ล้านล้านเหรียญ


· ความต้องการทองคำในอินเดียลดลงต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากร้านค้าจิวเวลรีที่ปิดทำการจากภาวะ Lockdown ในประเทศ


· ตลาดสนใจประเด็นใหญ่สัปดาห์นี้ คือ การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯที่อาจออกมาแตะ 650,000 ตำแหน่งแม้ว่าผลลัพธ์การจ้างงานจะยังไม่แน่นอน โดยจะเห็นได้จากในเดือนเม.ย. ที่อ่อนแอเกินคาด และมีการจ้างงานเพียง 266,000 ตำแหน่งเท่านั้น


· เฟดจะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 16 มิ.ย. และสัปดาห์นี้อาจเห็นโอกาสที่สมาชิกเฟดล่าสุดจะหารือนโยบายก่อนการประชุมตามกำหนดได้ ซึ่งอาจเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 5 มิ.ย. นี้

อย่างไรก็ดี บรรดานักลงทุน ยังเชื่อว่า เฟดจะยังคงแนวทางการรอให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวได้มากขึ้นก่อนจะหารือเรื่องการลดการเข้าซื้อพันธบัตรได้ จึงช่วยบรรเทาการตกของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรับฯให้แตะ 1.58%

ขณะที่เครื่องมือ Fed Fund Futures สะท้อนว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในปี 2023


· Kitco Survey ชี้ แนวโน้มทองคำเป็นขาขึ้นจากมุมมองนักลงทุนส่วนใหญ่กว่า 67% และนักวิเคราะห์กว่า 57%




หัวหน้านักกลยทุธ์จาก Forexlive.com ระบุว่า ทองคำยังคงแนวโน้มขาขึ้นได้ต่อ ท่ามกลางเสียงของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่กำลังจับตาแนว 1,950 เหรียญ ที่คาดว่าอาจเห็นทองคำกลับขึ้นไปได้ และจะมีโอกาสเห็นทองคำกลับสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

* เหล่านักวิเคราะห์บางส่วน ยังระบุว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์, เงินเฟ้อ, ความผันผวนใน Crypto และภาพขาขึ้น ดูจะเป็นเหตุผลเชิงบวกสำหรับราคาทองคำในเวลานี้


* ผู้อำนวยการจาก Walsh Trading มองทองคำยังมีแรงหนุนในฐานะ Safe-Haven แต่จะเป็นลักษณะค่อยๆปรับขึ้นอย่างช้าๆ ยกเว้นว่าดอลลาร์จะกลับมาแถว 93-94 จุดอีกครั้ง จึงจะเป็นอุปสรรคสำหรับราคาทองคำได้ แต่หากดัชนีดอลลาร์ยังอยู่แนว 90 จุด ก็จะถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทองคำและภาคการส่งออก


* ประธานจาก Phoenix Futures and Options LLC มองว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเฟดที่มองว่าการปรับขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเพียง “ชั่วคราว” และเชื่อว่าเงินเฟ้อจะขึ้นได้ต่อจึงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากแผนโครงสร้างพื้นฐานของนายไบเดนสามารถผ่านสภาได้ก็จะยิ่งหนุนภาคเอกชน รวมทั้งดันไม้, ทองแดง, เหล็ก ให้สูงขึ้น และเมื่อสินค้าในกลุ่มโภคภัณฑ์ปรับขึ้นก็จะเป็นบวกต่อทองคำเช่นกัน

นอกจากนี้ การที่ Crypto ยังทรงตัวก็ยังถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำด้วยเช่นเดียวกัน


* นักวิเคราะห์บางส่วน ไม่คิดว่าทองคำจะปรับขึ้นมากเกินไป และมีโอกาสปรับลงมาได้ หลังจากที่ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาทองคำเคลื่อนไหวแกว่งตัวกว่า 200 เหรียญ จึงมีโอกาสเห็นทองคำเข้าสู่สภาวะ “สะสมพลัง” เพื่อรอการขึ้นต่อได้ และคาดว่าทองคำน่าจะปรับขึ้นได้ดีในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า


* กรรมการผู้จัดการจาก Bannockburn Global Forex กล่าวว่า หากดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวขึ้น มีโอกาสกดดันทองคำให้ต่ำกว่า 1,900 เหรียญ


* นักวิเคราะห์จาก Darin Newson Analysis มองว่า ทองคำมีสัญญาณ Overbought เริ่มขึ้นแนว 1,900 เหรียญ ดังนั้น อาจเห็นแรงเทขายทำกำไรเข้ามาได้ ซึ่งทองคำจะมีแนวรับแรกที่ 1,875.4 เหรียญ หากหลุดต่ำกว่ามีโอกาสกระตุ้นให้เกิดแรงขายเข้ามาก่อนในระยะสั้นๆได้


· Ed Yardeni คาด เศรษฐกิจสหรัฐฯจะสามารถรับมือกับสภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้ และตลาดจะยังเป็นขาขึ้น


· Reuters เผยว่า กลุ่ม G7 มีการร่างการสนับสนุนการใช้ภาษีนิติบุคคลทั่วโลกเป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งเรื่องการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ

คาดสัปดาห์นี้อาจเห็นข้อตกลงการสนับสนุนเศรษฐกิจและการเร่งบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสได้ และคาดจะเห็นการบรรลุข้อตกลงภาษีบริษัทขั้นต่ำทั่วโลกในเดือนก.ค.นี้

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจาก G7 มีกำหนดการจะเข้าพบกันที่กรุงลอนดอนในวันที่ 4-5 มิ.ย.นี้ เพื่อหารือแนวทางการสร้างข้อกำหนดที่จำเป็นเพื่อความยั่งยืนในระยะยาวของภาคการเงิน ซึ่งอาจเป็นนัยยะสำหรับการค่อยๆถอนแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจได้


· OECD ปรับเพิ่มคาดการณ์จากการฉีดวัคซีน - สหรัฐฯกระตุ้นเศรษฐกิจ

แนวโน้มเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจากการเร่งฉีดวัคซีนในประเทศที่หนุนให้ภาคบริษัทกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ท่ามกลางสหรัฐฯที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนนับล้านล้านเหรียญ ส่งผลให้ OECD มีการปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกโตได้ 5.8% ปีนี้ และคาดปีหน้าโตได้ 4.4%


· สมาชิกสภาฝ่ายปกครองของอีซีบี ยังคงมองว่า “เงินเฟ้อ” เป็นหนึ่งในปัจจัยจขับเคลื่อนเศรษฐกิจยูโรโซน แต่ยังไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย

เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนยังมีความไม่แน่นอน และอีซีบียังไม่ควรสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในเวลานี้ เพราะไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ


· ข้อมูลเงินเฟ้อเยอรมนีปรับขึ้นเหนือเป้าหมายอีซีบีในเดือนพ.ค. แตะ 2.4% จาก 2.1% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่อีซีบีกำหนดเป้าไว้ที่ 2%


· รัฐมนตรีการคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า อียูจะทำการเปิดเผยแผนแพ็คเกจกองทุนฟื้นฟูการระบาด 7.5 แสนล้านยูโร ด้วยการทยอยผ่านพันธบัตรวงเงินขั้นต้น 1 หมื่นล้านยูโร และจะค่อยๆอัดฉีดผ่านระบบเศรษฐกิจยุโรปไปเรื่อยๆจนถึง 1 แสนล้านยูโรในปีนี้


· รัสเซีย กล่าวกับสหรัฐฯ ว่าอาจเห็นสัญญาณที่ไม่น่าพอใจก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง “ไบเดน-ปูติน” ได้ ในวันที่ 16 มิ.ย. นี้


CORONAVIRUS UPDATES:

· สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด ทั่วโลกยอดติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นมาที่ 171.45 ล้านราย ยอดเสียชีวิตสะสมทั่วโลกแตะ 3.56 ล้านราย




· สถานการณ์ในประเทศไทยยังไม่สู้ดี วานนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5,485 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 159,792 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 19 ราย เสียชีวิตสะสม 1,031 ราย

ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน – 31 พ.ค. เพิ่มขึ้นมาที่ 130,929 ราย


· สิงคโปร์เผย อาจผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดได้หาก 13 มิ.ย. นี้สถานการณ์ระบาดในประเทศดีขึ้


· การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของแอฟริกาใต้กำลังแข่งกับการยับยั้ง Third Wave

ขณะที่รายงานการทบทวนเสถียรภาพทางการเงิน ระบุว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มรีบาวน์ได้ จากที่ -7% ในปีที่แล้ว


· รัฐวิคทอเรียของออสเตรเลียพบรายงานติดเชื้อใหม่เพิ่ม 9 ราย


· จ้างงานในจีนอ่อนแออาจกดดันเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้เต็มที่


· Covid-19 กระทบอินเดีย คาดจีดีพีไตรมาสแรกขยายตัวได้ 1% ก่อนเผชิญการระบาดระลอกหนัก


· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.00-31.50 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแกว่งแคบ ในฐานนี้มาสักพัก ขณะที่เมื่อวานนี้ฝั่งนิวยอร์กและลอนดอนก็ปิดทำการส่งผลให้ธุรกรรมคงเบาบาง ท่ามกลางตลาดที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบ

ล่าสุด ผู้ว่าฯ ธปท.ให้มุมมองว่าเศรษฐกิจไทยจะเลื่อนการฟื้นตัวออกไปนานขึ้นเป็นไตรมาส 1/66 จากเดิมที่เคยมองไว้ ในช่วงกลางปี 65 นั้น ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินเท่าใดนัก โดยเชื่อว่าปัจจัยในประเทศมีผลกระทบที่ค่อนข้างจำกัดต่อค่าเงิน


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายกรัฐมนตรีไทย ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 ต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นงบรายจ่าย 3.1 ล้านล้านบาท ประมาณการรายได้ที่ 2.4 ล้านล้านบาทและเป็นงบประมาณแบบขาดดุล 7 แสนล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้สมมติฐานว่า เศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวได้ 4-5% อัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 0.7-1.7%

- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้การระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายระลอก ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศต้องสะดุดหลายช่วง จนส่งผลต่อกำลังซื้อ การใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงภาคธุรกิจที่ขาดสภาพคล่อง จึงคาดว่ากว่าที่เศรษฐกิจไทยจะกลับไปฟื้นตัวเทียบเท่ากับระดับปกติก่อนมีโควิดน่าจะลากยาวออกไปจนถึงไตรมาส 1/66

รวมทั้ง คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค.64 ว่า ยังมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้รับผลจากการระบาดของไวรัสโควิดในประเทศ ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันยังคงเพิ่มขึ้นสูง ในขณะที่ภาครัฐยังใช้มาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศอย่างต่อเนื่อง


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com