MTS Help Center

ดอลลาร์ทรงตัวหลังรีบาวน์มาได้ ท่ามกลางนักลงทุนที่มีท่าทีระมัดระวังช่วงเริ่มต้นสัปดาห์จากการประชุมของธนาคารกลางต่างๆ และการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะบ่งชี้นัยยะต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก

เอเชียเคลื่อนไหวเบาบางท่าทกลางตลาดหลักอย่างจีนและญี่ปุ่นที่ปิดทำการ โดยยูโรทรงตัว 1.2029 ดอลลาร์/ยูโร และเงินเยนทรงตัว 109.28 เยน/ดอลลาร์

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัว 91.242 จุด

Commenwealth Bank of Australia คาด ดอลลาร์อาจอ่อนค่าต่อจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้น ขณะที่อุปสงค์การนำเข้าของสหรัฐฯมีแนวโน้มจะหนุนค่าเงินกลุ่มส่งออกอื่นๆ

นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส เรียกร้องให้เฟดเริ่มหารือเรื่องการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ประธานเฟดจะส่งสัญญาณชัดเจนในการอดทนรอ

คืนนี้ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดมีกำหนดการกล่าวถ้อยแถลง เช่นเดียวกับสมาชิกอื่นๆที่มีกำหนดการในสัปดาห์นี้ ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย, อังกฤษ และนอร์เวย์ มีกำหนดการในสัปดาห์นี้

 

·         Ethereum ทะลุ 3,000 เหรียญในวันนี้ ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเหล่านักลงทุนคาดว่าว่า Ethereum จะมีประโยชน์มากขึ้นในระบบการเงินในอนาคต

โดยราคาพุ่งขึ้น 3% ที่ระดับ 3,051.99 เหรียญ ในตลาดเอเชีย สำหรับภาพรวมในปีนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 300% ซึ่งแซงหน้า Bitcoin ที่เป็นที่นิยมมากขึ้นถึง 95%

 

·         รองประธานอีซีบี เผย อีซีบีจะเริ่มลดการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับฉุกเฉินจากการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นหนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ 10 มิ.ย. อีซีบีมีกำหนดจัดประชุมที่อาจเห็นถึงการปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตร และหารือเรื่องการลดการสนับสนุนทางการเงิน

 

·         สหรัฐฯเร่งหารือการออกใบอนุญาตวัคซีน Covid-19 ที่ครอบคลุมขึ้น ขณะที่อินเดียเรียกร้องการงดออกใบอนุญาตเพื่อปกป้องประชาชน

ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต มีรายงานติดเชื้อใหม่รายวันทะลุ 400,000 ราย ทำให้ยอดสะสมทะลุเหนือ 19.55 ล้านราย

·         ดร. สก็อต ก็อทเลียบ อดีตคณะกรรมาธิการ FDA สหรัฐฯ เรียกโครงการฉีดวัคซีน Covid-19 เป็น “ความสำเร็จอย่างมาก”

ยอดติดเชื้อใหม่ของสหรัฐฯลดจำนวนลงท่ามกลางชาวสหรัฐฯนับล้านที่ได้รับการฉีดวัคซีนในแต่ละวัน หนุนทิศทางการฉีดวัคซีนเชิงบวกที่สามารถเลี่ยงการติดเชื้อเพิ่มขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของประเทศบางแห่งในโลกที่พลิกสถานการณ์ที่เลวร้ายจาก Covid-19

ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่ 7 วันในสหรัฐฯ ปรับตัวลงต่ำกว่า 50,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต.ค. ปีที่แล้ว และถือว่าลดลงมาราว 17% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน

·         U.N. เผย ยอดขายสินค้าปลีกออนไลน์ปรับขึ้นกว่า 19% ช่วง Lockdown

·         นักวิทยาศาสตร์ชาวอินเดีย ระบุว่า สายพันธุ์ใหม่ในอินเดียอาจหลบเลี่ยงภูมิต้านทานในร่างกายได้

·         อินเดียติดเชื้อสะสมใกล้ทะลุ 20 ล้านราย

·         ญี่ปุ่นเผยยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงเพิ่มแตะ 1,050 รายทั่วประเทศ

 

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้น 5,900 ราย แตะที่ 604,885 ราย ขณะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 61 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 10,400 ราย

 

 

·         เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 488 ราย ดันยอดรวมแตะ 123,728 ราย

 

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี เปิดเผยในวันนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 488 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 123,728 ราย

 

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ

- กระทรวงสาธารณสุขเผยวันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 2,041 คน ป่วยสะสมทะลุ 7 หมื่นกว่าราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 31 คน รวมสะสมเพิ่มเป็น 276 คนแล้ว

วันที่ 3 พ.ค. 2564 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า วันนี้(เบื้องต้น) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 2,041 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 31 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมวันนี้ทะลุ 71,025 รายไปแล้ว และมีผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 276 คน

 

·         “บลินเคนส์” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังมีท่าทีเข้มงวดกับจีน และมีแนวทางดำเนินการกับจีนเพิ่ม

·         นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า โครงการ travel bubble จะเริ่มในวันที่ 17 พ.ค.ที่จะถึงนี้

·         จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ มุ่งเป้าสนับสนุนการฟื้นตัวจาก Covid-19 ท่ามกลางหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด โดยจะร่วมสนับสนุนทางการเงินและระบบการเงินให้มีเสถียรภาพ

·         ยอดขายสินค้าออนไลน์คิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในปีที่แล้ว เนื่องจากการมาตรการ Lockdowns เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้อีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว

ประมาณการของ UN Conference on Trade and Development (UNCTAD) ระบุว่า ยอดขายออนไลน์คิดเป็น 19% ของยอดค้าปลีกโดยรวมในปี 2020 เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ เกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 25.9% จากเดิม 20.8% ในปีก่อน

จีนปรับสูงขึ้น 24.9%

อังกฤษเพิ่มขึ้นที่ 23.3% และสหรัฐฯ 14.0%

 

·         ราคาน้ำมันลดลงในวันนี้เนื่องจากการแพร่ระบาดระลอก 2 ของไวรัสโคโรนาในอินเดียซึ่งกดดันอุปสงค์น้ำมันที่ฟื้นตัวในช่วงสั้น ๆ รวมทั้งกดดันมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการบริโภคในประเทศที่พัฒนาแล้วและจีนในช่วงครึ่งหลังของปี

สัญญาน้ำมันดิบ Brent เดือนกรกฎาคม ปรับลดลง 48 เซนต์ 0.7% ที่ระดับ 66.28 เหรียญ/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนมิถุนายน ปรับลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.7% ที่ระดับ 63.11 เหรียญ/บาร์เรล

จากข้อมูลเบื้องต้นในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าข้อจำกัดระดับรัฐฯที่มุ่งเป้าไปที่การยับยั้งการติดเชื้อในอินเดียทำให้ยอดขายเชื้อเพลิงลดลง

โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหน่วยงานอุตสาหกรรมชั้นนำของอินเดียเรียกร้องให้ทางการลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเนื่องจากระบบการดูแลสุขภาพของประเทศกำลังประสบปัญหาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนทั่วโลก คาดว่าจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุดในไตรมาสที่สาม ซึ่งกระตุ้นให้นักวิเคราะห์เพิ่มการคาดการณ์ของราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน