• “ไบเดน” กับอัตราภาษีนิติบุคคลที่ปรับตัวลงมากว่า 4 ทศวรรษ

    30 เมษายน 2564 | Economic News
   


นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯกับแผนการขึ้นภาษีนิติบุคคลที่อาจส่งผลให้ ชาวสหรัฐฯต้องเผชิญกับการปรับลดภาษีนิติบุคคลให้อยู่ระดับต่ำในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา

รัฐบาลทั่วโลกต่างเผชิญกับการสิ้นหวังที่จะหารายเพิ่มเพื่อมากอบกู้วิกฤตโควิดที่บั่นทอนเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่ “ภาษีนิติบุคคล” ดูจะกลายมาเป็นเป้าหมายใหม่ที่ค่อนข้างเห็นได้ชัดหลัจากที่ปรับลงมาในนานนับหลายสินปี

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายล้านล้านเหรียญ
- สะท้อนถึงความต้องการที่นายไบเดนจะปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็น 28%
- ต้องการลดช่องโหว่ที่บริษัทต่างๆจะเลี่ยงค่าใช้จ่ายทางด้านภาษีของตนได้

OECD Group มองว่า แม้จะยังไม่มีการรับรองจากสภาคองเกรสที่จะอนุมัติแผนภาษีดังกล่าวให้สูงถึง 28% แต่ก็อาจเห็นภาษีนิติบุคคลถูกปรับขึ้นสูงกว่า 21% ได้ สำหรับหลายๆประเทศสมาชิกในกลุ่ม OECD

อย่างไรก็ดี แผนการล่าสุดก็ยังคงเป็นระดับภาษีที่อยู่ต่ำกว่า 46% ที่บริษัทสหรัฐฯเคยเผชิญเมื่อปี 1980 ก่อนจะเกิดการสู่ตลาดเสรีในยุคของประธานาธิบดี “เรแกน”และ “แทชเชอร์” ที่แข่งขันกันกับรัฐบาลต่างๆทั่วโลกในการหั่นภาษีนิติบุคคลให้ลดน้อยลง

ภาพประกอบอัตราภาษีนิติคคลที่ปรับตัวลดลงมาตลอดช่วง 4 ทศวรรษ:



ไบเดน ย้ำต่อสภาคองเกรสว่า “นี่คือเวลาที่ต้องเก็บภาษีนิติบุคคลในกลุ่มในคนร่ำรวยที่คิดเป็น 1% ของชาวอเมริกาเพื่อให้เกิดความ “ยุติธรรม” และร่วมกันจ่ายอย่าง “เท่าทียม”

สหรัฐฯจะไม่เป็นเพียงประเทศเดียวที่มีการขึ้นภาษีนิติบุคคล เนื่องจาก

อังกฤษก็กำลังวางแผนที่จะขึ้นภาษีนิติบุคคลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1974 ซึ่งถือเป็นระดับการขึ้นภาษีที่สูง จากที่บริษัทจ่ายภาษีกำไรเพิ่มขึ้น 25% ตั้งแต่ปี 2023 (จากปัจจุบัน 19%)

ขณะเดียวกัน 140 ประเทศทั่วโลกก็มีการเจรจาข้อตกลงกับ OECD และเห็นพ้องว่า กลางปีนี้อาจมีการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ เพื่อยุติการแสวงหาผลกำไรจากบริษัทข้ามชาติในกลุ่มประเทศที่มีระดับภาษีนิติบุคคลต่ำ เช่น ไอร์แลนด์ ที่มีการเก็บภาษีนิติบุคคล 12.5%



ที่มา: Reuters

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com