MTS Help Center

ดอลลาร์ทรงตัวในทิศทางอ่อนค่าเข้าใกล้ต่ำสุดรอบเกือบหลายสัปดาห์เมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ตลาดได้รับแรงกดดันจาก

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีอ่อนตัวลง และทรงตัวแนว 1.58% (กลางเดือนนี้ทำต่ำสุดรอบ 1 เดือนที่ 1.528%)

- นักลงทุนลดสถานะรอการตัดสินใจของเฟดในการประชุมสัปดาห์นี้

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวบริเวณ 90.947 จุด หลังเมื่อคืนนี้อ่อนค่าลงไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 3 มี.ค. ที่ 90.679 จุด

ภาพรวมตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมี.ค. ดอลลาร์อ่อนค่าแล้วเกือบ 3% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯค่อนข้างเคลื่อนไหวในกรอบ หลังไปทำสูงสุดรอบ 14 เดือนที่ 1.776%

ค่าเงินเยนไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักหลังบีโอเจยังคงนโยบายตามคาด โดยเยนขยับอ่อนค่าขึ้นเพียงเล็กน้อย 0.1% บริเวณ 108.18 เยน/ดอลลาร์ (วันศุกร์ทำแข็งค่ามากสุดรอบ 7 สัปดาห์ที่ 107.48 เยน/ดอลลาร์)

ค่าเงินยูโรอ่อนลงเล็กน้อย 0.1% บริเวณ 1.2071 ดอลลาร์/ยูโร (เมื่อวานนี้เข้าใกล้แข็งค่ามากสุดรอบ 2 เดือนบริเวณ 1.2117 ดอลลาร์/ยูโร)

ค่าเงินออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.15% แตะ 0.7789 ดอลลาร์/ออสเตรเลีย

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าเล็กน้อย 0.1% หลังวานนี้ทำแข็งค่ารอบ 7 สัปดาห์บริเวณ 6.4710 หยวน/ดอลลาร์

มุมมองนักวิเคราะห์

หัวหน้าฝ่ายการเงินจาก Ryobi Systems ระบุว่า

- ดอลลาร์ไม่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเหมือนช่วงต้นปี

- ดอลลาร์เคลื่อนไหวตามกระแสคาดการณ์ที่หลากหลาย เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านค่าใช้จ่ายทางการเงินจำนวนมาก, ความเร็วในการฉีดวัคซีน

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตลาดกำลังรอประชุมเฟด ที่อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในการประชุมช่วง 2 วันนี้

- นักลงทุนน่าจะมีท่าทีระมัดระวังต่อถ้อยแถลงประชุมเฟด

- "โพเวลล์" ประธานเฟด มีแนวโน้มจะเผชิญกับคำถามถึง "เงื่อนไขการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" ที่จะเป็นตัวการันตีการก้าวออกจากการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อ "การประชุมเฟดวาระนี้" จะเป็นปัจจัยที่กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสหรัฐฯ และดอลลาร์ให้อ่อนค่า

นักกลยุทธ์จาก National Australia Bank กล่าวว่า

- ตลาดกลับมาเคลื่อนไหวแบบ Reflation Trade

- ค่าเงินสกุลอื่นๆเมื่อเทียบกับดอลลาร์ดูจะเคลื่อนไหวได้ดีจากสภาวะต่างๆ

· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเยอรมนี - ฝรั่งเศส หนุนแนวทางการขึ้นภาษีบริษัทขั้นต่ำของสหรัฐฯที่อัตรา 21%

· อังกฤษเพิ่มรายชื่อชาวรัสเซีย 14 คน รวมถึงพลเมืองของประเทศแอฟริกาใต้, สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน และ ละตินอเมริกา ในบัญชีคว่ำบาตรเพื่อต้านการทุจริตทางการเมือง

· ผลประกอบการภาคบริษัท อุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) แสดงให้เห็นว่า ผลกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 711.18 พันล้านหยวน (1.0966 แสนล้านเหรียญ) ในเดือนมีนาคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 92.3% จากปีที่แล้ว หลังจากที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนา

· สรุปถ้อยแถลงของ "ฮารุฮิโกะ คุโรดะ" ผู้ว่าการบีโอเจหลังจบประชุม

- บีโอเจยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
- บีโอเจมองเงินเฟ้อ "พลาดเป้า" 2% ในปีนี้
- การประกาศมาตรการจำกัดไวรัสรอบใหม่ บดบังทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์โลก
- บีโอเจเตือนถึงความไม่แน่นอนระดับสูง จากการระบาดที่ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปอีกนานเท่าใด
- คาดการณ์เงินเฟ้อไม่ถึงเป้า จากการลดค่าธรรมเนียมโทรศัพท์มือถือ จึงทำให้เงินเฟ้อมีโอกาสโตราว 0.5 - 1% แต่คาดเงินเฟ้อยังมีโอกาสค่อยๆปรับขึ้นได้
- ไม่คิดว่าจะเห็นทิศทางเศรษฐกิจเป็น "ขาขึ้น" อย่างมาก
- การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกค่อนข้างชัดเจน
- การค้าโลกมีการรีบาวน์กลับได้เทียบเท่าช่วงก่อนการระบาด

- การส่งออกของญี่ปุ่นและผลผลิตในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น จึงช่วยหนุน "ผลกำไรบริษัท และค่าใช้จ่ายด้านต้นทุน"

· เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ทางญี่ปุ่นจะเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนจำนวนมากในใจกลางกรุงโตเกียวในเดือนหน้า เพื่อเร่งการรณรงค์การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา ขณะที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกำลังจะเริ่มขึ้นในอีก 87 วันข้างหน้านี้

· รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ กล่าวว่า ทางรัฐบาลจะเริ่มเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในปีหน้าตามที่เสนอไปก่อนหน้านี้

· อินเดียระบาดหนักยอดติดเชื้อใหม่รายวันยังทะลุ 3 แสน - กองทัพเรียกร้องกำลังการช่วยเหลือ

- ท่ามกลางความจำเป็นที่ต้องได้รับเครื่องมือทางการแพทย์จำนวนมาก

- โรงพยาบาลในอินเดียไม่สามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มได้

- โรงพยาบาลขาดแคลนเตียงและออกซิเจน

นอกจากนี้ การระบาดภายในประเทศกำลังผลักดันให้จำนวนผู้เสียชีวิตในอินเดียพุ่งแตะ 200,000 ราย

· ออสเตรเลียสั่ง "ระงับ" เที่ยวบินจากอินเดีย เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นและส่งผลลบต่อสถานการณ์ระบาดในอินเดียอย่างหนัก

· ผู้นำรัฐบาลทหารพม่าพิจารณาด้วยการระมัดระวังและมีสัญญาณบวกต่อการรับแนวทางคำแนะนำของที่ประชุม ASEAN ในการยุติวิกฤตของประเทศ หลังเกิดเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ.

· น้ำมันรีบาวน์ แต่เป็นไปได้อย่างจำกัด ท่ามกลางความกังวลด้านอุปสงค์การจากแพร่ระบาดของไวรัสในอินเดีย

ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่การฟื้นตัวยังเป็นไปได้อย่างจำกัด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในอินเดีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.6% ที่ระดับ 66.05 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่เมื่อวานนี้ลดลงไป 0.7%

น้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.7% ที่ระดับ 62.31 เหรียญ/บาร์เรล จากที่ลดลงไป 0.4% จากช่วงก่อนหน้า